เธอต้องแต่งงานกับเขาก่อนพี่ชายสิ้นใจ เขาจึงกลายเป็นสามีและครูพละที่สอนอยู่ในโรงเรียนเดียวกัน และทุกอย่างเป็นความลับ!!!
เธอต้องแต่งงานกับเขาก่อนพี่ชายสิ้นใจ เขาจึงกลายเป็นสามีและครูพละที่สอนอยู่ในโรงเรียนเดียวกัน และทุกอย่างเป็นความลับ!!!
สามีของฉันเป็นครูพละ
“โอ๊ย!” เบอร์รีหรือบัณฑิตาร้องด้วยความเจ็บเมื่อลูกวอลเลย์บอลมากระแทกกับใบหน้าเข้าอย่างจัง
“โทษทีเบอร์รี ทำไมแกไม่รับลูกล่ะ” ปันปันหรือปณิตาเอ่ยถามเพื่อนรัก พลางเดินมาดูอาการของเพื่อน
“เจ็บ” บัณฑิตาไม่ตอบว่าทำไมไม่รับลูก แต่ลูบหน้าตัวเองไปมา และมันก็กำลังแดงก่ำ
“แกมัวแต่มองอะไรของแก” ปณิตาหันไปมองตามสายตาของเพื่อนก่อนที่จะตาโต
“แกมองครูกายอยู่เหรอ”
“ฉันน่ะเหรอจะมองครูจอมขี้เก๊กนั่น ไม่ได้มองเสียหน่อย”
“มันชักจะยังไง ๆ แล้วสิ” ปณิตากระแทกไหล่เพื่อนรัก ในคาบนี้เป็นวิชาพละศึกษา โดยกายสิทธิ์หรือครูกายเป็นคนสอนวอลเลย์บอลให้ชั้นเรียนของเธอ
“ยังไงยังไงคือยังไงเหรอ” คนถามกัดปากตัวเองเบา ๆ กลัวเพื่อนรู้ความลับของเธอกับกายสิทธิ์เข้า
"ก็ยายส้มจี๊ดยังไงล่ะ ดูสิให้ครูกายสอนตัวเองอยู่คนเดียว เสนอหน้าสุด ๆ” บัณฑิตามองตามสายตาของเพื่อนรัก ก็เห็นว่ากายสิทธิ์กำลังช่วยจับบอลและจัดท่าให้ส้มจี๊ดหรือสารภีอยู่
“เขาคงอยากสอนส้มจี๊ดกระมัง” คนพูดกัดปาก อยู่ในโรงเรียนเช่นนี้เธอจะให้ใครรู้ไม่ได้ว่ากายสิทธิ์คือสามี
บ้าจริง!
มีผัวตั้งแต่ยังเรียนไม่จบมัธยมปลาย เพราะพี่ชายของเธอที่จากโลกนี้ไปแท้ ๆ
แต่ในเวลานั้นเธอกับกายสิทธิ์ต้องรับปากคนใกล้ตาย
พี่ชายเข้าช่วยเหลือกายสิทธิ์เอาไว้ เลยทำให้โดนยิงตาย แต่กายสิทธิ์เองก็เข้าช่วยพี่ชายเอาไว้ จากพวกทวงหนี้ของพี่ชายเช่นกัน พวกทวงหนี้โหดจากโต๊ะพนันบอล
ในช่วงที่กำลังอยู่ระหว่างความเป็นความตาย พี่ชายของเธอก็ฝากเธอเอาไว้กับกายสิทธิ์ และขอให้แต่งงานกันด้วย ทั้งเธอและกายสิทธิ์ไม่อยากรับปาก แต่คนใกล้ตายกำลังจะสิ้นใจ เพื่อให้นอนตายตาหลับ เธอกับเขาเลยต้องรับปากอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
งานศพจัดขึ้นอย่างเรียบง่าย ไม่มีญาติพี่น้องที่ไหนเพราะเธอกับพี่ชายเป็นกำพร้า พ่อแม่ตายหมดแล้ว ทิ้งบ้านเอาไว้หนึ่งหลัง ซึ่งโดนยึดไปเรียบร้อยแล้วเพราะพี่ชายติดหนี้พนันบอลเป็นจำนวนเงินค่อนข้างมาก
กายสิทธิ์ที่มีบ้านใกล้กันจึงต้องรับเธอเข้ามาอยู่ในบ้านด้วยกัน เขามีพี่น้องหลายคน ต่างแยกย้ายกันไปทำงานยังจังหวัดต่าง ๆ เหลือเพียงเขาอยู่บ้านเพียงคนเดียว บิดามารดาของเขาก็เสียชีวิตไปหมดแล้วเช่นกัน
เธอไม่คิดว่าเขาจะถือเป็นจริงเป็นจังกับการแต่งงานที่พี่ชายของเธอขอร้อง แต่ที่ไหนได้ เขาโทรศัพท์ไปบอกข่าวว่าจะแต่งงาน ให้พี่ ๆ กลับมาเป็นญาติผู้ใหญ่ให้ เมื่อทำการผูกข้อไม้ข้อมือกันเสร็จ ทุกคนก็แยกย้ายกันกลับไปทำงานของตัวเอง ทิ้งเธอเอาไว้กับเขา ดังนั้นก็จะมีเพียงญาติพี่น้องของเขาเท่านั้นที่รับรู้ ว่าเธอกับกายสิทธิ์เป็นสามีภรรยากันแล้ว แต่ก็เป็นสามีภรรยากันในนามเท่านั้น กายสิทธิ์รับปากว่าจะไม่ล่วงเกินเธอให้มัวหมอง หากเธอไม่ยินยอมพร้อมใจ
การย้ายเข้าไปอยู่ในบ้านของเขาทำให้เธอรู้สึกทำตัวไม่ถูก เพราะปกติก็ไม่ได้ชอบหน้าเขาสักเท่าใด เพื่อนพี่ชายคนนี้ขี้เก๊กจะตายไป แถมยังพูดน้อย เย็นชา หน้าตึง เคร่งขรึม ไว้ตัว เสียเหลือเกิน
เสียงกริ่งดังขึ้น ทำให้บัณฑิตาหลุดจากภวังค์ความคิด หมดคาบแล้วแต่เธอยังคิดเรื่องกายสิทธิ์อยู่แบบนั้น
โรงเรียนอยู่ไม่ไกลจากบ้านแต่ก็ไม่ใกล้นัก เมื่อก่อนเธอขับมอเตอร์ไซค์มาเรียนด้วยตัวเอง ตอนนี้เธอก็ยังทำแบบนั้น จะให้นั่งรถมากับกายสิทธิ์โรงเรียนได้แตกแน่ ๆ
ทำไมน่ะเหรอ ก็เขาเป็นครูพละเนื้อหอมอย่างไรเล่า มีครูสาว ๆ ในโรงเรียนทอดสะพานให้ไม่ขาด ทั้งหนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่ แถมเด็กนักเรียนมัธยมปลายก็แก่แดดเหลือเกิน อ่อยกายสิทธิ์ด้วยกันทั้งนั้น
ชิ! หมั่นไส้พวกคนเนื้อหอมนัก
จริง ๆ การขับรถกลับบ้านก็ไม่ได้ทำให้เธอกลัวอะไรนักหรอก เพราะเขาขับตามเธอมาด้วย
เธอขับมอเตอร์ไซค์ฮอนด้ารุ่นเก่า ๆ ของพี่ชาย ซึ่งตกทอดมาจากรุ่นบิดามารดา ในขณะที่กายสิทธิ์ขับบิ๊กไบค์ราคาแพงลิ่ว
เป็นแค่ครูพละไม่ได้รวยขนาดนี้หรอก แต่เพราะมรดกที่บิดามารดาของเขาทิ้งเอาไว้ก่อนตาย หลังจากแบ่งกับพี่ ๆ เท่า ๆ กัน โดยพี่น้องทุกคนรักกันไม่แย่งสมบัติหรือทะเลาะกันเรื่องสมบัติเลยสักนิด กายสิทธิ์สามารถอยู่ได้อย่างสบายโดยที่ไม่ต้องทำงานเลย
พ่อแม่ของเธอก็ทิ้งเงินมรดกเอาไว้พอสมควร แถมด้วยบ้านอีกหนึ่งหลังให้เธอกับพี่ชายอยู่ แต่พี่ชายดันไปติดการพนัน ชีวิตของเธอถึงได้เป็นแบบนี้ ต้องมาอาศัยคนอื่นเขาอยู่ ยิ่งเธอไม่ได้ชอบหน้าเขาเท่าใดนัก เลยทำให้อึดอัดอยู่มาก
บัณฑิตาถึงบ้านก็ถอนใจด้วยความเหนื่อยล้า วันนี้เป็นวันศุกร์สุดสัปดาห์ จบสิ้นกันเสียทีการเรียนในสัปดาห์นี้
เธอทิ้งตัวแผ่หลาลงบนเตียงอย่างมีความสุข แต่เสียงดุ ๆ ของกายสิทธิ์ก็ทำให้เธอต้องรีบดีดตัวขึ้นจากที่นอนในทันที
“กลับมาจากโรงเรียนแทนที่จะรีบอาบน้ำ กระโดดขึ้นเตียงในชุดพละแบบนั้น ไม่เหม็นเหงื่อรึไง” เขาเข้มงวดพอสมควร เหมาะกับการเป็นครูพละจอมหยิ่งและไว้ตัวเสียเหลือเกิน
เขายกห้องให้เธอหนึ่งห้องทำให้เธอค่อนข้างเป็นส่วนตัว แต่สามีในนามของเธอคนนี้ก็ยังวางมาดครูพละจอมเนี๊ยบเข้ามาสำรวจห้องของเธออยู่เสมอ อะไรไม่เรียบร้อยเธอก็โดนบ่นหูชา
เขาเป็นผู้ชายที่สะอาดสะอ้าน ข้าวของในบ้านจัดเป็นระเบียบเรียบร้อย ในขณะที่เธอไม่มีความเรียบร้อยเอาเสียเลย อาจเพราะว่าพี่ชายไม่เคยเป็นระเบียบเรียบร้อย เธอก็เลยติดนิสัยนั้นมาด้วย
“เหนื่อย ขอนอนพักแป๊บไม่ได้เหรอคะ” บัณฑิตาทำหน้างอ
“นอนได้ แต่พรุ่งนี้เอาที่นอนไปซักด้วย เอาตัวเหม็น ๆ เต็มไปด้วยเหงื่อไปคลุก สกปรก!” เขาทำเสียงดุเข้ม ทำท่าจะเดินออกจากห้อง ก็เหลือบไปเห็นบางสิ่งบางอย่างหล่นอยู่บนพื้น
บัณฑิตาตาเหลือก เด็กสาวรีบตะเกียกตะกายลุกจากเตียงไปเก็บกางเกงในตัวน้อยที่ม้วนเป็นเลขแปดซ่อนเอาไว้ทางด้านหลังด้วยใบหน้าร้อนผ่าว
ใบหน้าของกายสิทธิ์แดงก่ำ หันมามองร่างน้อยที่ยืนก้มงุดอยู่ไม่วาง หลังจากนั้นบัณฑิตาก็หูชา รีบพยักหน้ารับค่ะ ๆ ไม่มีการเถียงเลยสักคำ
“แต่งเพราะหนี้ อยู่ต่อเพราะหัวใจ” ภควัตแต่งงานตามใจมารดา หวังบีบให้ปิ่นมุกขอหย่า แต่ยิ่งเมินยิ่งเห็นว่าเธออยู่ได้อย่างมีความสุข และทำให้ “บ้าน” อบอุ่นขึ้น จนดึงดูดเขาอย่างประหลาด
เธอรักเขาคือเรื่องจริง แต่เขาโกรธเกลียดเธอคือเรื่องจริงเช่นกัน ในเมื่อความรักมันเหนื่อยนัก เธอก็ขอพักใจ ถอยห่างออกมา รอวันหย่าขาดจากพ่อของลูกที่ไม่เคยรักเธอเลย
เมื่อโชคชะตาบังคับให้เขาและเธอซึ่งเป็นคู่กัดต้องกลายเป็นคู่แต่งงานแบบสายฟ้าแลบ! ระหว่างอดีตที่เต็มไปด้วยการปะทะคารม กับปัจจุบันที่ต้องใช้ชีวิตร่วมชายคา... เรื่องวุ่น ๆ จึงเริ่มต้นขึ้น ตั้งแต่แปรงสีฟันยันหัวใจ เขา...ผู้ชายเจ้าเล่ห์ ขี้แกล้ง และขี้หวงอย่างหนัก เธอ...หญิงสาวปากแข็ง ขี้ประชด แต่แอบอ่อนโยนในทุกความใส่ใจ จากบ้านไม้ริมคลอง กลายเป็นสนามรักและสงครามขนาดย่อม ที่ไม่มีใครยอมใคร แต่หัวใจสองดวงกลับเริ่มเปลี่ยนไปทีละนิด... เพราะบางที...โชคชะตาอาจไม่ได้บังคับ แต่มันอาจกำลังพาเขาและเธอ... กลับมายังที่ที่เรียกว่า "บ้าน" ด้วยกัน
“เขาคือเจ้าพ่อที่ใครต่างหวาดกลัว แต่กลับยอมสยบให้หญิงสาวที่ทั้งโลกเคยมองว่าไร้ค่า...” เมื่อเธอถูกตราหน้าว่าเป็นเพียงหมากในเกมหมั้นหมาย เขากลับเห็นแสงในตัวเธอ และเลือกจะปกป้องด้วยทั้งชีวิตและหัวใจ ท่ามกลางไฟแค้น อำนาจ และความลับของตระกูล หัวใจของคนสองคนค่อย ๆ สานพันธะรักที่ไม่มีใครลบล้างได้ “เธอคือของฉัน ต่อให้โลกทั้งใบต่อต้าน...ฉันก็จะไม่มีวันปล่อยเธอไป”
เมื่อข่าวฉาวบิดเบือนเปลี่ยนหญิงสาวให้กลายเป็นคนที่เขาเกลียด และเมื่อคำสัญญาเก่าของผู้ใหญ่ พาเธอกลับมาในฐานะ ‘คู่หมั้น’ ที่เขาไม่ต้องการ ลลิล สาวสวยผู้สง่างามและเข้มแข็ง ต้องเผชิญแรงกดดันจากคนในครอบครัว รวมถึง กวิน ชายหนุ่มผู้เย็นชา ผู้มองเธอด้วยสายตาดูแคลน…แต่ไม่อาจละสายตาได้เลย ในความเงียบงันระหว่างพวกเขา...กลับมี ‘หัวใจ’ ที่ค่อย ๆ เรียนรู้กันอย่างไม่รู้ตัว จากความเข้าใจผิด กลายเป็นความผูกพัน จากการดูแคลน กลายเป็นการปกป้อง และจาก ‘คู่หมั้นไร้เสน่หา’ กลายเป็น ‘ผู้หญิงเพียงคนเดียวที่เขารัก’
อดีตนักฆ่าสาวอันดับหนึ่ง ผู้มีใจคอโหดเหี้ยมได้ทะลุมิติอยู่ในร่างสาวน้อยรูปโฉมอัปลักษณ์ ที่ทุกคนต่างสาปส่งและรังแกสารพัด!
ชีวิตแต่งงานของฉันพังทลายลงในงานกาลาการกุศลที่ฉันเป็นคนจัดขึ้นมาเองกับมือ วินาทีหนึ่ง ฉันคือภรรยาผู้มีความสุขและกำลังตั้งครรภ์ของเก้า สุวรรณกิจ เจ้าพ่อวงการเทคโนโลยี วินาทีต่อมา หน้าจอโทรศัพท์ของนักข่าวคนหนึ่งก็ประกาศให้โลกรู้ว่าเขากับพราว นิธิวัฒน์ รักแรกในวัยเด็กของเขา กำลังจะมีลูกด้วยกัน ฉันมองข้ามห้องไป เห็นพวกเขาสองคนยืนอยู่ด้วยกัน มือของเก้าวางอยู่บนท้องของพราว นี่ไม่ใช่แค่การนอกใจ แต่มันคือการประกาศต่อสาธารณะที่ลบตัวตนของฉันและลูกในท้องของเราให้หายไป เพื่อปกป้องการเปิดขายหุ้น IPO มูลค่าหลายหมื่นล้านของบริษัท เก้า แม่ของเขา หรือแม้กระทั่งพ่อแม่บุญธรรมของฉันเอง ก็ร่วมมือกันหักหลังฉัน พวกเขาย้ายพราวเข้ามาอยู่ในบ้านของเรา บนเตียงของฉัน ปฏิบัติกับเธอราวกับเป็นราชินี ในขณะที่ฉันกลายเป็นนักโทษ พวกเขาตราหน้าว่าฉันเป็นคนสติไม่ดี เป็นภัยต่อภาพลักษณ์ของครอบครัว พวกเขาใส่ร้ายว่าฉันนอกใจ และกล่าวหาว่าลูกในท้องของฉันไม่ใช่ลูกของเขา คำสั่งสุดท้ายนั้นโหดร้ายเกินกว่าจะคิดฝัน...ให้ฉันไปทำแท้ง พวกเขาขังฉันไว้ในห้องและนัดวันผ่าตัดเรียบร้อย พร้อมขู่ว่าจะลากฉันไปที่นั่นถ้าฉันขัดขืน แต่พวกเขาทำพลาดไปอย่างหนึ่ง... พวกเขายอมคืนโทรศัพท์ให้ฉันเพื่อหวังจะปิดปากฉันไว้ ฉันแสร้งทำเป็นยอมแพ้ แล้วใช้โอกาสสุดท้ายโทรออกไปยังเบอร์ที่ฉันเก็บซ่อนไว้มานานหลายปี... เบอร์โทรศัพท์ของพ่อผู้ให้กำเนิดของฉัน อนันต์ ธีรวงศ์ ประมุขของตระกูลที่ทรงอิทธิพลมากพอที่จะเผาโลกทั้งใบของสามีฉันให้มอดไหม้เป็นจุณได้
เมื่อผู้หญิงที่เพื่อนๆ ตั้งสมญานามว่าแม่ชีอย่างเธอจับพลัดจับผลูต้องมาเจอกับผู้ชายหน้านิ่งที่เอะอะกอด เอะอะจูบอย่างเขา อา…แล้วพ่อคุณก็ดันเป็นโรคนอนไม่หลับ จะต้องนอนกอดเธอเท่านั้นด้วย แบบนี้เธอจะเอาตัวรอดได้ยังไงล่ะ “ชอบอาหารเหนือไหม” “ชอบมากเลยคุณ ให้กินทุกวันยังได้เลย” “มากพอจะอยู่ที่นี่ไหม” “แค่กๆๆ” …………… …………………………………………………………………………………………………………………………. “คุณ! เอากระบอกไฟฉายออกไปวางที่อื่นก่อนได้ไหม มันดันหลังฉัน ฉันนอนไม่หลับ” คนที่ใกล้จะหลับบอกเสียงอู้อี้ “เอ้อ! ไม่มีนี่” เขาบอกเสียงอึกอัก “มันจะไม่มีได้ไง ก็มันดันหลังฉันอยู่เนี่ย” เธอมั่นใจว่ามีแน่ๆ ก็หลักฐานมันทนโท่ขนาดนี้ “อืม! นอนเถอะ ไม่มีหรอก” “จะไม่มีได้ไง ก็นี่ไง” คุณเธอยืนยันด้วยการคว้าหมับเข้าให้ พร้อมหันกลับมา หวังงัดหลักฐานที่อยู่ในมือมาพิสูจน์ให้ได้เห็นกันจะๆ คาตา แต่… ตึก ตึก ตึก อา…! ดูเหมือนจะไม่ใช่แค่คาตา แต่ยังคามือเธอด้วย เธออ้าปากตาค้างราวกับกำลังตกตะลึงสุดขีด ก่อนจะก้มมองไอ้ที่คิดว่าเป็นกระบอกไฟฉายในมือสลับกับเงยหน้ามองเขา จากนั้นก็… “กรี๊ด…!” เธอร้องลั่นพร้อมกับยื่นเท้าถีบออกไปสุดแรง ตุบ! คนไม่ทันตั้งตัวร่วงตุ้บลงไปบนพื้น ครั้นพอจะลุกขึ้น คุณเธอก็ตะโกนเสียงดังลั่นขึ้นมาอีก “หยุดอยู่ตรงนั้นเลยนะไอ้คนลามก คนเลว คุณมันทุเรศที่สุด คุณให้ฉันจับไอ้นั่นของคุณ มัน…อี๋…! เธอพูดพลางทำท่าขยะแขยง แล้วมาส่องกระบอกไฟฉายพ่อเลี้ยงพร้อมกันนะคะ
เวินอี่ถงได้เห็นความรักอันลึกซึ้งของเจียงยวี่เหิง แต่ก็ได้สัมผัสกับการทรยศของเขาเช่นกัน เธอเผารูปแต่งงานของพวกเขาต่อหน้าเขา แต่เขากลับมัวแต่ง้อชู้ของเขา ทั้งๆ ที่เขาแค่มองดูแวบหนึ่งก็จะเห็น แต่เขากลับไม่สนใจเวินอี่ถงสุดจะทน ตบหน้าเขาอย่างแรง พร้อมอวยพรให้เขากับชู้ของรักกันยืนยาว แล้วเธอก็หันหลังสมัครเข้ากลุ่มวิจัยลับเฉพาะ ลบข้อมูลประจำตัวทั้งหมด รวมถึงความสัมพันธ์การแต่งงานกับเขาด้วย! ก่อนจากไป เธอยังมอบของขวัญชิ้นใหญ่ให้เขาอีกด้วยเมื่อถึงเวลาที่จะเข้ากลุ่ม เวินอี่ถงก็หายตัวไป บริษัทของเจียงยวี่เหิงประสบปัญหาล้มละลาย เขาจึงออกตามหาเธอด้วยทุกวิถีทาง แต่สิ่งที่ได้รับกลับเป็นใบมรณบัตรที่ต้องสงสัยเขาสติแตก “ฉันไม่เชื่อ ฉันไม่ยอมรับ!”เมื่อพบกันอีกครั้ง เจียงยวี่เหิงต้องตกใจที่พบว่าเวินอี่ถงเปลี่ยนตัวตนใหม่แล้ว โดยข้างกายมีผู้มีอำนาจที่เขาต้องยอมก้มหัวให้เขาอ้อนวอนอย่างสิ้นหวัง “ถงถง ผมผิดไปแล้ว คุณกลับมาเถอะ!”เวินอี่ถงเพียงยิ้มยักคิ้ว จับแขนของผู้มีอำนาจข้างๆ “น่าเสียดาย ตอนนี้ฉันอยู่ในระดับที่นายไม่อาจเอื้อมถึงแล้ว”
คนเราบางครั้งก็หวนนึกขึ้นมาได้ว่าตายแล้วไปไหน ซึ่งเป็นคำถามที่ไร้คำตอบเพราะไม่มีใครสามารถมาตอบได้ว่าตายไปแล้วไปไหน หากจะรอคำตอบจากคนที่ตายไปแล้วก็ไม่เห็นมีใครมาให้คำตอบที่กระจ่างชัด ชลดา หญิงสาวที่เลยวัยสาวมามากแล้วทำงานในโรงงานทอผ้าซึ่งตอนนี้เป็นเวลาพักเบรค ชลดาและเพื่อนๆก็มานั่งเมาท์มอยซอยเก้าที่โรงอาหารอันเป็นที่ประจำสำหรับพนักงานพักผ่อน เพื่อนของชลดาที่อยู่ๆก็พูดขึ้นมาว่า "นี่พวกแกเวลาคนเราตายแล้วไปไหน" เอ๋ "ถามอะไรงี่เง่าเอ๋ ใครจะไปตอบได้วะไม่เคยตายสักหน่อย" พร "แกล่ะดารู้หรือเปล่าตายแล้วไปไหน" เอ๋ยังถามต่อ "จะไปรู้ได้ยังไง ขนาดพ่อแม่ของฉันตายไปแล้วยังไม่รู้เลยว่าพวกท่านไปอยู่ที่ไหนกัน เพราะท่านก็ไม่เคยมาบอกฉันสักคำ" "อืม เข้าใจนะแก แต่ก็อยากรู้อ่ะว่าตายแล้วคนเราจะไปไหนได้บ้าง" "อืม เอาไว้ฉันตายเมื่อไหร่ จะมาบอกนะว่าไปไหน" ชลดาตอบเพื่อนไม่จริงจังนักติดไปทางพูดเล่นเสียมากกว่า "ว๊าย ยัยดาพูดอะไร ตายเตยอะไรไม่เป็นมงคล ยัยเอ๋แกก็เลิกถามได้แล้ว บ้าไปกันใหญ่" พรหนึ่งในกลุ่มเพื่อนโวยวายขึ้นมาทันที แต่ใครจะรู้ว่าหลังจากวันนั้นที่คุยกันที่โรงอาหารจะเป็นการคุยเล่นกันวันสุดท้ายของชลดา เพราะหลังจากเลิกงานกลับมาชลดาก็เสียชีวิตระหว่างเดินทางกลับหอพักด้วยสาเหตุวัยรุ่นยกพวกตีกันและมีการยิงกันเกิดขึ้นและชลดาคือผู้โชคร้ายที่ผ่านทางมาพอดี ท่ามกลางความเสียใจของเพื่อนๆ เอ๋ได้แต่หวังว่า ชลดาคงไม่มาบอกกับเธอจริงๆหรอกใช่ไหมว่าตายแล้วไปไหน
หลังจากที่แต่งงานเข้ามาในตระกูลมู่ หลินซีได้ทำหน้าที่เป็นคุณนายมู่ที่ยอมอดทนกับทุกอย่างโดยไม่ปริปากเป็นเวลาสามปี เธอรักมู่จิ่วเซียว จึงยอมอดทนดูแลเขาอย่างเต็มใจ แม้ว่าเขาจะมีคนอื่นอยู่ข้างนอกก็ตามแต่เขากลับไม่เคยเห็นค่าของเธอ เหยียบย่ำความรักของเธอให้แหลกสลาย และถึงขั้นปล่อยให้น้องสาวของเขามอมเหล้าเธอแล้วส่งไปยังเตียงของลูกค้า หลินซีนั้นถึงเพิ่งจะตาสว่างเมื่อรู้ว่าความรักที่มีมานานนั้นช่างน่าขันและน่าเศร้าในใจของเขา เธอไม่ต่างอะไรกับผู้หญิงคนอื่นๆ ที่เข้ามาเกาะเขา เธอจึงทิ้งข้อตกลงการหย่าไว้แล้วจากไปโดยไม่ลังเล มู่จิ่วเซียวมองดูเธอประสบความสำเร็จ กลายเป็นดวงดาวที่ส่องแสงในสายตาของผู้คนเมื่อได้เจอกันอีกครั้ง เธอเต็มไปด้วยความมั่นใจและสงบเสงี่ยม โดยมีผู้ชายที่มีฐานะสูงส่งอยู่เคียงข้าง มู่จิ่วเซียวมองดูใบหน้าของคู่แข่งหัวใจที่ดูคล้ายกับของเขามาก จากนั้นเขาก็ตระหนักได้ว่าในสายตาเธอ เขาเป็นเพียงตัวแทนของคนอื่นในมุมแห่งหนึ่ง เขาขวางทางเธอไว้ “หลินซี คุณเล่นตลกกับผมใช่ไหม”
© 2018-now MeghaBook
บนสุด
GOOGLE PLAY