ความรักที่มาพร้อมกับคำสาป เมื่อเพลย์บอยเสือผู้หญิงอย่างเขาต้องมาแต่งงานกับคนที่ไม่รู้จัก และยังเป็นผู้ชายอกสามศอกเหมือนกัน เขาจึงต้องทำทุกวิถีทางเพื่อไม่ให้งานแต่งเกิดขึ้น..
ความรักที่มาพร้อมกับคำสาป เมื่อเพลย์บอยเสือผู้หญิงอย่างเขาต้องมาแต่งงานกับคนที่ไม่รู้จัก และยังเป็นผู้ชายอกสามศอกเหมือนกัน เขาจึงต้องทำทุกวิถีทางเพื่อไม่ให้งานแต่งเกิดขึ้น..
รักไม่รักก็ต้องรักซะแล้ว
ตอนที่1 ( จุดเริ่มต้น )
"นี่มัน....เรื่องบ้าอะไรกันวะเนี่ย!!!!!!"
ผมมีชื่อว่าซีเค หนุ่มหล่อ พ่อรวย เรียนเก่ง และที่สำคัญ สาวๆทั้งมหาลัยนั้น เป็นของผมมาเกือบทั้งมหาลัยแล้ว
"พี่ซีเคคะ!! ทำไมทำกับชมพู่แบบนี้ละคะ!!"
"อีบ้า!! ออกไปนะ นี่พี่ซีเคของฉัน!!"
"แกนั่นแหละออกไป!!"
"อร้ายย!!!!!!"
ตุ๊บ!! เพี๊ยะ!! ปั่ก!!
ภาพหญิงสาวมากมายทะเลาะตบตีกันเพื่อแย่งผมนั้น เป็นภาพที่ใครเห็นแล้วต่างก็จ้องมองมาด้วยความอิจฉา5555 ก็อย่างว่าละครับ คนมันหล่อมันรวย5555
"เอาละๆ สาวๆ ไม่ต้องเเย่งพี่กันหรอกนะครับ พี่จะเก็บพวกเธอเอาไว้ทั้งสองคนเลยแล้วกันนะ55555"
"จริงหรอคะ!!! เย้!! พี่ซีเคน่ารักที่สุดเลยคะ!!"
จากนั้นสองสาวที่ตบตีกันเมื่อกี้ก็วิ่งเข้ามากอดผมเอาไว้55555 มีความสุขจริงโว๊ย!!!
"พี่ซีเคต้องซื้อกระเป๋าให้ชมพู่ด้วยนะคะ"
"ต้องซื้อนาฬิกาให้จุ๊บแจงด้วย"
"ได้ครับๆ ไม่ทะเลาะกันแล้วน๊า555"
- ดูนั่นดิ หมั่นไส้วะ!! คิดว่าตัวเองหล่อมากรึไงกัน
- เออนั่นดิ แม่งไม่เห็นจะหล่อตรงไหนเลย ถ้าบ้านแม่งไม่รวยนะไม่มีใครสนใจแม่งหรอก
- เออวะ55555
ณ ห้องเรียนของมหาวิทยาลัย
"เห้ย!! ไอ่ซีเค มึงไปไหนมาวะ แม่งอาจารย์จะเริ่มสอนอยู่แล้ว!!"
กูก็ไปเคลียปัญหาให้สาวๆนะสิวะ555"
"มึงแม่ง!! หมั่นหน้าดีวะเพื่อน!! กูละเชื่อมึงจริงๆ555"
"ไอ่สัส!!"
หลังจากที่ผมแยกกับสองสาวเเล้วผมก็วิ่งตรงดิ่งมาที่ห้องเรียนทันที
"ใครวะ??"
"ไหน??"
"ไอ่คนที่เดินมากับอาจารย์นั่นไง!!"
"ก็จะรู้ไหมละก็นั่งอยู่ด้วยกัน??"
ผมหันไปมองตาขวางใส่เพื่อนเล็กน้อยก่อนที่จะจ้องไปยังคนที่เดินมากับอาจารย์ประจำวิชา
"ใครวะ นักศึกษาใหม่หรอ??"
"พ่อมึงมั้ง"
"ไอสัสเจ!!!"
"นักศึกษาสองคนนั้นหนะ เงียบๆหน่อยได้ไหม!!!"
"อ๊ะ!! ครับๆ"
ผมหยุดพูดทันทีแล้วหันไปมองยังไอ่คนที่เดินมากับอาจารย์ แต่!!! มันกำลังยิ้มมุมปากเยาะเย้ยผมอยู่!!!
"มอง...หา....พ่อ....มึง...หรอ..."
ผมพูดออกมาแบบไม่มีเสียงเน้นทีละประโยคให้มันเข้าใจว่าผมต้องการจะสื่ออะไร
มันกลับยิ้มตอบกลับมาอย่างท้าทายก่อนที่จะกระซิบกับอาจารย์
"เชี่ย!! แม่งขี้ฟ้องวะ!!"
"เอาละๆ นี่คือสกาย เขาพึ่งย้ายกลับมาจากจีนแล้วจะมาเป็นนักศึกษาของที่นี่นับตั้งแต่วันนี้ไป ฝากทุกคนดูแลเขาด้วย เขาอาจจะยังไม่ค่อยเข้าใจวัฒนธรรมและภาษาของเรามากเท่าไหร่เพราะเขาอยู่ที่จีนมาตั้งแต่เด็ก สกาย เธออยากจะไปนั่งตรงนั้นใช่ไหม"
พยักหน้า...
"ซีเค!!! ลุกขึ้นแล้วจัดที่ให้เพื่อนด้วย"
"เอ๋...ที่นั่งมีตั้งเยอะแยะทำไมต้องมานั่งข้างผมด้วยละครับ??!!"
"ซีเค!!!"
"ครับๆอาจารย์ อย่าดุสิครับ มานี่สิยืนให้รากงอกออกตีนรึไง!!"
"อะฮึ้ม!!!"
"เออ...ขอโทษครับ มา นั่ง ตรง นี้ สิ sit down อะ sit down Ok"
ผมพูดจีนไม่ได้หรอกนะ ถ้าแม่งยังฟังไม่รู้เรื่องก็ให้ยืนอยู่แบบนั้นแหละ
"thank"
"ใครแทงใครวะมึง??"
"ไอ่สัส!! มันบอกขอบคุณ"
"อ๋อๆ555 แทง!! แทง!!"
"เอิ่ม...ไอ่เจ มึงไปตรงนู่นนะ ไอ่ควาย!!"
ผมไล่ไอ่เพื่อนตัวดีให้เขยิบไปนั่งไกลๆ ก่อนที่จะหันไปมองไอ่คนที่นั่งข้างๆ แม่งหล่อสัส ต้องอยู่ให้ห่างมันซะเเล้ว เดี๋ยวคะเเนนผมตกหมด สาวๆที่นี่ยิ่งชอบคนหล่อๆแบบนี้อยู่ด้วย
"ซีเค!!"
"คร๊าบ.....มีอะไรครับอาจารย์"
"แบ่งหนังสือให้สกายเขาดูด้วย เขาเพิ่งมาวันนี้ยังไม่มีหนังสือ"
เชี้ยไรวะเนี่ย!! มึงเเม่งพกแต่หน้ามาเรียนรึไง?!
"ครับๆ อ๊ะ!! อ่าน..ด้วย..กัน!! โอเค้!!"
"OK"
เออ...เชื่องดีจริงๆ5555
หลังจากนั้นผมกับไอ่สกายนี่ก็นั่งอ่านหนังสือเรียนด้วยกันจนหมดเวลาเรียน ก่อนที่มันจะบอกขอบคุณแล้วรีบลุกขึ้นไปจากห้องทันที
"แม่งจะรีบไปไหนวะ??"
"มันคงรีบไปแทงแหละมึง"
"ไอ่สัสเจ กูก็คิดว่ามึงโง่มาตลอดนะ ไม่คิดว่ามึงจะโง่จริงๆ!!"
"เฮ้ยๆ ซีเค มึงจะไปไหนวะ!!"
"กลับบ้านดิ แม่งวันนี้กูต้องไปเจอปู่กับย่าที่บ้านใหญ่อีก"
"ทำไมวะ??"
"กูจะรู้ไหมละ มึงจะไปนั่งฟังกับกูไหมละไอ่เจ"
"No No No กูยังจำคราวที่แล้วที่กูไปเป็นเพื่อนมึงที่บ้านใหญ่ได้อยู่เลย แม่งกูนึกว่าบ้านผีสิง สยองชิบหาย"
"ทีงี้ฉลาดขึ้นมาเลยนะมึง เอ่อๆ กูไปละ"
"เออ โชคดีนะมึง"
ก็อย่างที่ไอ่เจมันพูดแหละครับ ตระกูลของผมถึงจะร่ำรวยก็จริง แต่พ่อกับแม่เคยบอกผมว่าที่เราร่ำรวยอยู่แบบนี้ขึ้นเรื่อยๆเพราะปู่กับย่าได้ให้สัญญากับบรรพบุรุษเอาไว้ว่าอะไรสักอย่างนี้แหละ แล้วมันก็เป็นเรื่องความเชื่อด้วย ทำให้บ้านใหญ่ที่ปู่กับย่าผมอยู่ เลยมีเเต่เครื่องรางของขลังโต๊ะหมู่บูชาเต็มไปหมด ผมก็ไม่อยากจะขัดอะไรหรอกครับ ถามว่าเชื่อไหม เหอะ!! เชื่อก็บ้านะสิครับ ของเเบบนี้ไม่เคยเห็นกับตาก็แสดงว่ามันไม่จริง นี่คือความคิดของผม
"คุณชายครับ เชิญขึ้นรถได้แล้วครับ"
"พี่ซีเค.....จะกลับแล้วหรอคะ"
"อ่า....ลุงเถียน รอแปบหนึ่งนะครับ"
"ตะ..แต่!!"
"เถอะน่าครับ แปบเดียว"
"ครับๆ"
ในขณะที่ผมกำลังจะก้าวขึ้นรถ ก็ได้มีสาวน้อยในสต๊อกของผมที่พึ่งเพิ่มเข้ามาเมื่อไม่กี่วันมานี้วิ่งมาหาแล้วสวมกอดผมเอาไว้
"ว่าไงครับ มะนาว ยังไม่กลับอีกหรอ"
"มะนาวรอพี่ชายอยูค่ะ พี่ซีเคจะกลับแล้วหรอคะ??"
"อ๊ะ!! ใช่ครับ ว่าแต่ น้องมะนาวมีพี่ชายเรียนที่นี่ด้วยหรอครับ??"
"ใช่คะ พึ่งย้ายเข้ามาวันนี้เลย เอ๋ เหมือนจะเรียนห้องเดียวกับพี่ซีเคด้วยหนิคะ"
"หืม...พึ่งย้ายมาวันนี้ เรียนห้องเดียวกัน มาจากเมืองจีนด้วยใช่ไหม??!!"
"อ๊ะ!! ใช่ค่ะ นั่นไง!! พี่สกาย!! ทางนี้คะ"
ชิบหายแล้วไง คนมีตั้งเยอะตั้งแยะทำไมไม่ไปเกิดเป็นน้องคนอื่นล่ะมะนาว...
"พี่ซีเค นี่พี่สกายพี่ชายมะนาวเองคะ แล้วนี่พี่ซีเค แฟนมะนาวเองคะ"
"แฟน???"
"ใช่ค่ะ พวกพี่รู้จักกันแล้วใช่ไหมคะ"
"อะ..เออ....ใช่ๆ5555 ไงสกาย!!"
ผมยื่นมือไปเพื่อจะจับมือของหมอนั่นแต่กลับโดนมองกลับมาด้วยสายตาเรียบเฉยแล้วไม่แม้แต่จะยกมือขึ้นมาหาผมเลย
"เออ...โอเค555 นายคงยังไม่เข้าใจอะไรเกี่ยวกับที่นี่ น้องมะนาว พี่ไปก่อนนะครับ"
"อ้าว พี่ซีเคจะไปแล้วหรอคะ"
"ใช่ครับ พอดีพี่มีธุระกับที่บ้านต้องรีบไปแล้วไว้เจอกันนะครับ"
"ได้คะ"
ผมโบกมือลามะนาวแล้วมองไปที่ไอ่สกายหน้านิ่งเป็นเสาไฟฟ้านั่น เห็นแล้วหงุดหงิดชะมัด แม่งขนาดทำหน้านิ่งๆมันยังหล่อกว่าผมเลย โลกนี้ไม่ยุติธรรม!!!
ผมเดินทางมากับลุงเถียนจนมาถึงบ้านใหญ่ เฮ้อออ.....เอาละเตรียมตัว!!
"คุณปู่!!!! คุณย่า!!! ซีเคคิดถึงคุณปู่คุณย่าจังเลยคร๊าบบบบ!!!!"
ผมวิ่งลงไปจากรถแล้วตะโกนออดอ้อนปู่กับย่าเหมือนที่เคยทำทุกครั้งแล้วมันก็ทำให้ผมได้รางวัญเล็กๆน้อยๆติดมือมาตลอด..
"อ้าวซีเค มาแล้วหรอ??"
"คร๊าบบ....เอ๋....เอ๋....เอ๋...."
ผมนิ่งหยุดชะงักเมื่อวิ่งเข้ามาแล้วกลับพบว่าที่นั่งอยู่ไม่ได้มีแค่ปู่กับย่า แต่ยังมีคนอื่นๆอยู่ด้วยโดยเฉพาะไอ่คนที่กำลังนั่งจิบชาไขว้ขาอยู่ตรงหน้าผมนี่!!!
"นายมาทำอะไรที่นี่!!!"
"อ้าว..ซีเครู้จักสกายแล้วหรอ อ๊ะ!! จริงสิ ย่าลืมไปเลยว่าสกายพึ่งย้ายมาเรียนที่เดียวกับซีเควันนี้"
"ขะ ขะ ขะ ขะ ขะ เขาเป็นใครครับย่า!!!"
"ซีเค....มานั่งดีๆ ดูทำท่าทางเข้า"
ท่าทางที่ย่าพูดถึงคือผมกำลังยืนถ่างขากว้างแล้วชี้ไปที่หน้าสกายอยู่อย่างนั้น
"ครับ"
"เอาละ ซีเค หลานจำสกายไม่ได้หรอ??"
"หืม...???"
"อะไรกัน...ตอนเด็กๆย่าเห็นว่าทั้งสองคนดูจะสนิทกันมากด้วยซ้ำ"
"เอ๋???"
"ก็สกายคนที่เคยมาเล่นกับหลานบ่อยๆตอนเด็กๆไงจ๊ะ"
ความรักที่มาพร้อมกับคำว่าบุคคลต่างชนชั้น เมื่อเด็กหนุ่มธรรมดาผู้แสนจะยากจนข้นแค้น ได้มาพบกับคนที่เป็นเหมือนแสงสว่างในชีวิตยามที่ลำบาก และเกิดตกหลุมรักขึ้นมา ซึ่งมันก็บังเอิญกับที่ชายหนุ่มผู้เป็นเหมือนแสงสว่างให้กับเขา ก็ตกหลุมรักเขาเหมือนกันความรักของเขาทั้งสองเป็นเหมือนดั่งเทพนิยาย ที่เจอกันและรักกันอย่างมีความสุข แต่!! ความรักมันไม่ได้สวยงามและง่ายดายขนาดนั้น เมื่อมีรัก ก็ย่อมมีอุปสรรคเกิดขึ้น ฐานะที่ต่างกัน ความเห็นต่างของครอบครัวทำให้รักกันไม่ได้เพราะถูกกีดกันจนหมดหนทาง เขาจึงตัดสินใจที่จะหนีออกไปโดยไม่บอกกล่าว แต่ความบังเอิญหรือเพราะโชคชะตา ก็ทำให้เขาทั้งสองคนกลับมาพบเจอกันอีกครั้งในรอบหลายปี ด้วยความรู้สึกที่ยังคงเดิม แต่สถานะได้ต่างกันออกไป แล้วแบบนี้เขาสองคนจะยังรักกันได้ไหม ติดตามได้ใน Impossidble love ( ความรักที่เป็นไปไม่ได้ ) นิยายรักโรแมนติกดราม่า ที่จะทำให้คุณ เศร้า เสียน้ำตา และอบอุ่นหัวใจไปในคราเดียวกัน....
ความรักที่มาพร้อมกับความแค้น เมื่อแฟนสาวที่คบกันมานานมาดันมาฆ่าตัวตายในวันที่พึ่งคลอดลูกของตัวเอง ความเศร้าเข้ามาเยือนภายในจิตใจ และเริ่มเปลี่ยนเป็นความแค้น เขาจึงเก็บความแค้นนี้เอาไว้ในใจเพื่อรอวันที่จะชำระให้ตายตกไปตามกัน แล้ววันหนึ่งเขาก็ได้ค้นพบว่าใคร คือสาเหตุที่ทำให้คนรักของเขาเลือกที่จะจบชีวิตลง การแก้แค้นจึงได้เริ่มต้นขึ้น!!! เขาจงใจที่จะใช้ตัวเองเพื่อเข้าหาคนที่เป็นต้นเหตุของเรื่องทั้งหมด แล้วหลอกให้รักทำให้เฟมือนตายทั้งเป็นเพียงเพื่อแก้แค้นให้คนที่จากไป แต่เรื่องกลับไม่ได้ง่ายขนาดนั้น เพราะเขาดันตกหลุมรักให้กับศัตรูที่ไม่ควรรัก เรื่องราวอึดอัดใจจึงได้เกิดขึ้น เขาจะแก้แค้นต่อ หรือหยุดการกระทำเลวทรามที่กำลังทำอยู่ลง มาลุ้นไปพร้อมๆกันใน เงาแค้น นิยายโรแมนติกดราม่า ที่จะทำให้คุณเศร้าเคล้าน้ำตาไปกับเรื่องราวการแก้แค้นและฟินไปกับฉากของพระนางยามรักไปพร้อมๆกัน
ความสัมพันธ์ร่านสวาทชั่วข้ามคืน นำมาสู่ความน่าอึดอัดใจของรักสามเศร้าเมื่อเขาดันไปมีอะไรกับรุ่นพี่ในคณะเดียวกันที่มีแฟนอยู่แล้ว…
เวินอี่ถงได้เห็นความรักอันลึกซึ้งของเจียงยวี่เหิง แต่ก็ได้สัมผัสกับการทรยศของเขาเช่นกัน เธอเผารูปแต่งงานของพวกเขาต่อหน้าเขา แต่เขากลับมัวแต่ง้อชู้ของเขา ทั้งๆ ที่เขาแค่มองดูแวบหนึ่งก็จะเห็น แต่เขากลับไม่สนใจเวินอี่ถงสุดจะทน ตบหน้าเขาอย่างแรง พร้อมอวยพรให้เขากับชู้ของรักกันยืนยาว แล้วเธอก็หันหลังสมัครเข้ากลุ่มวิจัยลับเฉพาะ ลบข้อมูลประจำตัวทั้งหมด รวมถึงความสัมพันธ์การแต่งงานกับเขาด้วย! ก่อนจากไป เธอยังมอบของขวัญชิ้นใหญ่ให้เขาอีกด้วยเมื่อถึงเวลาที่จะเข้ากลุ่ม เวินอี่ถงก็หายตัวไป บริษัทของเจียงยวี่เหิงประสบปัญหาล้มละลาย เขาจึงออกตามหาเธอด้วยทุกวิถีทาง แต่สิ่งที่ได้รับกลับเป็นใบมรณบัตรที่ต้องสงสัยเขาสติแตก “ฉันไม่เชื่อ ฉันไม่ยอมรับ!”เมื่อพบกันอีกครั้ง เจียงยวี่เหิงต้องตกใจที่พบว่าเวินอี่ถงเปลี่ยนตัวตนใหม่แล้ว โดยข้างกายมีผู้มีอำนาจที่เขาต้องยอมก้มหัวให้เขาอ้อนวอนอย่างสิ้นหวัง “ถงถง ผมผิดไปแล้ว คุณกลับมาเถอะ!”เวินอี่ถงเพียงยิ้มยักคิ้ว จับแขนของผู้มีอำนาจข้างๆ “น่าเสียดาย ตอนนี้ฉันอยู่ในระดับที่นายไม่อาจเอื้อมถึงแล้ว”
แต่งงานกับมู่หนานจือมาเป็นเวลาสามปี ซูป้านเซี่ยคอยดูแลและเอาใจเขามาโดยตลอด แต่สุดท้ายสิ่งที่ได้รับจากเขาคือความเย็นชาและความรังเกียจ เมื่อคนรักของมู่หนานจือกลับมา เธอก็รู้สึกว่าสามีของเธอยิ่งห่างเหินจากเธอ ในที่สุด เธอไม่สามารถทนต่ออีกต่อไปและเป็นฝ่ายเสนอให้หย่ากัน มู่หนานจือมองตามหลังซูป้านเซี่ยที่กำลังลากกระเป๋าเดินทางออกจากบ้าน ก็พนันกับเพื่อนว่า "ดูเอาเถอะ สักวันหนึ่งเธอจะต้องเสียใจและกลับมาอ้อนวอนแน่ ๆ " ซูป้านเซี่ยได้ยินก็ยิ้มอย่างเย็นชา"มู่หนานจือ ฝันไปเถอะ" ผ่านไปหลายวัน มู่หนานจือบังเอิญพบว่าอดีตภรรยาของตนฉลองการหย่าร้างในบาร์ และจากนี้ไปอีกไม่นาน เธอก็มีแฟนหนุ่มใหม่แล้วด้วย เวลานี้เอง มู่หนานจือถึงเริ่มกระวนกระวายใจขึ้นมา เพราะเขาพบว่าผู้หญิงที่เคยรักเขาอย่างเอาเป็นเอาตายนั้น ตอนนี้ดูเหมือนไม่ได้สนใจเขาอีกต่อไปแล้ว แล้วเขาควรจะทำอย่างไร
เธอเป็นหมอเก่งๆ ระดับสากล เป็นประธานของบริษัทใหญ่แห่งหนึ่ง ผู้บังคับบัญชาหารรับจ้างที่แข็งแกร่งที่สุด และผู้คลั่งไคล้เทคโนโลยีอันดับหนึ่ง... ไม่นานมานี้ เจี่ยนอู่ ผู้มีความสามารถแข็งแกร่งกลับปกปิดตัวตนของนางและแต่งงานกับชายหนุ่มยากจนคนหนึ่ง โดยไม่คาดคิดก่อนวันแต่งงาน คู่หมั้นของเธอกลายเป็นนายน้อยที่หายไปจากครอบครัวที่ร่ำรวย เขาไม่เพียงเสียใจกับการหมั้นหมายเท่านั้น แต่ยังปราบปรามและทำให้เธออับอายด้วยทุกวิถีทางอีกด้วย เมื่อความจริงถูกเปิดเผย อดีตคู่หมั้นของเธอตกตะลึง และขอร้องให้กลับมาคืนดีกัน ผู้คนใหญ่โตที่ร่ำรวยและน่านับถือคนหนึ่งยืนอยู่ต่อหน้าเจี่ยนอู่ "นี่คือภรรยาของผม ใครกล้าหวังกับเธอ"
จือหลินเธอเป็นเด็กกำพร้า ที่ถูกมารดาทอดทิ้งไว้ที่โรงพยาบาลตั้งแต่วันแรกที่ลืมตามาดูโลก ต่อมาทางโรงพยาบาลจึงส่งตัวเธอให้กับสถานสงเคราะห์ พออายุได้สามปี ก็มีองค์กรหนึ่งมารับเลี้ยงตัวเธอ แต่พวกเขาเลี้ยงเธอและเด็กคนอื่นๆ ไว้เพื่อเป็นหนูทดลองเท่านั้น ครั้งแรกที่ถูกนำตัวมา ต่างก็โดนจับฉีดยาเข้าสู่ร่างกาย เพื่อหาเด็กที่เลือดต้านเชื้อที่ฉีดเข้าไปได้เท่านั้น หากร่างกายทนรับไม่ไว้สิ่งที่ทางองค์กรมอบให้คือความตาย จือหลินอาจเป็นเพราะเลือดของเธอพิเศษกว่าเด็กคนอื่น ไม่ว่าฉีดยาตัวไหนเข้าสู่ร่างกายเธอก็ทนรับได้ทั้งนั้น นับจากนั้นมาเธอจึงถูกเลี้ยงดูจากองค์กรมาอย่างดี เรื่องการศึกษาเธอก็สามารถเรียนรู้ทุกสิ่งได้อย่างเต็มที่ แต่เพราะความฉลาดของเธอจึงถูกส่งให้เรียนวิทยาศาสตร์การแพทย์และเรียนแพทย์ควบคู่ไปด้วย เมื่อเรียนจบมาแล้ว จือหลินยังคงทำการให้องค์กรเช่นเดิม แม้จะไม่ได้เป็นนักฆ่าเช่นเพื่อนคนอื่นที่มาพร้อมกัน แต่เธอก็ต้องฝึกไม่ต่างจากพวกเขา ยิ่งเมื่อต้องนำเด็กเข้ามาเป็นหนูทดลองเช่นเดียวกับเธอในตอนเล็ก ต่อให้ไม่อยากทำก็ต้องทำ หากฝ่าฝืนไม่ทำการชิปที่ถูกฝังอยู่ในตัวจะถูกกระตุ้นให้ได้รับความทรมานทันที นานวันเข้า ความดำมืดก็ก่อเกิดในใจ ไม่ว่าจะฉีดยาให้เด็กร้ายแรงเพียงใดจือหลินก็เลิกรู้สึกผิดไปเสียแล้ว เพราะการทำงานของเธอตลอดหลายปีที่ผ่านมาทำให้ทางองค์กรยกย่องและมักจะให้สิ่งดีๆ กับเธอเสมอ เมื่อมีชิปตัวหนึ่งที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อฝังมิติอีกห้วงหนึ่งไว้ภายในร่างกาย จือหลินนางก็ได้รับเลือกให้ทดลองใช้สิ่งนี้ด้วยเช่นกัน จือหลินถูกฝังชิปมิติเข้าที่แกนสมองของเธอ ความเจ็บปวดที่ได้รับทำให้เธอแทบสิ้นสติ เมื่อชิปถูกฝังลงไปแล้ว เพียงไม่นานก็มีเสียงจากระบบให้เธอยืนยันตัวตน ก่อนที่จะปรากฏภาพต่างๆ ภายในหัวของเธอ ของจากภายนอกล้วนแต่ถูกส่งเข้าไปเก็บไว้ด้านในได้ทั้งสิ้น หากเป็นเนื้อสด ผักผลไม้ ยังคงความสดอยู่เช่นเดิมแม้จะเก็บไว้นานมากเพียงใด ห้วงมิติของจือหลินเหมือนเป็นห้องสูทในคอนโดของเธอเองที่มีทุกอย่างพร้อมใช้อยู่ภายใน แม้แต่ห้องทดลอง ห้องทำงานของเธอก็ปรากฏอยู่ในนั้นเช่นกัน นับจากนั้นจือหลินจึงซื้อของเขาเก็บภายในมิติของเธอเป็นจำนวนมาก ตัวเธอเพียงผู้เดียวที่สามารถเข้าออกในห้วงมิติได้ วันเวลาผ่านไปจนจือหลินล่วงเข้าวัยสามสิบปี เธอสามารถผลิตยาที่ทำให้ทั่วโลกจับตามองออกมาได้ ยายื้อชีวิตจากความตาย แต่การทดลองของเธอที่ผ่านมาต้องใช้คนจำนวนมากในการเข้าทดลอง จือหลินสามารถยื้อชีวิตของชายชราที่กำลังจะหมดลมหายใจให้กลับมามีชีวิตปกติได้ เมื่อเธอกักตัวเขาไว้ได้หกเดือนเห็นว่าไม่มีสิ่งใดที่ผิดปกติจึงคิดจะปล่อยเขาออกไปใช้ชีวิตเช่นเดิม แต่แล้วสิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อชายชราที่กำลังจะเดินออกจากห้องทดลองล้มลงต่อหน้าทุกคนที่เข้าร่วมชื่นชมผลงานของเธอ จือหลินรีบเข้าไปตรวจดูความผิดปกติทันที ก็พบว่าเขาหยุดหายใจเสียแล้ว เจ้าหน้าที่ทั้งหมดจึงต้องพาชายชราคนนั้นกลับเข้าไปในห้องทดลองเพื่อหาสาเหตุ ผ่านไปเพียงสองครึ่งชั่วโมงเขากลับลืมตาขึ้นมาอย่างไม่น่าเชื่อ แต่แววตาที่มองมาทางทุกคนได้เปลี่ยนไป ในดวงตาของชายชราผู้นั้นมีเพียงตาขาวไม่มีตาดำเช่นคนมีชีวิต “เกิดเรื่องอะไรขึ้น” ผู้อำนวยการองค์กรเดินเข้ามาหาจือหลินแล้วเอ่ยถามอย่างตื่นตระหนก เพราะนักข่าวที่ข่าวเชิญมายังอยู่ที่ด้านนอกเพื่อรอฟังคำตอบ “ขอดิฉันตรวจสอบก่อนค่ะ” จือหลินกุมหน้าผากอย่างมึนงง เธอก็ไม่เข้าใจเช่นกันว่าเป็นแบบนี้ไปได้อย่างไร คนทั้งหมดยืนมองชายชราที่เดินท่าทางประหลาดอยู่ในห้องทดลอง ในตอนนี้เขาเริ่มหยิบสิ่งของทำร้ายตัวเองอย่างบ้าคลั่ง เจ้าหน้าที่คนหนึ่งรีบวิ่งเข้าไปในห้องทดลองเพื่อห้ามไม่ให้เขาทำร้ายตัวเอง ชายชราเมื่อได้ยินเสียงคนเดินเข้ามาก็พุ่งเข้ามาหาอย่างรวดเร็ว และเริ่มกัดกินเนื้อตัวของเขาอย่างโหดร้าย คนที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดต่างยกมือขึ้นปิดปากอย่างตกใจ เพราะกลัวข่าวเรื่องนี้จะรั่วไหล ผู้อำนวยการสั่งให้คนไปแจ้งนักข่าวให้กลับไปก่อน ทางองค์กรจะแถลงการณ์เรื่องนี้ในภายหลัง เจ้าหน้าที่ที่ถูกทำร้ายล้มลงเสียชีวิตไม่นานก็มีสภาพไม่ต่างจากชายชราคนนั้น เสียงวุ่นวายไม่ได้จบลงที่ห้องทดลองของจือหลินเพียงแห่งเดียว เพราะห้องทดลองอื่นก็ล้วนพบเหตุการณ์เช่นนี้ไม่ต่างกัน ผู้อำนวยการจำต้องส่งสัญญาณเคลื่อนย้ายเจ้าหน้าที่ออกจากตึกทดลองให้เร็วที่สุด จือหลินไม่รู้ว่ายาของนางจะสร้างผลเสียมากถึงเพียงนี้ เพราะเจ้าหน้าที่หลายคนล้วนจบชีวิตจนกลายเป็นซอมบี้ไปเสียแล้ว ตึกทดลองถูกปิดตาย เพื่อไม่ให้ซอมบี้ที่อยู่ด้านในออกมาสร้างความเสียหายภายนอกได้ “เรื่องนี้ดิฉันขอจัดการด้วยตนเองค่ะ” จือหลินเดินเข้าไปหาผู้อำนวยการที่ห้องทำงานของเขา เพื่อบอกสิ่งที่เธอคิดว่าอย่างดีแล้วในหลายวันที่ผ่านมา เมื่อเห็นว่าผู้อำนวยการไม่ห้ามในสิ่งที่เธอจะทำจือหลินจึงเดินไปที่หน้าตึกทดลองพร้อมระเบิดเวลาในมือ เธอคิดจะทำลายสิ่งของทุกอย่างที่เธอสร้างขึ้นมาลงด้วยมือของเธอเอง จือหลินเปิดประตูตึกทดลองแล้วรีบปิดลงทันที เธอเดินเข้าไปที่กลางตึกให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะระหว่างทางเธอต้องคอยต่อสู้กับซอมบี้ที่จะเข้ามาทำร้ายเธอไปด้วย เสียงสัญญาณระเบิดดังขึ้น จือหลินหลับตาลง พร้อมทั้งถอนหายใจให้กับเรื่องราวในชีวิตที่ผ่านมา เสียงระเบิดดังไปทั่วบริเวณพร้อมทั้งตึกทดลองที่ถล่มลงมาจนแทบไม่เหลือซาก “เจ็บชะมัด” จือหลินร้องครางออกมาเบาๆ แต่เมื่อรู้สึกตัวได้เธอก็รีบพยุงตัวขึ้นนั่งอย่างรวดเร็วพร้อมมองไปรอบๆ อย่างไม่อยากเชื่อ เธอคิดว่าตายไปแล้วเสียอีก แต่ทำไมถึงได้มีความรู้สึกเจ็บได้ “นี้มันเรื่องบ้าอะไรอีกว่ะเนี่ย” จือหลินเบิกตากว้างอย่างไม่อยากเชื่อ รอบๆ ตัวเธอในตอนนี้เป็นป่าทึบ มือของเธอก็ไม่ใช่ของเธออย่างแน่นอนเพราะมีขนาดเล็กราวกับเป็นเด็กน้อยคนหนึ่งเท่านั้น ตอนที่เธอมึนงงสับสน เรื่องราวความทรงจำของเจ้าของร่างก็ไหลเข้าสู่หัวของเธอจนต้องลงไปนอนดิ้นกับพื้น
เจียนเยว่ใช้ชีวิตอย่างยากลำบากจนกระทั่งพบอาของเธอ แต่เธอก็ตกหลุมรักอาของเธออย่างควบคุมตัวเองไม่ได้ น่าเสียดายที่อาคนนั้นกำลังจะแต่งงาน เลยจัดให้เธอไปต่างประเทศ เพื่อแก้แค้น เธอจึงเรียนวิชาบุรุษวิทยาและหลังจากกลับมาอีกครั้ง เธอก็กลายเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านบุรุษวิทยาที่มีชื่อเสียงที่สุด เชี่ยวชาญการรักษาภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศ การหลั่งเร็ว ภาวะมีบุตรยาก... คราวนี้คุณอาดันเธอไว้ในห้องนอน "ถ้าอยากดูร่างกายของผู้ชายมาก ก็ช่วยตรวจให้ผมหน่อยสิ" เธอยิ้มอย่างชั่วร้าย และใช้มือปลดเข็มขัดของเขา "มิน่าเล่าขนาดอามีคู่หมั้นแล้ว แต่กลับไม่แต่งงานสักที ที่แท้มันใช้งานไม่ได้สินะ" "จะได้หรือไม่ได้ คุณก็ลองดูเองสิ" "ไม่เลย อาไปหาคนอื่นช่วยดูให้เถอะ"
ยัยเด็กขาดสารอาหารคนนี้หรอ คือลูกสาวคนใหม่ของแม่.. เด็กอะไร ขวางหูขวางตาชะมัด เจอหน้ากันเอาแต่ก้มหน้าหลบตา แต่ทำไมยัยเด็กนี่ถึงสวยวันสวยคืน..ถ้าเขาจะแอบกินเด็กของแม่..จะผิดไหม
© 2018-now MeghaBook
บนสุด