เขารักนาง กล่าวโทษว่าหลันเล่อส่งคนย่ำยีนางเป็นหลันเล่อที่หลงใหลในตัวเขา จะเป็นคนอื่นได้หรือ แก้แค้นแทนนางจนหลันเล่อไม่อาจรักษาชีวิต 18ปีผ่านมา ทุกอย่างเปลี่ยนไป
เขารักนาง กล่าวโทษว่าหลันเล่อส่งคนย่ำยีนางเป็นหลันเล่อที่หลงใหลในตัวเขา จะเป็นคนอื่นได้หรือ แก้แค้นแทนนางจนหลันเล่อไม่อาจรักษาชีวิต 18ปีผ่านมา ทุกอย่างเปลี่ยนไป
"ไปให้พ้นหน้าข้า"
"ไท่จือโปรดฟ้งข้าก่อน"
รอยยิ้มหยันสุดป่าเถื่อนของต้าหมิงคุนเขม้นมองเหมือนจะฉีกเนื้อหนังของลี่หลันเล่อฉุดดึงร่างสั่นเทาด้วยลมหนาวและเกล็ดหิมะโปรยปรายให้ลุกขึ้นมาเผชิญหน้าสายตาที่มองไม่ต่างจากเดิมทว่ามืออุ่นภายใต้ถุงมืออุ่นนุ่มบีบปลายคางเย็นชืดสุดแรงจนลี่หลันเล่อต้องกัดฟันข่มความเจ็บปวด
"เจ้าส่งคนย่ำยีเมิ่งเม่ย แล้วปล่อยให้นางต้องตายเพื่อเจ้าสมหวัง ยังจะร้องขอให้ข้าฟังเจ้า ชิ"
ผลักลี่หลันเล่อให้ทรุดลงไปกองกับพื้น
"ข้า..ข้าไม่ได้ทำร้ายนาง..ได้โปรด"
ต้าหมิงคุนย่อกายลงจ้องมองใบหน้างดงาม ที่บัดนี้ริมฝีปากซีดเผือดด้วยความหนาวเหน็บ
"เจ้าหลงใหลใฝ่ฝันในตัวข้า.. มากเพียงนี้เชียวหรือคุณหนูลี่"
จ้องมองลี่หลันเล่อ ยกมืออุ่นขึ้นลูบที่แก้มเย็นเฉียบ ใบหน้าหล่อเหลากับท่าทีสง่างามที่ลี่หลันเลอคอยเฝ้าชื่นชมก็ยังเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน ทว่ามือใหญ่กับฉีกดึงอาภรณ์จนขาดหวิ่น ลี่หลันเล่อยกมือขึ้นปกปิดส่วนสำคัญของร่างกาย รอยยิ้มหยามเหยียดเย็นชาถูกแต้มที่ริมฝีปากหยักได้รูป
"เมิ่งเม่ย นางอ่อนต่อโลกไม่ได้ด้านชาเช่นเจ้านางจะต้องเจ็บปวดเพียงใดเมื่อถูกย่ำยี"
สายตาเกลียดชังยิ่งนัก
"ไท่จือ ข้าไม่ได้ส่งคนทำร้ายนาง ข้าไม่ได้ทำ นางเป็นสหายข้าข้าจะทำเรื่องแบบนี้ทำไมกัน เพื่อประโยชน์ใดกัน"
"เจ้าไม่ให้ข้าสนใจนางหมดหวังในตัวนาง เจ้ามันชั่วช้า ถึงจะไม่ตั้งใจฆ่านางแต่คนเช่นนางจะอยากมีชีวิตอยู่ด้วยถูกกระทำย่ำยีหรือไร"
สะบัดเสียง ลี่หลันเล่อเชิดหน้า เมิ่งเมิ่งเหนือกว่าลี่หลันเล่อในทุกด้านอย่างนั้นหรือ
"คุกเข่า อยู่ตรงนี้จนรุ่งสางบางทีข้าอาจละเว้นชีวิตเจ้า"
ไร้ทางออก จิตใจมืดมิดจมดิ่งไร้หนทาง เสียงลมหวีดหวิวเกล็ดหิมะโปรยปราย การตายของเมิ่งเม่ยยิ่งทำให้ต้าหมิงคุนเกลียดชังลี่หลันเล่อยิ่งขึ้น
……………………………………………………
"ข้ามองไท่จือต่างจากเจ้าหลันเล่อสายตาเจ้าชื่นชมเขาเสมอข้ารู้ดี"
เมิ่งเม่ยผู้ชึ่งเอ่ยปากออกมาเองว่าไม่เคยถูกใจไท่จือต้าหมิงคุนไม่เคยชอบแต่ต้าหมิงคุนผู้หยิ่งทะนง รักใคร่คาดหวังในตัวนางอย่างที่สุด
คุณหนูตระกูลลี่ผู้มากด้วยอำนาจเป็นบุตรีที่ถูกเลี้ยงดูด้วยความรักและตามใจ ลี่หลันเล่อที่คาดหวังในตัวของไท่จือจนออกนอกหน้าไม่สนใจคำทัดทานหรือท่าทีเดียจฉันท์ที่ต้าหมิงคุนมีให้ เขาสูงส่งลี่หลันเล่อก็สูงส่ง เช่นไรจึงไม่คู่ควร
ค่ำคืนหนาวเหน็บผ่านไปพร้อมกับเรื่องราวต่างๆ ที่ผ่านเข้ามาให้ทบทวน แม้ร่างกายจะไร้ซึ่งเรี่ยวแรงใบหน้าซีดเผือดแต่ความหยิ่งทะนงยังคงอยู่ ไม่ได้ทำแล้วคุกเข่าเพื่ออะไรกัน
มีเพียงลี่หลันเล่อที่รู้ดีคุกเข่าเพื่อ ร้องขอให้ต้าหมิงคุนยอมฟังถ้อยความจริงใจ ด้วยศรัทธาแรงกล้าว่าเขาจะมีเศษเสี้ยวใจเมตตาลี่หลันเล่อบ้าง แม้จะเพียงน้อยนิดก็ตาม ริมฝีปากสั่นระริกร่างกายสั่นเทา เกล็ดหิมะเกาะอยู่บนเรีอนผมหยาบกระด้าง บิดามารดาหายตัวสาปสูญตั้งแต่เกิดเรื่อง มีเพียงลี่หลันเล่อที่เดินเข้ามาสู่ประตูตำหนักบูรพา เพียงเพื่อคิดว่าต้าหมิงคุนจะยอมยกโทษให้ ประตูไม้หนักอึ้งเปิดอ้าออก องครักษ์หนุ่มก้าวออกมาจากบานประตูนั้น วางอาภรณ์ตัวใหม่ลงตรงหน้า
สายตาเย็นเยียบมองผ่านเลยเหมือนลี่หลันเล่อเป็นเพียงเกล็ดหิมะบนพื้น
"ไท่จือให้ท่าน.. คุณหนูลี่ไปเสียจากตำหนักบูรพา"
"จื่อจื่อ ท่านฟังข้าก่อน”
ใบหน้าขององครักษ์หนุ่มยังเฉยชา
“ไท่จือไม่ให้ท่านตายก็ถือว่าดีแค่ไหนแล้ว ไปเสีย”
“จื่อจื่อข้าอยากพูดด้วยความสัตย์ท่านฟังข้า ข้าไม่เคยคิดทำร้ายเมิ่งเม่ย ไม่ใช่ข้า ข้าไม่เคยคิดจะปองร้ายนางด้วยซ้ำไป”
“คิดจะให้ข้าส่งต่อข้อความนี้กับไท่จือหรือไร หากไม่ใช่คุณหนูลี่แล้วจะมีผู้ใดที่คิดทำเรื่องต่ำช้าอย่างนี้ได้ ใต้หล้าไม่มีใครกล้ากับคุณหนูลี่ ใต้หล้ามีสิ่งใดที่คุณหนูลี่ต้องการแล้วไม่ได้มาครอบครอง นอกจากหัวใจของไท่จือ ท่านจึงเกลียดชังเมิ่งเม่ย ถึงกับส่งคนย่ำยีนางแล้วฆ่านางเสีย เมิ่งเม่ยเป็นน้องสาวคนเดียวของข้า คิดหรือว่าข้ายังจะเชื่อคำพูดของคุณหนูลี่”
ลี่หลันเล่อถึงกับเซถลาทำไมไม่เคยรู้มาก่อนว่าเมิ่งเม่ยเป็นน้องสาวของจื่อจื่อ
ดั้นด้นมาที่นี่คนเดียวยอมคุกเข่าทั้งคืนเพื่อให้คนสองคนเกลียดชัง
จื่อจื่อหันหลังกลับเข้าไปด้านใน ประตูไม้หนักอึ้งถูกปิดลง
เมิ่งเม่ยเป็นน้องสาวของจื่อจื่อมิน่าเล่าไท่จือจึงพบนางแล้วหลงใหล ท่าทีอ่อนหวานของนาง ลี่หลันเล่อโง่งม ยิ้มหยันให้กับสวรรค์ เมิ่งเม่ยเผชิญเคราะห์กรรมแต่นางกลับทิ้งรอยร้าวและบาปเคราะห์ไว้กับลี่หลันเล่อ
"ไท่จือนางไปแล้ว"
"ให้พ่อค้าทาสจับนางไปขายเสีย"
"ไท่จือ ท่านไม่กลัวว่า.."
"ความผิดของนางหลักฐานชัดแจ้งเสด็จพ่อให้ข้าตัดสินใจเพียงลำพัง นางส่งคนทำร้ายเมิ่งเม่ยจนตาย เจ้าคิดว่ามากไปหรือ ยึดทรัพย์ตระกูลนางบิดามารดานางหนีไปแล้วก็ช่างแต่นางต้องรับโทษทัณฑ์"
"ปะปะเปล่า ขอบพระทัยไท่จือที่คืนความเป็นธรรมให้กับเมิ่งเม่ย"
ลี่หลันเล่อโซเซกลับไปยังตระกูลลี่ ที่ยิ่งใหญ่บัดนี้กลับเงียบงัน ข้าวของถูกรื้อค้นกระจุยกระจายจากหัวขโมยที่ได้โอกาสในการหาประโยชน์ในตระกูลลี่
ไท่จือผู้ยิ่งใหญ่ ต้าหมิงคุนอำนาจล้นมือถือโอกาสนี้จัดการตระกูลลี่ที่ยิ่งใหญ่
และจัดการคุณหนูลี่ที่เขาเกลียดชัง
ลี่หลันเล่อทรุดกายลงบนขั้นบันได ลมหนาวยังพัดโชยบิดามารดาคงเร้นกายห่ยไปจากแคว้นนี้เสีย ในเมื่อต้าหมิงคุนมักจะไม่ปล่อยให้มีชีวิตสุขสบายหากบาดหมางกับเขา
ลุกขึ้นเดินไปยังห้องเดิมที่เคยนอน รื้อค้นจนทั่วอยากให้มีของสำคัญพอให้ได้เบิกทาง ตื่นเต้นดีใจอย่างยื่ง เมื่อค้นเจอถุงเงินเก่าที่เคยวางทิ้งขว้างไม่มีความหมายยามครั้งที่ ยังไม่เกิดเรื่องขึ้น
บุรุษท่าทางกักขฬะสองสามคนยืนรายล้อมถุงเงินถูกดึงไปไว้ในมือของหนึ่งในชายร่างใหญ่ ลี่หลันเล่ออ้าปากค้างหันหลังออกวิ่งแต่ช้าไป
"ไปกับเรา เจ้าหน้าตางดงามเพียงนี้คงขายได้ราคา"
"จะได้ราคาอย่างไรเราต้องการแรงงานเพื่อทำงานหนักแต่ดูแม่นางน้อยเร่ร่อนคนนี้สิไร้เรี่ยวแรงใครกันจะซื้อ"
อีกคนแย้งขึ้น
"หมิงคุนไท่จือบอกให้นำตัวนางไปขายก็ต้องน้อมบัญชาไท่จือ ไม่แน่อาจมีใครเห็นนางแล้วถูกใจซื้อไปเป็นเมียทาสหรือสาวใช้ไว้ปรนเปรอโชคดีหน่อยอาจเป็นอนุ"
หมิงคุนไท่จือ หมิงคุนไท่จือไม่ให้ตายแต่ให้อยู่ไม่สู้ตาย เขารักใครเมิ่งเม่ยจนยัดเยียดบาปเคราะห์ให้กับลี่หลันเล่อได้เพียงนี้เชียวรึ ฮ่องเต้ชราก็ปิดหูปิดตา ปล่อยให้ไท่จือกระทำตามใจถือว่าเป็นการล้างไพ่ในมือ ไพ่ตัวสำคัญอย่างใต้เท้าลี่บิดาของลี่หลันเล่อ
นอกเขตวังหลวง
"เดิน เดินเร็วเข้าชักช้าอยู่ได้"
ลี่หลันเล่อในอาภรณ์ขะมุกขะมอมถูกมัดมือติดกับทาสคนอื่นโยงลากจูงกันไปในซอกเขา
ท้องหิวกายเหนื่อยหมดเรี่ยวแรง
"ข้าเอาคนนี้ คนนี้แล้วก็คนนี้"
มืออ้วนน่าเกลียดชี้มาที่ร่างโซเซของลี่หลันเล่อ
"ดีแค่ไหนที่ไม่ต้องเดินไปถึงชายแดนที่นี่ยังมีงานหนักให้ทำ"
พ่อค้าทาสเอ่ยปากปลอบใจแบบจอมปลอม ความจริงดีใจยิ่งที่ไม่ต้องรับภาระพาพวกทาสไปถึงชายแดนเสียค่าอาหารให้เสียเปล่าๆ ลี่หลันเล่อถูกแก้มัดออก
"งานหนักของข้าแค่เพียงขุดแร่"
"นายท่านส่งแร่เข้าไปในวังหลวงคงได้เงินมากมาย"
ปากก็พูดมือก็แกะเชือกที่รัดมือทั้งสองข้างออก
"งานที่มีทำไม่ทันต้องหาคนขุดแร่เพิ่ม"
ลี่หลันเล่อหลุดจากเชือกที่มัด วิ่งออกจากตรงนั้นอย่างรวดเร็วลี่หลันเล่อไม่มีทางทำงานหนักแบบนั้น นางสูงส่งไม่อาจลดตัว
"ทาสหนีพวกเจ้าตามจับตัวนางมาข้าจะลงโทษให้หนัก"
ล้มลุกคลุกคลานก็ยังหนีหนามเกี่ยวไม้เกาะก็วิ่งไม่หยุด
จนสุดท้ายจนมุมอย่างช่วยไม่ได้ บุรุษร่างกำยำทั้งดึงทั้งลากร่างอ่อนระโหยโรยแรงไปกับพื้น
“เจ้า อดยากมาหลายวัน ข้าขายไปจะได้กินอิ่มหนำยังหนีได้อีก ไม่รู้เอาเรี่ยวแรงมาจากไหนพวกเจ้าสั่งสอนนางต่อไปนางจะได้หลาบจำไม่กล้าหนีอีก”
หลายมือหลายเท้าต่างลงมือไม่อายนรกสวรรค์ ลี่หลันเล่อเจ็บแต่ไม่อาจร้องขอความเมตตารู้ดีว่าเปล่าประโยชน์ ได้แต่ยกมือกุมท้องที่โดนทั้งทุบทั้งตี
“จำไว้คราวหลังห้ามคิดหนีไปไหนอีก เป็นทาสหากไม่ยอมเชื่อฟังก็จะเจ็บตัวแบบนี้”
“นาง เป็นใครกันใบหน้าเมื่อก่อนคงงดงามไม่น้อย แต่ยามนี้คงลำบากยิ่งเห็นได้ชัดว่าซูบลงมากหากกินอิ่มนอนหลับคงดูดีกว่านี้”
“นางผู้นี้ไม่รู้นางทำอะไรให้ ไท่จือหมิงคุนไม่พอใจ จึงถูกสั่งให้ข้าจับตัวมาขายบ้านแตกสาแหรกขาด แล้วยังต้องมาเป็นทาส ดูนางตอนนี้สิเหมือนซากศพก็ไม่ปาน”
ลี่หลันเล่อกระอักเลือดสดๆ ออกมาดวงตาพร่ามัว ความเจ็บปวดที่มากมายทำเอา ร่างกายสั่นสะท้านหนาวร้อนจนไม่อาจแยกแยะ
“ข้าขอโทษ หลันเล่อ”
เสียง กระซิบแผ่วเบาของเมิ่งเม่ยดังจากที่ไกลแสนไกลน้ำเสียงอ่อนโยนแต่ดวงตาเย้ยหยันเหมือนเช่นทุกครั้งที่ผ่านมา
"ข้าไม่มีทางอภัยให้ท่านต้าหมิงคุน"
วังหลวงแคว้นหาน
“ไท่จือ คุณหนูลี่นางตายแล้ว”
“ตายหรือ จะไม่ง่ายไปหน่อยหรือไร” จื่อจื่อก้มหน้า
ทหารนายหนึ่งวิ่งเข้ามาประสานมือตรงหน้าด้วยท่าทีร้อนรน
“ไท่จือ มีคนอ้างว่า เป็นแม่นางเมิ่งเม่ยขอเข้าพบไท่จือ”
พระเอกสายแอพ เฉยชาทว่าโบ๊ะบ๊ะภายใน โคตรรั่ว อัตราการแขวะ0.01วินาที ภายใต้หน้ากากสูงส่งบริสุทธิ์ ในนามปรมาจารย์ ที่ค้ำคอไว้ พบกับ พระเอกสายกาว ที่ไม่เอื้อนเอ่ย ใครกันจะรู้ภายในใจท่านคิดเช่นไร พบกับนิยายแนว ขุนเขาจอมยุทธ์ บุญคุณความแค้น แต่พระเอกสายฮา สะกดกลั้นความอาไว้ภายใต้หน้ากากหล่อเหลาอย่าเผลอนินทาอย่าเผลอหลงรัก เพราะปรมาจารย์ท่านนี้อ่านใจคนออก
เรื่องเล่าของท่าน อาจทำข้าสำราญ หรืออาจทำให้ทุกข์ตรมไปกับท่าน ถือว่าท่านจ่ายค่าตอบแทนแก่ข้าแล้ว เสพสุขจากความทุกข์ตรมกระทำได้เช่นนั้นหรือความทุกข์ตรมของผู้อื่น ทำให้เราหลุดพ้นความทุกข์ตรมของเราได้
บุตรีของขุนนางกบฏ เพื่อคืนความเป็นธรรมให้บิดาแทนที่จะหนีไปไกลแสนไกลกลับพาตัวเองมาผูกพัน กับคนที่เป็นศัตรู แค้นฆ่าพ่อจือหรานจะสามารถทวงความเป็นธรรมให้บิดาได้หรือไม่ ..พบกับความรักความแค้นที่ฝั่งแน่น
ตำรวจหญิงมือดีดับอนาถแต่สวรรค์กลับให้โอกาสได้กลับไปแก้แค้น แทนหญิงโง่งมคนหนึ่งที่ถูกหักหลังเช่นกัน งานนี้จะต้องไม่ใครก็ใครสักคนจะต้องเสียน้ำตา
.....อามูเนส... .. ราชินีที่รักแห่งข้าขอเทพธิดาไอซิส มอบชีวิต อมตะให้ข้าและนาง ...รอ เจ้าอยู่ที่นี่ ตราบ ดวงอาทิตย์อับแสง ..รอเจ้าอยู่ร่วมเดินทางสู่ฟากฟ้า พร้อมกัน” คำขอครั้งสุดท้ายของ..โฮรัส.. ผู้เลื่องชื่อเทพแห่งสงคราม กับเจ้าหญิงผู้ซึ่งตกเป็นเชลย ด้วยจุดเปลี่ยนที่บิดาของอามูเนส ผู้เลอโฉมเลื่องลือไปไกล พ่ายแพ้ให้แก้ฟาโรห์โฮรัสเทพสงครามผู้ยิ่งใหญ่ เป็นจุดเริ่มต้นของ คำขอต่อเทพแห่งความเป็นอมตะไอซิส คำขอครั้งสุดท้ายจะเป็นจริงไหมและเอวาสาวสวยนักโบราณคดีที่ขุดค้นพบ คำขอนั้นของฟาโรห์โฮรัสจะ สามารถค้นพบความจริงต่างๆได้อย่างไร ล่องลอยไปกับดินแดน ไอยคุปต์ด้วยกันใน...มนตราฟาโรห์...
ขายตัวเข้ามาเป็นอี้จีฝึกหัด แต่ยังไม่ผ่านงานแรกด้วยซ้ำ สวรรค์ชังหรือนรกแกล้งให้เฟิ่งหลิว ต้องมาพบเจอคนใจร้ายเช่นนี้แล้วยังมาหาว่าเฟิ่งหลิวเป็นนางคณิกา กร้านโลกอีก ทั้งๆที่น้องแสนจะเดียงสา
หยางจื้อซี เด็กกำพร้าจากศตวรรษที่21 ถูกองค์กรมืดเลี้ยงดูจนเติบโตและทำให้เธอกลายเป็นมนุษย์กลายพันธ์ ในระหว่างที่ถูกส่งตัวไปทำภารกิจลับ เธอกลับถูกคนในองค์กรมืดหักหลังและถูกฆ่าโดยเพื่อนสนิทที่เธอไว้ใจมากที่สุด ก่อนสิ้นใจเธอถามเพื่อนสนิทว่าทำไม แต่ไม่ได้รับคำตอบจากปากของอีกฝ่าย สิ่งที่เธอได้รับคือรอยยิ้มที่ดูถูกเหยียดหยามและ คำว่า “โง่” จากปากของอีกฝ่ายเท่านั้น หลังจากที่ตายไปแล้วสิ่งที่เธอคิดไว้ คงจะเป็นนรกหรือที่ไหนสักแห่งที่เป็นโลกหลังความตาย แต่ทว่ามันกลับไม่เป็นเช่นนัน เธอตื่นขึ้นมาในร่างของ หยางจื้อซี เด็กหญิงอายุ เพียง 13 ขวบปีในหมู่บ้านป่าหมอก ในดินแดนโบราณล้าหลังที่ไม่มีในประวัติศาสตร์ คล้ายกับว่าเป็นโลกคู่ขนานที่อยู่อีกมิติหนึ่ง เธอตื่นขึ้นมาในบ้านที่ผุพัง ครอบครัวยากจน มีแม่ที่อ่อนแอและเจ็บป่วย มีพี่น้องที่อายุน้อย มีปู่ย่าตายายที่เห็นแก่ตัวและใจร้าย มีลุงที่เห็นแก่ได้ป้าสะใภ้ที่เต็มไปด้วยความละโมบโมบโลภมาก หยางจื้อซี คิดว่านับจากนี้ไปชีวิตจะต้องอยู่ได้ด้วยตัวเอง หากใครมารังแกก็แค่ทุบตี เธอไม่เชื่อว่าด้วยพลังที่ติดตัวเธอมาจากชาติที่แล้วจะไม่สามารถอยู่รอดได้ในโลกล้าหลังแห่งนี้
“เคลวิน อาร์มันโด” มหาเศรษฐีผู้ไม่เคยเชื่อในพรหมลิขิต ไม่คิดเลยว่าการมาเยี่ยมเยียนมารดาและน้องสาวที่เมืองไทยในครั้งนี้จะได้มาเจอกับกวางน้อยแสนสวยที่เคยทำเขาหัวใจแทบหยุดเต้นมาแล้วครั้งหนึ่ง! เขาวางแผนการบางอย่างเพื่อต้อนกวางน้อยเข้าสู่กรงทองแล้วครอบครองได้อย่างที่จะไม่ทำให้ต้องเสียหน้า แต่กลายเป็นว่านักล่าอย่างเขาพลาดท่าตกลงไปในกับดักนั้นเสียเอง เพราะหนีผู้ปกครองเที่ยวแท้เชียว เธอถึงต้องมาเจอเขาอีกครั้ง ผู้ชายวาจาร้ายกาจกับสถานการณ์น่าอับอาย “มีอะไรให้ผมช่วยไหมครับ ผมยินดีและเต็มใจ” “มีค่ะ” ตอบกลับเสียงแข็ง “เสร็จธุระแล้วก็ช่วยออกไปจากห้องด้วย เชิญค่ะ” ว่าพลางชี้ไปทางประตูห้องด้วยหางตา “เรื่องแค่นี้เองหรือที่ต้องการให้ช่วย” เคลวินหันมาถามหลังจากเดินมาถึงหน้าประตู คิ้วทรงดาบเลิกขึ้นสูง “ผมนึกว่าคุณอยากให้ช่วยแบบว่า... ช่วยติดขอเสื้อในนี่ให้ฉันทีสิคะฉันติดไม่ถึง อะไรแบบนี้เสียอีก” ว่าพลางส่งยิ้มยียวน ดวงตาพราวระยับจ้องนิ่งตรงทรวงอกที่กระเพื่อมขึ้นลงเร็วแรง สาบานได้ว่านี่คือคำพูดของคนเพิ่งเจอกัน เขาเข้ามาในห้องเธอโดยไม่ได้รับอนุญาต แถมยังจ้องเธออย่างเสียมารยาทในขณะที่เธออยู่ในสภาพ... ล่อแหลม! “ลัลน์นารา” หวังอย่างยิ่งว่านั่นจะเป็นครั้งเดียวและครั้งสุดท้ายในชีวิตกับความอับอายและผู้ชายแสนยียวน แต่โชคชะตาช่างเล่นตลกกับเธอ ให้กงล้อหมุนเวียนพาเธอกับเขามาเจอกันอีกครั้งและกลายเป็นผูกพันกันไปตลอดกาล... “พี่เค นี่มันบนเรือนะคะ” "บนเรือแล้วแปลกตรงไหน หาอะไรแปลกใหม่บ้าง ชีวิตจะได้มีสีสัน” “เรือจะล่มไหมคะ” คนถามออกอาการหวาดหวั่น เคลวินหัวเราะในลำคอกึ่งขบขันกึ่งสงสาร “พี่จะพยายามเบามือที่สุดค่ะ หยาดเองก็อย่ารุนแรงนักนะคะ”
ในระยะเวลาสองปีที่แต่งงานกัน เนี่ยเหยียนเซินจู่ๆ ก็เสนอขอหย่า เขาพูดว่า "เธอกลับมาแล้ว เราหย่ากันเถอะ คุณอยากได้อะไรบอกมาได้เลย" ชีวิตการแต่งงานสองปีสู้อีกคนที่หันหลังกลับมาไม่ได้ ตามอย่างที่คนเขาว่ากัน "คนรักเก่าแค่ร้องไห้สักหน่อย คนรักปัจจุบันก็ย่อมแพ้แน่นอน" เหยียนซีไม่ได้โวยวายอะไร เลือกที่จะตอบตกลงและเสนอเงื่อนไขว่า "ฉันต้องการรถซูเปอร์คาร์ที่แพงที่สุดของคุณ" "ได้" "วิลล่าสุดหรูชานเมือง" "ตกลง" "กำไรหลายพันล้านที่หามาในช่วงสองปีนี้ แบ่งคนละครึ่ง" "อะไรนะ"
หลี่เมิ่งเหยาย้อนเวลามาอยู่ในร่าง ของเด็กสาววัยสิบสองปี ในวันที่มารดาอนุผู้โง่เขลา ถูกขับไล่ออกจากจวน โชคยังดีที่ตอนตาย นางสวมกำไลหยกโลกันตร์เอาไว้ มันจึงติดตามนางมาที่นี่ด้วย +++ 1 : มารดาโง่ จนถูกไล่ออกจากตระกูล จวนตระกูลหลี่เจ้าเมืองถัง สตรีสองนางถูกสาวใช้จับคุกเข่าลง ตรงหน้าของหลี่หงซวนเจ้าเมืองถัง ทั้งยังเป็นพ่อสามีของทั้งคู่อีกด้วย ท่านกำลังสอบสวนเรื่องของสะใภ้ใหญ่ของบ้านสาม ถูกฮูหยินรองกับอนุรวมหัวกันลอบทำร้าย ด้วยการวางยาขับเลือดในถ้วยน้ำแกงบำรุงครรภ์ ทำให้นางต้องสูญเสียทารกในครรภ์ไป “ท่านพ่อข้าไม่รู้จริง ๆ ว่านั่นเป็นยาขับเลือด ฮูหยินรองบอกว่าเป็นน้ำแกงบำรุงครรภ์ ให้ข้าเป็นคนนำไปมอบให้ฮูหยินใหญ่ เป็นนางนั่นเอง นางหลอกข้า !” เฉาซูหลิ่งชี้นิ้วไปทางสตรีด้านข้าง ร้อนรนเอ่ยออกมาเหมือนคนไม่ได้รับความเป็นธรรม “อนุเฉาเจ้าอย่ามาใส่ร้ายข้านะ เจ้าทำคนเดียวทั้งนั้นไม่เกี่ยวกับข้าเลย” ฮูหยินรอง ถูซวงอี้ ชี้นิ้วใส่หน้าเฉาซูหลิ่งกลับคืน ต่างคนต่างโยนความผิดให้กัน ฮูหยินผู้เฒ่าหลิวเยี่ยนหนานโบกมือให้คนเข้ามา “ข้าให้โอกาสพวกเจ้าสองคนพูดความจริง แต่กลับไม่มีใครยอมรับความผิดแม้แต่คนเดียว มันน่าจับส่งทางการให้รู้แล้วรู้รอด” พ่อบ้านหลัวให้คนลากสาวใช้คนหนึ่งเข้ามา สภาพของนางถูกทรมานจนเนื้อตัวบวมช้ำไปหมด “เรียนนายท่านข้าให้คนไปค้นห้องสาวใช้ทุกคนในจวน พบเทียบยาซ่อนไว้ใต้หมอน จากห้องของสาวใช้คนนี้ขอรับ” ถูซวงอี้ถึงกับคุกเข่าต่อไปไม่ไหว ทิ้งตัวลงไปนั่งอยู่บนพื้น สาวใช้ที่ถูกทรมานจนสภาพน่าเวทนานั่น เป็นเสี่ยวอิงสาวใช้สินเดิมของนางเอง “ฮูหยินรอง ข้าขอโทษ ข้าทนต่อไปไม่ไหวจริง ๆ ข้าขอโทษ !” เสี่ยวอิงโขกศีรษะลงตรงหน้าของถูซวงอี้แรง ๆ น้ำตาไหลนองหน้าจน แทบไม่เป็นผู้เป็นคนอยู่แล้ว พ่อบ้านหลัวเอ่ย “ข้าให้คนไปถามที่หอโอสถแล้วขอรับนายท่าน เป็นเทียบยาขับเลือดจริง ๆ” หลี่หงซวนมองไปทางบุตรชายคนที่สามของตน พบว่าเขามีสีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก สตรีที่คุกเข่าอยู่ตรงหน้าคือฮูหยินรอง กับอนุภรรยาที่เขารักใคร่ไม่ต่างกัน เหตุใดถึงได้คิดร้ายต่อฮูหยินใหญ่ของเขาได้ เป็นเหตุให้เขาต้องสูญเสียลูกที่อยู่ในท้องของนางไป เดิมทีฮูหยินใหญ่ของเขาก็ตั้งท้องยากอยู่แล้ว เขารอมาตั้งนานกว่าจะมีวันนี้ได้ ไม่คิดมาก่อนว่าจะต้องสูญเสียไปเช่นนี้ “หย่วนเจ๋อนี่เป็นเรื่องในเรือนของเจ้า เจ้าอยากตัดสินเรื่องนี้ด้วยตัวเองหรือไม่” ผู้เป็นบิดาเอ่ยถามบุตรชาย “ไม่ ข้าไม่อยากเห็นหน้าพวกนางอีกต่อไป แล้วแต่ท่านพ่อเถอะขอรับ ข้าขอตัวไปดูฮูหยินใหญ่ก่อน” หลี่หย่วนเจ๋อคำนับบิดา สะบัดแขนเสื้อเดินจากไปในทันที หางตายังไม่แม้แต่จะมองสตรีทั้งสองนาง เฉาซูหลิ่งลนลานตามเขาไป “ท่านพี่ช่วยข้าด้วย ข้าไม่ผิดนะเจ้าคะ ท่านพี่ !” แต่ถูกบ่าวรับใช้ขวางทางเอาไว้ หลี่หงซวน “หยุดโวยวายได้แล้วอนุเฉา เจ้าเป็นคนถือถ้วยน้ำแกงใส่ยาขับเลือด ไปมอบให้ฮูหยินใหญ่ด้วยตัวเอง ยังคิดจะหนีความผิดนี้ไปได้อีกรึ” “ท่านพ่อขะข้าข้า...ไม่ผิด” เฉาซูหลิ่งทิ้งตัวไปด้านหลังอย่างหมดเรี่ยวแรง เดิมทีนางก็ไม่เป็นที่โปรดปรานของพ่อแม่สามีอยู่แล้ว เพราะไม่สามารถให้กำเนิดบุตรชายได้ ครั้นได้บุตรสาวก็นิสัยขี้ขลาดขี้กลัว ไหนเลยจะเชิดหน้าชูตาให้ตระกูลหลี่ได้ เฉาซูหลิ่งนั่งเหม่อลอย คล้ายคนจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ขณะที่หลี่หงซวนกำลังประกาศโทษทัณฑ์ของพวกนาง ถูซวงอี้กับคนของนาง ถูกขายออกจากจวน ไปอยู่หอนางโลมอย่างเงียบ ๆ ชาตินี้อย่าได้ก้าวเท้า กลับมาเหยียบที่จวนตระกูลหลี่อีก ส่วนเฉาซูหลิ่งถูกขับไล่ออกจากจวน ไปพร้อมกับบุตรสาว ให้ไปอยู่เรือนร้างของตระกูลหลี่ที่เมืองฉาง ห้ามกลับมาที่ตระกูลหลี่อีกชั่วชีวิต “ท่านพ่อท่านขับไล่ข้าไป ข้ายังพอรับได้ เหตุใดต้องขับไล่เหยาเอ๋อร์ไปด้วย นางเพิ่งจะสิบสองปีเองนะเจ้าคะ” เฉาซูหลิ่งนึกถึงบุตรสาวร่างกายผ่ายผอม นอนซมเพราะพิษไข้อยู่ เกิดนึกสงสารนางขึ้นมาจับใจ ฮูหยินผู้เฒ่าหันไปมองสามีเล็กน้อย นางเห็นเด็กสาวคนนั้นมาตั้งแต่เกิด แม้ไม่ได้เอ็นดูแต่ก็นับว่าเป็นสายเลือดเดียวกัน “ฮูหยินเรื่องนี้ข้าตัดสินใจไปแล้ว ไม่อาจคืนคำได้” คำพูดของประมุขของตระกูล มีหรือใครจะกล้าขัด เฉาซูหลิ่งปล่อยเสียงร้องไห้โฮออกมาดัง ๆ นางโง่งมจนทำให้บุตรสาว ต้องมารับเคราะห์กรรมตามไปด้วย “ลากตัวอนุเฉาออกไป หารถม้าสักคันให้คนส่งนาง ไปที่เรือนร้างเมืองฉาง” คำสั่งของหลี่หงซวนเป็นคำขาด บ่าวไพร่รีบทำตามในทันที ครั้นได้อยู่ด้วยกันเพียงลำพังกับฮูหยินผู้เฒ่า หลี่หงซวนถึงได้บอกเหตุผล ที่ต้องตัดสินใจทำเช่นนี้ นั่นเพราะตระกูลจี้ได้ยื่นคำขาดมา ให้ขับไล่พวกเขาออกไปให้หมด อย่าให้เหลืออยู่แม้แต่ตนเดียว ไม่ต้องการให้คนที่ทำร้ายบุตรสาวของพวกเขา อยู่ระคายสายตาของจี้ชิวหรงอีกต่อไป ฮูหยินผู้เฒ่าแค่นออกมาหนึ่งคำ “อ้างเหตุผลข้าง ๆ คู ๆ ความจริงแล้วต้องการกำจัดอนุในเรือนบุตรสาวทิ้งให้หมด นี่กระทั่งเด็กคนหนึ่งก็ไม่เว้น แต่ก็เอาเถอะ เหยาเอ๋อร์อยู่ที่นี่ ก็ใช่จะมีประโยชน์อันใด นางไม่ได้อยู่ในสายตาของพวกเราด้วยซ้ำ ให้นางไปกับแม่ของนางนั่นแหละดีแล้ว” หลี่หงซวนนั้นเป็นเพียงเจ้าเมืองเล็ก ๆ มีตำแหน่งเป็นขุนนางขั้นที่ห้า ฝั่งตระกูลจี้บ้านเดิมของจี้ชิวหรงนั้น อยู่ในเมืองหลวงมีตำแหน่งใหญ่โตกว่าหนึ่งขั้น เรื่องนี้เขาจึงต้องขบคิด ถึงผลได้ผลเสียในอนาคตอีกด้วย การเสียสละอนุกับหลานสาวคนหนึ่ง เพื่อชดเชยให้แก่คนตระกูลจี้ นับว่าเป็นเรื่องสมควรทำแล้ว “ข้าก็คิดเช่นฮูหยินนั่นแหละ เพียงแต่สะใภ้สามแท้งคราวนี้ ไม่รู้จะยังสามารถตั้งท้องได้อีกหรือไม่ พวกเรารอดูไปก่อนดีกว่า หากนางไม่สามารถตั้งท้องได้จริง ๆ เราค่อยหาอนุมาให้หย่วนเจ๋อภายหลังก็ยังได้ ยามนั้นคนตระกูลจี้จะเอาอะไรมาง้างกับเราได้อีก” “จริงดังท่านว่าเจ้าค่ะ” ฝ่ายเฉาซูหลิ่งที่ถูกคนใช้ ลากตัวออกมาให้เก็บของในเรือน นางส่งเสียงเอะอะโวยวายตลอดทาง พร่ำบอกต้องการพบหลี่หย่วนเจ๋อให้ได้ แต่ถูกสาวใช้ขวางไว้ไม่ให้ไป นางจำใจกลับไปยังห้องนอนของตัวเอง รีบเก็บของสำคัญใส่ห่อผ้าเพื่อออกเดินทาง
ตายด้วยเงื้อมมือของเพื่อนร่วมสาขา เนเน่ เนตรนภา จึงทะลุมิติมาอยู่ในร่างเด็กน้อยวัยสิบหนาวที่ป่วยตาย นามเซี่ยซูเหยา มีบิดา พี่สาว พี่ชายที่เป็นห่วงนางมากกว่าสิ่งใด
ในชีวิตชาติที่แล้ว เพื่อช่วยรักแรกของตัวเอง คนชั่วสามคนได้ทำลายพลังการต่อสู้ของนาง ตัดแขนขาของนางออก ตัดเส้นเลือดของนางและปล่อยเลือดของนางไหลออกมาทั้งอย่างนั้น และทรมานนางจนตาย เมื่อเกิดใหม่ครั้งนี้ นางวางแผนอย่างรอบคอบ โดยสาบานว่าจะให้พวกเขาได้สัมผัสกับความทุกข์ทรมานที่นางเคยประสบมา! รักแรกที่ไร้เดียงสาอะไรกัน ที่จริงก็เป็นเพียงผู้หญิงที่ตีสองหน้าเก่ง อยากจะไต่ขึ้นไปสูงเหรอ งั้นก็จะให้เจ้าปีนขึ้นไป ยิ่งปีนขึ้นสูงมากเท่าไร ตอนตกลงมาก็จะยิ่งเจ็บมากเท่านั้น! พวกสวะสมควรได้รับบาปกรรมของพวกสวะ พวกมันทำชั่วกับนางไปชั่วชีวิตหนึ่ง นางจะทำให้พวกมันไม่ตายดี พวกคนที่เจ้าเล่ห์ ตีสองหน้าเก่ง นางจะจัดการกับทุกคน! แต่นางไม่เคยคิดเลยว่าในการแก้แค้นของนาง นางจะไปมีเรื่องกับเสด็จอาที่เป็นเจ้าแผนการเข้า ที่วัน ๆ ต้องการให้นางจูบและกอดเขาตลอดทั้งวัน ในขณะที่นางแก้แค้นคนชั่วนั้นยังสามารถสนิทสนมกับเสด็จอาด้วย ในความจริงแล้ว การที่เป็นผู้หญิงชั่วๆ ก็มีความสุขมาทีเดียวกว่าที่คิดเลย!
© 2018-now MeghaBook
บนสุด