พันธนาการร้ายบังคับรัก นิยายอีโรติกขนาดสั้น เนื้อหาร้อนแรงหาใครไม่ชอบข้ามผ่านเรื่องนี้ไปได้เลยนะคะ
พันธนาการร้ายบังคับรัก นิยายอีโรติกขนาดสั้น เนื้อหาร้อนแรงหาใครไม่ชอบข้ามผ่านเรื่องนี้ไปได้เลยนะคะ
เสียงหัวเราะสดใสของนักศึกษากลุ่มใหญ่ชายหญิงแว่วมาตามสายลม บริเวณม้านั่งหินอ่อนใต้ต้นหางนกยูงตรงหน้าตึกคณะ... นี่เป็นวันสุดท้ายของการสอบ ก่อนที่การปิดเทอมใหญ่จะมาถึง มหาวิทยาลัยดูผู้คนบางตา เพราะมีนักศึกษาเพียงบางคณะเท่านั้นที่ยังคงมีการสอบอยู่ หนึ่งในนั้นคือเอมวรี หญิงสาวหน้าตาจิ้มลิ้ม ดวงตากลมโต แพขนตายาวงามงอนแบบไม่ต้องดัด จมูกโด่งพอประมาณกลีบปากสีชมพูอ่อนบางฉ่ำหวาน เป็นกระจับได้รูป ดูน่ารักจิ้มลิ้มและชวนจุมพิต... หล่อนกำลังนั่งทวนตำรา หลังจากออกห้องสอบมาหมาดๆ ท่ามกลางกลุ่มเพื่อนสนิทอีกห้าหกคนที่ส่งเสียงเจี๊ยวจ๊าว ดูสีหน้าแต่ละคนแล้วต่างก็ยิ้มแย้มแจ่มใส ไม่ต้องเดาก็น่าจะพอรู้ว่า...
นักศึกษากลุ่มนี้ ทำข้อสอบผ่านมาได้อย่างสบายใจ
“ข้อนั้นแกตอบอะไรอ่ะ นี่เลยคำตอบอยู่ในชุดติว” เพื่อนคนหนึ่งถามขึ้น “นี่ไงๆ ตอนเรียนอาจารย์ก็ย้ำให้อ่านหัวข้อนี้เยอะๆ อ่ะ” พูดไปเหงื่อก็ยังซึมบริเวณหน้าผาก เพราะอากาศนอกห้องสอบมันก็ร้อน หลังจากที่ร้อนรุ่มในห้องสอบเพราะความเกร็งเครียด แต่พอสอบเสร็จแล้วเท่านั้น ชีวิตมันก็โล่งไปหมดเหมือนยกภูเขาออกจากอก แต่กระนั้นก็อดมาเปิดดูตำราเพื่อค้นหาคำเฉลยไม่ได้ว่าบางข้อที่ใช้เวิร์บทูเดาไปนั้นจะถูกหรือเปล่า นี่เรียกว่าลุ้นกันตั้งแต่นาทีแรกจนนาทีสุดท้าย
“ไหนดูหน่อย” เพื่อนสาวคนหนึ่งแย่งหนังสือจากมือเธอไปดู ก่อนจะหลุดเสียงกรี้ดออกมาด้วยความดีใจ “กรี้ดดด ข้อนี้ฉันตอบถูก”
“ใครก็ตอบถูกทั้งนั้นล่ะย่ะ ข้อนี้ง่ายจะตาย” เอมวรีกลอกตามองบนตอบเพื่อน
“เออๆ ไม่ต้องดูแล้วแก สอบเสร็จแล้ว ก็แล้วๆ กันไปเถอะ รอลุ้นผลสอบกันดีกว่า” เพื่อนสาวผมสั้นอีกคนที่มีมาดทอมบอยนิดๆ พูดขึ้น
“เออจริง ว่าแต่สอบเสร็จไปฉลองกันเถอะ” เพื่อนสาวคนที่สนิทกับเอมวรีที่สุดที่นั่งข้างๆ พูด
“เป็นความคิดที่ดีมาก” เอมวรีหันไปตอบเพื่อนพร้อมฉีกยิ้มกว้าง ทันใดนั้นมือถือก็ส่งเสียงดังขึ้นมาคั่นจังหวะการสนทนา
“ไปไหนดีวะเอม...” เพื่อนจอมกรี้ดกร๊าดร่างหนุ่มหัวใจสาวถามขึ้น ขณะที่เอมวรีกำลังมองเลิ่กลั่กหาอุปกรณ์สื่อสารที่ส่งเสียงดัง
“พวกแกปรึกษากันก่อน พ่อโทรมาน่ะ พวกแกไปไหนก็ที่นั้นล่ะ” บอกเพื่อน พอดีก็หามือถือเจอ
“ค่ะพ่อ” หญิงสาวรับสาย เสียงเจือแววดีใจจนคนโทรมาสัมผัสได้
“ทำข้อสอบได้มั้ยลูก” บิดาเสียงทุ้มนุ่มส่งมาตามสาย
“สบายมากค่ะพ่อ ฝีมือระดับนี้แล้ว” บุตรสาวตอบน้ำเสียงร่าเริง
“แบบนี้พ่อต้องเตรียมรางวัลสินะ” คนเป็นพ่อเปรย คนได้ฟังหลุดยิ้ม ดวงตาหญิงสาวเปล่งประกาย รางวัลของพ่อ ใครจะไม่อยากได้
“รางวัลต้องชิ้นใหญ่นะคะพ่อ” น้ำเสียงกระเซ้าเจือแววออดอ้อนตามประสาลูกสาวคนโปรด
“พ่อเคยทำเราผิดหวังเรอะ” บิดาตอบพร้อมหัวเราะร่วน
“ไม่เคยค่ะ”
“เอ้อ... ว่าแต่สอบเสร็จแล้วมารีสอร์ทนะลูก”
“มีอะไรเหรอคะ”
“พ่อจะไปทัวร์ยุโรปกับน้าแพรวแพร ไหนๆ ก็ปิดเทอม มาดูแลกิจการได้มั้ย” คนเป็นพ่อเล่า หญิงสาวชะงักเพื่อตั้งใจฟัง น้าแพรวแพรคือแม่เลี้ยงคนใหม่ของเธอ หลังจากที่พ่อเลิกกับแม่เลี้ยงคนเก่าที่ชื่ออิงอรไป แล้วแม่เลี้ยงคนนั้นก็ยังมีลูกเล็กทิ้งไว้ให้คุณพ่อเลี้ยงอีกด้วย
ความที่อิงอรบอกเหตุผลว่าเลี้ยงไม่ไหวไม่อยากมีภาระในสภาพเศรษฐกิจแบบนี้ ดูเป็นแม่ใจร้ายชะมัด นางอ้างว่าในเมื่อเป็นลูกพ่อ พ่อก็ต้องรับผิดชอบ ส่วนอิงอรแม่เลี้ยงคนเก่านั้น ก็หายไปในกลีบเมฆ ไม่ได้ข่าวคราวจวบจนทุกวันนี้
แต่เรื่องจริงนะ ต่อให้หล่อนไม่ทอดทิ้งน้องต่างมารดาไว้แบบนี้ พ่อก็ตั้งใจจะรับเลี้ยงน้องอยู่แล้ว เพราะผู้ชายอย่างพ่อไม่ต้องการเห็นทายาทของอนันตโชติทรัพย์ต้องไปตกทุกข์ได้ยากที่ไหนแน่นอน และตอนนี้น้องสาวต่างมารดาของเธอก็วัยใกล้หกขวบแล้ว กำลังน่ารักเลยล่ะและดูเหมือนพ่อจะรักมาก แต่หลังจากพ่อมีเมียใหม่ ก็ดูเหมือนจะหลงเมียคนใหม่อย่างน้าแพรวแพรมากๆ
ดูอย่างตอนนี้ถึงกับจะพาไปทัวร์ยุโรปเป็นเดือน ส่วนยัยหนูเล็กอย่างน้ำขิง ก็คงต้องอยู่กับพี่เลี้ยงอีกตามเคย แต่โชคดีที่ถึงเอมวรีหล่อนจะคนละแม่ แต่ก็รักน้องเล็กมากๆ เหมือนกันกับที่เด็กหญิงตัวน้อยก็ติดหล่อนแจเช่นกัน เอมวรียังคิดอยู่เป็นประจำว่า ทำไมพ่อต้องเจ้าชู้มีเมียหลายคน ตั้งแต่รัญญาแม่หล่อนจากไป พ่อก็มีรักใหม่มาโดยตลอด และที่สุดก็มาลงท้ายกับแม่เลี้ยงคนใหม่ที่สาวและสวยราวพริ้ตตี้ อายุมากกว่าหล่อนเพียงไม่กี่ปีเท่านั้นและดูเหมือนเมียใหม่ของพ่อจะไม่ค่อยชอบลูกๆ ของพ่อเลยสักคนเดียวแต่นั่นไม่ใช่ประเด็น เพราะเอมวรีไม่ไปข้องเกี่ยวอยู่แล้ว หล่อนเรียนที่กรุงเทพและมีบ้านที่บิดาซื้อให้ที่นี่ หล่อนจึงไม่ได้สนใจมากนักว่าเมียใหม่ของพ่อจะรู้สึกอย่างไรกับหล่อน
“พ่อจะไปวันไหนคะ?” เอมวรีถามออกไป
“วันเสาร์นี้ล่ะลูก” ผู้เป็นพ่อตอบ ดูเหมือนเสียงของพ่อจะตื่นเต้นจนลูกสาวสัมผัสได้ หญิงสาวยอมรับว่า เมียใหม่ของพ่อนำพาความกระชุ่มกระชวยมาให้เขาอย่างไม่ต้องสงสัย แต่บางทีก็อดระแวงไม่ได้ เมียสาวที่รักและภักดีกับสามีแก่คราวพ่อ มันมีให้เห็นไม่บ่อยนักน่ะสิ ที่เห็นๆ ก็หวังสมบัติและรักสบายกันทั้งนั้น เอมวรีอดเป็นห่วงบิดาไม่ได้
“งั้น วันศุกร์นี้หนูก็ต้องถึงรีสอร์ทแล้วสินะคะ” หญิงสาวเปรย
“จ้ะ” คนเป็นพ่อตอบ
“โอเคค่ะ” หญิงสาวรับคำมั่นเหมาะ
“รีบมาล่ะลูก พ่อเองก็คิดถึงลูกสาวคนสวยจะแย่” คนเป็นพ่อพูดเร่งรัดกลั้วเสียงหัวเราะอย่างอารมณ์ดี
“ค่ะพ่อ มะรืนหนูก็ถึงรีสอร์ทเราค่ะ วันนี้ขอไปฉลองสอบเสร็จกับเพื่อนๆ หน่อยนะคะ” หญิงสาวบอกบิดาเสียงอ้อนเป็นเชิงขออนุญาต อันที่จริงแล้วปกติไปไหนมาไหนหล่อนก็ไม่ต้องเอ่ยปากขอ เพราะบิดาตามใจ อีกทั้งหล่อนเป็นเด็กที่รู้ผิดชอบชั่วดี ใครกันนะบอกว่าเด็กที่ครอบครัวไม่อบอุ่นสมบูรณ์มักจะเถลไถลหลงผิดได้ง่ายๆ
สำหรับเอมวรีแม้ว่าจะเสียมารดาไปแล้วมีบิดาที่เจ้าชู้มากรัก มีเมียใหม่มาแนะนำให้ลูกสาวอย่างหล่อนรู้จักอยู่เรื่อยๆ แต่นั่นก็ไม่ใช่ปัญหาที่จะเอามาเป็นเหตุให้ทำตัวเกเรอย่างที่ใครตราเอาไว้ เด็กที่บ้านไม่อบอุ่นอย่างหล่อนก็เรียนดีได้ รักดีและไม่นานก็จะเรียนจบ หล่อนก็จะหางานทำสักระยะ พอมีประสบการณ์ก่อนที่จะกลับไปบริหารงานธุรกิจโรงแรมและรีสอร์ทของตระกูลตามที่บิดาตั้งใจไว้
“เอาเถอะลูก แล้วก็ดูแลตัวเองดีๆล่ะ” คนเป็นพ่ออดเป็นห่วงไม่ได้
“ค่ะพ่อ ไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ หนูยิงปืนแม่นค่ะพ่อ”
“เก่งมากลูกพ่อ”
“หนูเก่งเหมือนพ่อค่ะ” หญิงสาวทิ้งท้าย คุยกันสักพัก หญิงสาวก็กดวางสาย พอดีกับที่เพื่อนๆ ในกลุ่มตกลงกันได้ว่า จะไปกินข้าวฉลองสอบเสร็จกันที่ไหน เย็นวันนั้นก็เลยถือเป็นวันปล่อยผี หลังจากที่คร่ำเคร่งกับการสอบและงดเที่ยวงดสิ่งบันเทิงเริงรมย์เพราะจำศีลอยู่กับการอ่านหนังสือ วันนี้แทบจะเรียกได้ว่าเป็นวันประกาศอิสรภาพของนักศึกษาที่เพิ่งสอบเสร็จกันเลยทีเดียว
เพื่อปกป้องชีวิต... คุณทวดของบุหงาจึงเขียนยันต์วิเศษไว้คุ้มครองหลานสาวผู้ที่จะสืบทอดวิชาเขียนยันต์ แต่ด้วยความซุ่มซ่าม เจ้าหล่อนจึงย้อนอดีตไปสมัยทวารวดี เพื่อหนีการตามล่า บุหงาจึงต้องสวมรอยเป็น ‘แม่นาย’ ทำให้ทุกคนในเรือนรัก เพื่อความอยู่รอด กลับไปยุคเดิมที่จากมาอย่างปลอดภัย นั่นก็คือ... ยุครัตนโกสินทร์ตอนปลาย เพื่อทำหน้าที่สืบทอดวิชาเขียนยันต์เก่าแก่โบราณของต้นตระกูล
คริญาไม่ประหลาดใจแม้แต่น้อยในท่าทีหวงก้างของพศุตม์ เธอรู้ว่า... ในสถานการณ์ที่เธออยู่ในสระว่ายน้ำเย็นฉ่ำในเวลานี้ ผู้ปกครองหนุ่มจะต้องโจนจ้วงตามลงมา ดวงใจสาววัยแรกแย้มเต้นตูม ด้วยความรู้สึกหวั่นไหว แม้รู้ดีแก่ใจว่า ชายหนุ่มคือของต้องห้ามและจะแสลงใจจนเจ็บปวดในวันหนึ่ง เพราะพศุตม์เคยยื่นคำขาดว่า... เขาไม่ชอบเด็กน้อยกะโปโลอย่างเธอ และถ้าเกิดอะไรขึ้นเพราะเธอกล้าเล่นกับไฟยั่วยวนเขา เขาจะไม่มีวันรับผิดชอบ! . ‘คำสั่ง’ จากปากเขามันคือคำเตือนจากผู้ชายอันตราย . เขารวบตัวเด็กในปกครองเข้ามาสวมกอดแน่นราวจะสูญเสีย ความร้อนซ่านกำซาบไปทั้งเรือนกายสาว ส่วนเปลือยสวยสัมผัส แนบชิดแทบทุกส่วนสัดของกายแกร่ง แม้ร่างทั้งสองที่โอบล้อมไปด้วยความเย็นเยียบของสายน้ำ แต่การขยับเขยื้อนเคลื่อนไหวพริ้วพรายตามกระแสน้ำก็ก่อให้เกิดไอความรุ่มร้อนระบายอยู่ในน้ำและพยุงสองร่างให้รู้สึกวาบหวิวแผ่ซ่านถึงกัน... เด็กสาวแรกรุ่นหัวใจเต้นโครมคราม วาบหวิวเมื่อผู้ปกครองหนุ่มประกบริมฝีปากร้อนแรงลงมา ดูดดื่มริมฝีปากสวยอิ่มตึง คริญาตอบสนองจูบเร่าร้อน สอดลิ้นยั่วเย้าให้เขากระดกลิ้นร้อนฉ่าตามมาพัวพัน ร่างเล็กบดเบียดส่วนอิ่มเต็มตึงที่สวยสล้างยั่วยวนสายตาเข้าใกล้แผงอกแกร่งกำยำที่ระบายไปด้วยปอยขนนุ่มกลางอกแกร่งของเขา สร้างความเซ็กซี่ชวนสะท้านยามจ้องมอง เขาบดจูบหนักหน่วงร้อนแรงจนคริญาคราง ไอร้อนสวาทกำลังก่อตัวใต้สายน้ำเย็นฉ่ำ “...” “ฉันต้องได้เธอ... คริญา”
"ชลิดา" เป็นเด็กสาวที่โชคร้าย ครอบครัวทิ้งเธอไปไม่ลา เหลือเอาไว้แต่เธอคนเดียว กับชีวิตที่โดดเดี่ยวอ้างว้างท่ามกลางอันตรายที่มองไม่เห็น ทิ้งไว้กับปริศนาว่าเธอและครอบครัวผิดอะไร ในวันที่เหมือนชีวิตเจอฝันร้าย คนเพียงคนเดียวที่ยื่นมือเข้ามาช่วย กลับเป็น 'เขา' ที่ตลอดเวลาที่ผ่านมา ไม่เคยมีครั้งไหนที่ศิวะจะพูดดีกับเธอ ฉากหน้า เย็นชา ปากร้าย เจ้าอารมณ์และแสดงท่าทีรังเกียจเธอ "ศิวะ" แสดงออกอย่างชัดเจนว่าเกลียดชลิดา เพียงเพราะหล่อนเป็นคนรักของพี่ชายเขา ที่รอวันตกกระป๋อง เขาอยากให้เธอเลิกรากับพี่ชาย เลิกยุ่งกับคนมีเจ้าของ มันไม่ใช่เพราะศิวะเกลียดชลิดาหรอก แต่เพราะเขารักหล่อนเสียเอง แต่กลับแสดงออกตรงข้ามกับความรู้สึกที่แท้จริงในใจ คนสองคน ที่ฉากหน้าเกลียดชังกัน แต่ต้องนอนเตียงเดียวกันทุกคน บทสรุปจะเป็นอย่างไร ติดตามได้ใน... มหาศาลการรัก
...เหตุเพราะน้องชายตัวดี ไปมีความสัมพันธ์ต้องห้าม กับศัตรู หัวเด็ดตีนขาด “เธอ” ก็ไม่มีวันยอมให้น้องชายลงเอยกับลูกสาวของตระกูลที่เคยดูถูกเธออย่างไม่มีดี . ดูเหมือนทุกอย่างจะเป็นไปตามแผนที่เธอวางไว้ หากไม่เพราะ “เขา” ทายาทหนุ่มเสเพลของบ้านนั้น ที่ซ้อนแผนเอาคืนเธอ ทำเอางานนี้ เจ้าหล่อนจะต้องเลือกว่าจะยอมให้น้องชายได้ลงเอยในเรื่องความสัมพันธ์ หรือจะจนมุมไปกับจอมวางแผนที่ตนก็เพิ่งรู้ว่าแท้จริงแล้ว.... เขาช่างเจ้าคิดเจ้าแค้น และต้องการเอาชนะเธอมาตั้งแต่ต้น โดยมี “เรือนร่าง” เธอเป็นเดิมพัน +++++++++++++++++++++++++++++++ “ปล่อยฉันไปนะ นี่คุณเล่นบ้าอะไร?” “เล่นบ้าอะไรงั้นเหรอ... ก็เล่นผัวเมียกันยังไงล่ะ” “คนบ้า! มันใช่เวลามาล้อเล่นแบบนี้มั้ย ปล่อยฉันไปนะ!” “เล่นผัวเมียกันจริงๆ มีลูกด้วยกันจริงๆ สักคนสองคน” “คนบ้า เล่นไปคนเดียวเถอะ” “มีลูกกับผม คุณจะได้รู้... ความรู้สึกที่โดนพรากลูกพรากแม่มันเป็นยังไง” “เลว! นรกขุมไหนส่งคุณมาเกิดกัน คนบ้า!” สิ้นเสียงเล็ก จูบร้อนแรงถูกบดขยี้ลงมาอย่างร้ายกาจ เชลยในอ้อมกอดไม่อาจขัดขืนเขาได้แม้แต่น้อย หญิงสาวรู้ตัวดีว่า จุมพิตนี้หาใช่เกิดจากความรัก หากเขาต้องการแค่เพียงลงทัณฑ์เธอ... “คุณ... ไม่นะ พราวไม่อยากท้อง!” หญิงสาวบ่ายหน้าหนีจนหลุดพ้นพันธนาการจุมพิตร้าย ก่อนวอนขอ... “ไม่ทันแล้วครับ คุณต้องท้องและรับรู้ความเจ็บปวดว่าการถูกพรากลูกมันเป็นยังไง” “คนเลว... ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ!” “ถ้าปล่อย... ก็ยังไม่หายแค้นน่ะสิครับ” ถ้อยคำนั้นแสนธรรมดา หากเจือแววเยือกเย็นพร่าผลาญใจ ส่งให้เชลยสาวในอ้อมกอดรู้สึกหนาวยะเยือกกับสิ่งที่ต้องเจอนับจากนี้....
ดูเหมือนโชคชะตาของ ‘รินรุ้ง’ จะไม่มีวันหนีพ้นจากความวุ่นวายได้ ตอนที่ยังเป็นพนักงานขาย ของรีสอร์ตที่ไทย ก็ต้องคอยรองรับอารมณ์ของลูกค้า พอหนีมาเป็นพี่เลี้ยงเด็กที่สเปน ก็ยังไม่วายต้องสู้รบตบมือกับเด็กหญิงจอมแก่แดด ผู้หวงบิดายิ่งกว่าจงอางหวงไข่ และพร้อมจะใช้ความแสบป่วนหัวผู้หญิงทุกคนที่เข้าใกล้ แต่นั่นก็ยังไม่ใช่จุดพีก เพราะลูกสาวที่ว่าร้าย ยังร้อนแรงไม่ถึงครึ่งของตัวพ่อ งานนี้หญิงสาวคงต้องลงทุนลงแรงอย่างหนัก เพื่อหาทางกำราบสองพ่อลูกให้ได้ ก่อนที่ชีวิตของเธอจะกลายเป็นการตกนรกทั้งเป็น ‘เซคิโอ ด็อพบาร์ กอนซาเลซ’ นักธุรกิจหนุ่มมหาเศรษฐีชาวสเปน ไม่คิดเลยว่าผู้หญิงลึกลับที่เขาขโมยจูบเธอในเรือนร้างกลางสายฝน จะกลายเป็นคนเดียวกันกับพี่เลี้ยงคนใหม่ของลูกสาว ที่สำคัญ เขาเคยคิดว่าการขย้ำ ‘ลูกแกะน้อย’ ที่หลงเข้ามาใน ‘รังหมาป่า’ คงเป็นเรื่องง่าย หากตัวอุปสรรคสำคัญที่ชายหนุ่มต้องจัดการเป็นอันดับแรก ถ้าคิดจะเคลมรินรุ้ง ก็ไม่ใช่อื่นไกล แต่เป็น ‘ลูกหมาป่าตัวน้อย’ ของเขานั่นเอง “เจ็บ” พูดเสียงเครือ “ไหนดูซิ” เซคิโอพุ่งพรวดเข้าไปหา ก่อนจะคุกเข่าลง มองเลือดที่ไหลซึมออกจากเท้าเธอ “กลับห้องก่อน อยากเลือดทะลักหมดตัวหรือไง” เขารีบอุ้มเธอขึ้น น้ำเสียงลนลานเป็นห่วงเจือบงการ “เรื่องของฉัน เลือดนี่มันก็เลือดฉันนะ!” เธอเถียง ที่เจ็บอยู่แบบนี้ เพราะเขาไม่ใช่หรือไง “อย่าดื้อสิ... แต่ถ้าเธออยากเลือดออกจริงๆ ล่ะก็ ฉันมีวิธีที่เจ็บน้อยกว่านี้นะ จะเอาไหม” ++++++++++++++++++++++++++++ เพราะถูกปลดกลางอากาศ ทั้งที่ไม่มีความผิดใดๆ รินรุ้ง หงสกรพงษา จึงตัดสินใจรับข้อเสนอไปทำงานสบายๆ ที่สเปน ตามบัญชาของแม่เลี้ยง หากเธอไม่เคยรู้เลยว่า นั่นจะเป็นจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญในชีวิต! . โฉมหน้าสุภาพบุรุษมหาเศรษฐีทายาทสายการบินที่ยิ่งใหญ่ระดับโลก เจ้าของตำแหน่งสุดยอดหนุ่มในฝันหลายปีซ้อนที่สาวน้อย สาวใหญ่ต่างคลั่งไคล้มาตลอด แต่ไม่มีใครรู้เลยว่า ภายใต้ฉากหน้าราวเทพบุตรนั้น เซคิโอ เดอ ด็อพบาร์ กอนซาเลซ ได้ซ่อนคราบซาตานร้ายเอาไว้อย่างมิดชิด หัวใจเขาปิดตายนานกว่าแปดปีหลังสูญเสียคู่หมั้นสาวที่เขารัก มันถูกเปลี่ยนเป็นความแค้นรอวันสะสาง และเมื่อ... ‘ลูกแกะตัวน้อย’ ติดกับดักมาให้เขาแก้แค้น . . กลับกลายเป็นว่า เจ้าหล่อนคือหญิงสาวคนเดียวกันที่ขโมย ‘หัวใจ’ ที่เคยเหี่ยวเฉาของเขาไป เพียงเพราะจุมพิตดื่มด่ำไร้เดียงสา ในค่ำคืนแห่งโชคชะตา ที่เขายากจะลืม!
อัลโตนิโอ มาโอริโอ มาเฟียหนุ่มที่โลกของเขาไม่มีพื้นที่ไว้สำหรับ “ความรัก” หากเพียงนาทีแรกที่เขาสบประสานดวงตากลมโตน่าค้นหาคู่นั้น มาเฟียหนุ่มจึงได้รู้ว่าอาการ “ตกหลุมรัก” ที่ทาบทอลงบนหัวใจกร้าวแกร่ง เย็นชา นั้นเป็นเช่นไร... ทุกอย่างดูเหมือนจะไร้คำว่า “อุปสรรค” หากไม่ติดตรงที่ ‘เธอ’ เป็นลูกสาววัยใสที่เข้ามาในชีวิตเขาแบบไม่ตั้งใจ ...บทพิสูจน์รักของมาเฟียหนุ่ม จึงไม่ใช่เส้นทางอันราบเรียบนัก หากเขายินดีฝ่าฟัน ไม่ว่าปราการนั้นจะเป็นหัวใจของหญิงสาวหรือแม้แต่ศัตรูหัวใจอย่างสายลับหนุ่มเจ้าเสน่ห์น่าขัดใจ เพื่อดื่มด่ำความหอมหวาน เร้าใจและร้อนแรงแห่งรักแท้... เพราะเธอคือผู้หญิงของเขา ‘ผู้หญิงของมาเฟีย’
อดีตนักฆ่าสาวอันดับหนึ่ง ผู้มีใจคอโหดเหี้ยมได้ทะลุมิติอยู่ในร่างสาวน้อยรูปโฉมอัปลักษณ์ ที่ทุกคนต่างสาปส่งและรังแกสารพัด!
เจ้าของร่างเดิมถูกท่านย่าตัวเอง ขายให้ชายพิการด้วยเงินเพียงห้าตำลึง จึงคิดสั้นไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทำให้วิญญาณของเซี่ยซือซือทะลุมิติมาเข้าร่างแทน ชีวิตในโลกนี้บิดามารดาล้วนตายไปแล้ว เหลือเพียงน้องสาวกับน้องชายร่างกายผอมแห้งหิวโซสองคน เธอต้องช่วยพวกเขาให้รอด ก่อนจะถูกคนชั่วพวกนี้ขายทิ้งไปแบบเธอ 1 : ทะลุมิติ แคว้นจ้าว หมู่บ้านตระกูลแซ่อวี่ ภายในบ้านสกุลเซี่ย “ท่านพี่รีบกินเร็วเข้า” เสียงเด็กเล็กดังก้องอยู่ข้างหูอย่างน่ารำคาญ ว่าแต่ฉันมีน้องชายตั้งแต่เมื่อไหร่กัน รู้สึกได้ถึงอะไรแข็ง ๆ มาแตะที่ริมฝีปาก ทว่ายังลืมตาไม่ขึ้น “ท่านพี่กินสิ ๆ” เซี่ยซือซือรู้สึกหนักอึ้งไปทั้งศีรษะ พยายามที่จะเปิดดวงตาขึ้นมอง เจ้าของเสียงเล็ก ๆ ด้านข้าง “ท่านพี่ ๆ ท่านพี่อย่าตายนะ ลืมตาสิท่านพี่” “นังตัวดีออกมาเดี๋ยวนี้นะ !” เสียงเอะอะโวยวายดังหนวกหูเซี่ยซือซือเป็นอย่างมาก ปัง ๆ เสียงเคาะประตูดังขึ้นเรื่อย ๆ เซี่ยซือซือลืมตาขึ้นจนได้ พลันสมองกลับมีเรื่องราวพรั่งพรูเข้ามาไม่ขาดสาย จนต้องกรีดร้องออกมาอย่างเจ็บปวด อ๊าก ! “พี่รอง !” เด็กน้อยเซี่ยซือหยางในวัยสามหนาวเรียกพี่สาวพร้อมเบะปากอยากร้องไห้ “ท่านพี่ !” เซี่ยซานซานทิ้งบานประตูที่ตัวเองดันไว้ หันกลับมาดูพี่สาวด้วยความตกใจ “ท่านพี่ ๆ ท่านเป็นอะไร อย่าทำให้พวกข้าตกใจสิท่านพี่ !” ผลัวะ ! มีคนถีบประตูบานเก่าผุพังเข้ามาภายในห้อง เด็กทั้งสองรีบเข้าไปขวางผู้บุกรุกไม่ให้ทำร้ายพี่สาว แม่เฒ่าเซี่ย เซี่ยจิ่วเม่ย หน้าตาแลดูดุร้าย ไม่ใช่หญิงชราใจดีแต่อย่างใด ด้านหลังของแม่เฒ่าเซี่ยยังมีลูกสะใภ้บ้านใหญ่ กับบ้านรองเดินตามมา ท่าทางดุดันเอาเรื่อง “ไอ้พวกบ้านสามตัวดี กล้าลักขโมยอาหารเอาไว้กินเอง ยังเห็นแม่เฒ่าอย่างข้าอยู่ในสายตาหรือไม่ ไอ้พวกหมาป่าตาขาว ดูซิวันนี้ข้าจะจัดการพวกเจ้าอย่างไร” “ท่านย่าพวกข้าไม่ได้ขโมยนะ นี่เป็นหมั่นโถวของท่านพี่ ท่านพี่ไม่สบายข้าแค่เก็บไว้ให้ท่านพี่เท่านั้นเอง” เซี่ยซานซานยังเป็นเด็กหญิงวัยสิบหนาว แต่นางข่มความกลัวตอบโต้ผู้ใหญ่ในบ้านออกไป “หึ กฎบ้านก็มีบอกอยู่แล้วถ้าพลาดมื้ออาหารไปก็คืออด แต่พวกเจ้ากลับแหกกฎ แอบยักยอกอาหารเก็บไว้กินเอง ยังมีหน้ามาเถียงท่านแม่อีก ท่านแม่ท่านต้องลงโทษคนบ้านสามนะเจ้าคะ ไม่เช่นนั้นข้าไม่ยอมจริง ๆ ด้วย ตอนนั้นยวี่เฟยของข้านางได้พลาดมื้อเย็นไป ท่านก็ไม่ให้นางกินนะเจ้าคะ” สะใภ้บ้านรองนามว่าจงอี้ซิน ย้อนรำลึกถึงเรื่องลูกสาววัยแปดปีของตัวเองขึ้นมา “ดูเจ้าเด็กพวกนี้สิท่านแม่ กางแขนปกป้องพี่สาวตัวเอง ช่างน่าสมเพชไม่รู้จักสำเหนียกกำลังตัวเอง ถุย !” หลินพ่านเอ๋อสะใภ้บ้านใหญ่มองดูเด็กทั้งสองพร้อมถ่มน้ำลายใส่ตรงหน้า แม่เฒ่าเซี่ยมองลูกสะใภ้ทั้งสองสลับกันไปมา เดินตรงไปกระชากหมั่นโถวเย็นชืดแถมแข็งปานหิน ออกจากมือของเซี่ยซือหยาง “แง ๆ ๆ” เด็กน้อยถูกแย่งของกินของพี่สาวไป ถึงกับแผดเสียงร้องลั่น “เจ้าคนชั่ว ! เอามานะ ของท่านพี่ข้า” กำปั้นน้อย ๆ ทุบไปยังต้นขาของแม่เฒ่เซี่ย “เจ้าเด็กเนรคุณกล้าตีข้ารึ นี่นะ !” แม่เฒ่าเซี่ยเตะทีเดียวเซี่ยซือหยางก็กระเด็นไปติดกับผนังห้อง “น้องเล็ก !” เซี่ยซานซานรีบวิ่งไปอุ้มน้องชายขึ้นมากอดไว้ด้วยความตกใจ “ท่านย่า น้องเล็กยังเด็กไม่รู้ความ เหตุใดท่านถึงได้ใจร้ายเช่นนี้” “แง ๆ ๆ” เสียงร้องไห้ของเด็กน้อยฟังแล้วน่าสงสารจับใจ ดวงตาที่ปิดไว้ก่อนหน้าของเซี่ยซือซือ ลืมขึ้นหลังจากค้นพบว่า ตัวเองได้ทะลุมิติมายังอดีตอันไกลโพ้นแล้วจริง ๆ หลังจากหลับตาลืมตาอยู่หลายหน เรียบเรียงความคิดที่ไหลเข้ามาไม่ยอมหยุด เมื่อค่อย ๆ จัดการกับมันได้ ความเจ็บปวดที่ศีรษะก่อนหน้าจึงบางเบาลง และมองเหตุการณ์ตรงหน้าอย่างเฉยชา ครบสูตรของการทะลุมิติจริง ๆ มีท่านย่าผู้ชั่วร้าย ขนาบข้างด้วยป้าสะใภ้เลวทั้งสอง ครั้นหันไปมองน้องสาวในวัยสิบขวบของตัวเองกับน้องชายตัวน้อย ทั้งตัวดำเมี่ยมเหมือนไม่ได้อาบน้ำมาเป็นเดือน ร่างกายผอมแห้งเหลือแต่กระดูก เสื้อผ้าเก่าขาดมีรอยปะชุนเต็มไปหมด เส้นผมแห้งกรังเหมือนไม่ผ่านน้ำมานาน ยกมือของตัวเองขึ้นมาดู ไม่ได้มีสภาพต่างกันแม้แต่น้อย ครั้นเงยหน้ามองป้าสะใภ้ใหญ่ร่างกายอวบอ้วนเต็มไปด้วยก้อนไขมัน ป้าสะใภ้รองแม้ไม่ได้อ้วนแต่ก็ไม่ได้ผอม ยิ่งแม่เฒ่าเซี่ยด้วยแล้ว ร่างกายบึกบึนเหมือนคนกินดูอยู่ดีมาตลอด “ท่านแม่ดูอาซือมองท่านสิเจ้าคะ” สะใภ้ใหญ่เห็นสายตาเย็นเยียบของคนที่นอนอยู่บนเตียงก็อดแปลกใจไม่ได้ ดูเยือกเย็นจนไม่น่าไว้ใจ “เจ้าอย่าคิดว่ากระโดดน้ำตายแล้วทุกอย่างจะจบนะอาซือ ข้ารับเงินคนบ้านถานมาแล้ว ถ้าเจ้าตายข้าจะให้อาซานไปแทนเจ้า” คำพูดของแม่เฒ่าเซี่ยทำให้ดวงตาของเซี่ยซือซือเบิกกว้าง ท่านย่าของนางขายนางให้คนบ้านถานในราคาแค่ห้าตำลึง เจ้าของร่างเดิมไม่อยากไปเป็นเมียคนพิการ เลยไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทว่าเธอที่มาจากยุคปัจจุบันกลับเข้ามาแทนที่เจ้าของร่างนี้ เจ้าของร่างเดิมว่ายน้ำไม่เป็น จึงได้ขาดอากาศตายใต้น้ำ แต่เธอที่เข้ามาสวมร่างกลับพาร่างนี้ขึ้นมาจากน้ำได้ โชคชะตาคงเล่นตลกให้เธอกับเจ้าของร่างเดิมมีชื่อเดียวกัน “ท่านย่าอาซานยังเด็กนัก ท่านอย่าได้ทำเช่นนั้นเลย” นานมากกว่าที่นางจะเอ่ยออกมา “มันอยู่ที่เจ้าอาซือ ข้าขอเตือนเอาไว้ อีกสองวันคนบ้านถานจะมารับตัวเจ้าแล้ว อย่าให้เกิดเรื่องขึ้น ไม่อย่างนั้นข้าจะส่งอาซานไปแทนเจ้า แล้วขายซือหยางทิ้งเสีย” แม่เฒ่าเซี่ยจ้องหน้าเซี่ยซือซือแบบอาฆาต เด็กนี่ก่อนหน้าดูอ่อนแอไร้ทางสู้ ทำไมวันนี้ถึงได้ดูแปลกตาไปนัก “ท่านแม่เจ้าคะ ท่านจะลงโทษคนบ้านสามเรื่องหมั่นโถวนี่อย่างไรเจ้าคะ” สะใภ้ใหญ่ยังไม่ยอมปล่อยสามพี่น้องไปง่าย ๆ “พรุ่งนี้งดอาหารบ้านสาม” แม่เฒ่าเซี่ยเอ่ยแล้วหันหลังเดินออกจากห้องของเด็กน้อยทั้งสามไป โดยมีสะใภ้ใหญ่เดินตามไปด้วย “พวกเจ้าได้ยินแล้วใช่ไหม จำใส่หัวเอาไว้ดี ๆ ด้วยล่ะ” สะใภ้รองหมุนตัวตามหลังไปติด ๆ “ท่านพี่ต่อไปท่านอย่าทำเช่นนี้อีกนะเจ้าคะ ข้ากับน้องเล็กจะทำอย่างไร ถ้าท่านไม่อยู่” เซี่ยซานซานปล่อยเสียงร้องไห้ในทันที
【สาวน้อยผู้มีความรักในใจกลายเป็นหญิงสาวที่มีสติปัญญา vs ซีอีโอผู้ตามรักอย่างบ้าคลั่ง】 ในปีที่ห้าของการแต่งงานแบบลับๆ ของเธอ เสิ่นจาวหนิงเห็นสามีของไปเปิดห้องที่โรงแรมกับรักแรกของเขากับตาตนเอง จากนั้นเธอเพิ่งรู้ว่าลี่เยี่ยนซิวแต่งงานกับเธอเพราะเธอดูคล้ายกับรักแรกของเขา เสิ่นจาวหนิงตายใจและหลอกให้ลี่เยี่ยนซิวเซ็นสัญญาหย่า หนึ่งเดือนต่อมา เธอประกาศต่อหน้าผู้คนว่า “ลี่เยี่ยนซิว ฉันไม่ต้องการคุณอีกแล้ว อให้คุณกับรักแรกของคุณจะอยู่ด้วยกันตลอดไป” ลี่เยี่ยนซิวกอดเธอพร้อมน้ำตาคลอเบ้า “เสิ่นจาวหนิง คุณเป็นคนที่เข้ามาหาผมก่อน แล้วตอนนี้คุณจะทิ้งผมง่ายๆ ได้ยังไง?” ****** หลังจากที่เสิ่นจาวหนิงหย่า งานของเธอไปได้ดีขึ้นเรื่อยๆ บริษัทก็เตรียมที่จะเข้าตลาดหลักทรัพย์ ในงานเลี้ยงฉลอง ลี่เยี่ยนซิวก็เข้าร่วมด้วย เขามองอดีตภรรยาที่จับมือผู้ชายอื่นด้วยความหึงหวงอย่างแรง ขณะที่เสิ่นจาวหนิงเตรียมเปลี่ยนชุด เขาก็ตรงเข้ามาหาเธอในห้องลองเสื้อ “ผู้ชายคนนั้นดีขนาดนั้นเลยเหรอ?” เสิ่นจาวหนิงถึงสังเกตเห็นว่าลี่เยี่ยนซิวร้องไห้แล้ว น้ำตาของเขาตกลงบนกระดูกไหปลาร้าของเธอและมันรู้สึกร้อนๆ “เสิ่นจาวหนิง ผมเสียใจแล้ว เราคืนดีกันได้ไหม?”
กลางวันอ่อนหวาน กลางคืนร้อนแรง นี่คือคำที่ลู่เยียนจือใช้เพื่อบรรยายถึงเธอ แต่หานเวยบอกว่าตัวเองมีชีวิตอยู่ไม่ถึงครึ่งปี ลู่เยียนจือกลับไม่ลังเลที่จะขอหย่ากับสือเนี่ยน “แค่ปลอบใจเธอไปก่อน ครึ่งปีข้างหน้าเราค่อยแต่งงานใหม่” เขาคิดว่าสือเนี่ยนจะรออยู่ที่เดิมตลอด แต่เธอได้ตาสว่างแล้ว น้ำตาแห้งสนิท หัวใจสือเนี่ยนก็แตกสลายไปแล้วด้วย การหย่าปลอมๆ สุดท้ายกลายเป็นจริง ทำแท้งลูก เริ่มต้นชีวิตใหม่ สือเนี่ยนจากไปโดยไม่หันกลับมาอีก แต่ลู่เยียนจือกลับเสียสติ ต่อมา ได้ยินว่าคุณชายลู่ผู้มีอิทธิพลนั้นก็อยู่นิ่งๆ ต่อไปไม่ได้ ขับรถเมอร์เซเดส-เบนซ์ไล่ตามเธออย่างบ้าคลั่ง เพียงเพื่อขอให้เธอเหลือบมองเขาอีกครั้ง...
ทุกคนรู้ดีว่า บุตรีคนโตที่ไม่เป็นที่โปรดปรานในจวนโหวอันติ้งแห่งเมืองหลวง ทำให้แม่แท้ๆ ของตนต้องเสียชีวิต เป็นคนที่ถูกมองว่าเป็นตัวโชคร้าย ก่อนแต่งงานก็ทำให้แม่เลี้ยงฝันร้ายอยู่หลายวัน ออกเดินทางไปทำบุญนอกเมืองก็ถูกโจรจับตัวไป แต่ใครจะคิดว่าโชคร้ายกลับกลายเป็นโชคดี นางเปลี่ยนนิสัยไปอย่างสิ้นเชิง ไม่ยอมให้ใครมารังแกอีกต่อไปที่แท้ซูชิงซวู่ ผู้สุดยอดสายลับที่ทะลุมิติมาเผชิญกับพ่อที่เย็นชา แม่เลี้ยงที่ชั่วร้าย คู่หมั้นที่นอกใจน้องสาวต่างแม่ แต่ไม่เป็นไร คอยดูว่าเธอจะจัดการพวกชั่วช้า และเอาคืนทุกอย่าง ทว่าทำไมท่านอ๋องผู้นั้นถึงมองมาที่เธอด้วยสายตาแปลกๆ นั่นล่ะเผ่ยเสวียนจู: บุญคุณที่ช่วยชีวิต ไม่มีสิ่งใดตอบแทนได้ นอกจากเอาตัวไปแลก
ซ่งจิ่งถังรักฮั่วอวิ๋นเซินอย่างลึกซึ้งนานถึงสิบห้าปี แต่ในวันที่เธอคลอดลูกกลับตกอยู่ในอาการโคม่า ขณะที่ฮั่วอวิ๋นเซินกระซิบข้างหูเธออย่างอ่อนโยนว่า "ถังถัง อย่าฟื้นขึ้นมาอีกเลย สำหรับฉัน เธอไม่มีค่าอะไรอีกแล้ว" ซ่งจิ่งถังเคยคิดว่าสามีของเธอเป็นคนอ่อนโยนและรักใคร่ตัวเอง แต่จริงๆ แล้วเขามีแต่ความเกลียดชังและใช้ประโยชน์จากเธอเท่านั้น และลูกๆ ที่เธอเสี่ยงชีวิตให้กำเนิด กลับเรียกหญิงสาวคนอื่นว่า 'แม่' ด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนต่อหน้าที่เตียงคนไข้ของเธอ เมื่อซ่งจิ่งถังฟื้นขึ้นมา สิ่งแรกที่เธอทำคือการตัดสินใจหย่าขาดอย่างเด็ดขาด! แต่หลังจากหย่าแล้ว ฮั่วอวิ๋นเซินจึงเริ่มตระหนักว่า ชีวิตที่ผ่านมาของเขาเต็มไปด้วยเงาของซ่งจิ่งถัง หญิงคนนี้กลายเป็นความเคยชินของเขา เมื่อพบกันอีกครั้ง ซ่งจิ่งถังปรากฏตัวในที่ประชุมในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ เธอเปล่งประกายจนทุกคนต้องหันมามอง หญิงคนนี้ที่เคยมีแต่เขาในใจ บัดนี้กลับไม่แม้แต่จะมองเขาอีก ฮั่วอวิ๋นเซินคิดว่าเธอแค่ยังโกรธอยู่ ถ้าเขาเอ่ยปากพูดนิดหน่อย ซ่งจิ่งถังจะต้องกลับไปหาเขาแน่นอน เพราะเธอรักเขาหมดหัวใจ แต่ต่อมา ในงานหมั้นของผู้นำคนใหม่ของตระกูลเพ่ย เขาเห็นซ่งจิ่งถังสวมชุดแต่งงานหรูหรา ยิ้มอย่างเปี่ยมสุขและกอดแน่นเพ่ยตู้พร้อมสายตาที่เต็มไปด้วยความรักใคร่ ฮั่วอวิ๋นเซินอิจฉาจนแทบคลั่ง เขาตาแดงก่ำและบีบแก้วจนแตก เลือดไหลไม่หยุด...
© 2018-now MeghaBook
บนสุด
GOOGLE PLAY