คนที่ไม่เชื่อในความรักอย่างจันทร์เจ้าต้องอยู่ชิดใกล้กับผู้ชายที่หล่อกวนใจจนน่าหยิก ความรู้สึกแปลก ๆ ที่เกิดขึ้นยากจะห้ามไหว แต่นาย ‘ชลธี’ กลับทำให้ทุกอย่างดูง่าย เปลี่ยนหัวใจตายด้านให้กลับมาเต้นแรง…
คนที่ไม่เชื่อในความรักอย่างจันทร์เจ้าต้องอยู่ชิดใกล้กับผู้ชายที่หล่อกวนใจจนน่าหยิก ความรู้สึกแปลก ๆ ที่เกิดขึ้นยากจะห้ามไหว แต่นาย ‘ชลธี’ กลับทำให้ทุกอย่างดูง่าย เปลี่ยนหัวใจตายด้านให้กลับมาเต้นแรง…
ซ่า... ซ่า...
เสียงคลื่นทะเลสาดซัดเข้าหาฝั่งกระทบเข้ากับหาดทรายสีเหลืองนวลเนียนละเอียด ลมทะเลพัดโชยกลิ่นอายท้องทะเลยามเย็นเข้าสู่โสตประสาทของทุกคนทั่วบริเวณ เสียงธรรมชาติที่เกิดจากคลื่นทะเลสาดซัดคล้ายกับท่วงทำนองเพลง ฟังแล้วช่วยขัดกล่อมจิตใจของผู้คนให้ปลิวละล่องไปกับมัน ไหนจะภาพท้องฟ้าอมส้มที่มองเห็นไกล ๆ ช่วงพระอาทิตย์กำลังตกดิน เป็นภาพที่ใครได้เห็นต้องรู้สึกสวยงามจรรโลงใจ ที่กล่าวมาทั้งหมดนี้คงใช้ได้กับสถานการณ์ปกติ ซึ่งไม่ใช่สถานการณ์ในตอนนี้ ภาพที่หญิงสาวสองคนยืนเผชิญหน้ากันอยู่และหนึ่งหญิงสาวยืนคั่นกลางหญิงสาวทั้งสองไว้ บวกกับบรรยากาศรอบตัวพวกเธอล้วนอึมครึม ดูอย่างไรก็ไม่ใช่เรื่องที่ดีนัก
‘เอาไงดีวะเนี่ย คนกลางอย่างอีจันทร์เจ้าทำอะไรได้บ้าง นั่นก็เพื่อน นี่ก็เพื่อน โว้ย เครียด!’ จันทร์เจ้า คร่ำครวญกับตัวเองภายในใจ ผินหน้ามองซ้ายทีขวาทีก็ได้แต่ทอดถอนใจ
จันทร์เจ้ามองเพื่อนสนิททั้งสองแล้วก็สงสาร ในฐานะที่เธอเป็นคนกลาง เธอย่อมล่วงรู้ความรู้สึกของแต่ละฝ่ายอยู่แล้ว
เรื่องทั้งหมดมันเกิดจากปลาดาวและมารินชอบผู้ชายคนเดียวกัน สกายคือชื่อของผู้ชายคนนั้น ผู้ที่เป็นเจ้าของใบหน้าหล่อเหลาขวัญใจหญิงสาวหลาย ๆ คน ทว่าผู้หญิงเพียงหนึ่งเดียวที่เป็นเจ้าของหัวใจของชายหนุ่มคือมาริน มารินที่รู้ว่าปลาดาวชอบสกาย ก็ไม่ได้เปิดเผยความสัมพันธ์ของเธอและสกายด้วยเช่นกัน นั่นก็เพราะว่ากลัวปลาดาวจะเจ็บปวดและเสียใจ
ส่วนจันทร์เจ้าที่รู้เรื่องทั้งหมดอยู่แล้วก็ไม่ได้บอกกล่าวเรื่องมารินและสกายให้ปลาดาวรู้เช่นกัน เพราะลึก ๆ แล้วหญิงสาวรู้สึกว่านี่มันไม่ใช่เรื่องของเธอ คนที่สมควรจะจัดการความสัมพันธ์ยุ่งเหยิงและชัดเจนกับความรู้สึกคือมารินและสกายนั่นเอง ดังนั้นเธอจึงไม่ได้พูด
ทว่าจันทร์เจ้าไม่พูด มารินไม่พูด สกายไม่พูด... ปลาดาวที่แอบชอบสกายอย่างสุดซึ้งก็เริ่มตั้งความหวังคิดอยากได้ชายหนุ่มเป็นแฟน ความรู้สึกที่เธอมีต่อเขาก็เริ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ จนกระทั่งวันหนึ่งปลาดาวไปเห็นฉากเด็ดเข้าก็รู้สึกเจ็บปวด แล้วใครบ้างล่ะจะไม่เจ็บปวดเมื่อเห็นคนที่ตัวเองชอบจูบอยู่กับผู้หญิงคนอื่น ยิ่งคนคนนั้นเป็นเพื่อนตัวเองด้วยแล้ว คิดดูเถอะว่าจะจี๊ดมากขนาดไหน และนั่นทำให้สถานการณ์ของหญิงสาวทั้งสองเป็นเช่นนี้
“ทำไมแกถึงไม่บอกฉันมาริน ว่าแกกับพี่สกาย...”1(เหตุการณ์ในเรื่องทะเลพรางดาวและเรื่องทะเลหลงฟ้า) ปลาดาวเพื่อนสาวคนสนิทของจันทร์เจ้าเอ่ยถามเพื่อนอีกคนอย่างมารินด้วยความเจ็บปวด สายตาของเธอเต็มไปด้วยความตัดพ้อต่อว่าและผิดหวัง
“ใจเย็นก่อนไอ้ดาว ฟังไอ้รินมันอธิบายก่อน” จันทร์เจ้าที่ไม่สามารถทำอะไรได้ เลือกที่จะเอ่ยให้คนที่กำลังร้อนให้ใจเย็นขึ้น ทว่ามีหรือที่ปลาดาวจะฟัง ในเมื่อพูดออกมาแล้ว ก็ต้องพูดมันต่อไปให้จบ
เหตุการณ์ระหว่างเพื่อนสนิทสองคนดูเหมือนจะร้อนระอุต่อไปเรื่อย ๆ จันทร์เจ้าก็ไม่รู้เช่นกันว่าควรทำอย่างไรต่อไป เธอได้แต่มองคนนั้นทีคนนี้ทีอย่างคนอับจนหนทาง เรื่องของเพื่อนสนิทสองคนนี้ ซับซ้อนยุ่งยากกว่าเรื่องของเธอที่โดนผู้จัดการพักงานซะอีก เนื่องจากมันเป็นเรื่องของหัวใจ เกี่ยวเนื่องกับความสัมพันธ์โดยเฉพาะ อะไร ๆ จึงดูจัดการยากไปเสียหมด
‘ความรักนี่มันดีขนาดนั้นเลยเหรอวะ ดีบ้าอะไรถึงทำให้คนคนหนึ่งต้องเจ็บปวด’ คนที่เคยลอบสาบานกับตัวเอง ว่าจะไม่ยอมให้ตัวเองทุกข์ใจเพราะความรัก ซ้ำยังเป็นคนที่ไม่เคยเชื่อในความรักอย่างจันทร์เจ้า คิดด้วยความไม่เข้าใจในขณะที่สายตาก็ยังจับจ้องไปยังเพื่อนสนิททั้งสองอย่างใกล้ชิด
ในระหว่างที่ปลาดาวและมารินตัดพ้อต่อว่ากันไปมาอยู่นั้น จันทร์เจ้าก็พยายามหาทางห้ามปรามไม่ให้ทั้งสองผิดใจกันไปมากกว่านี้ เพื่อที่คนใดคนหนึ่งจะได้ไม่ต้องตัดความสัมพันธ์ฉันเพื่อนที่มีมาอย่างยาวนานนี้ไป
รู้จักกันมาตั้งหลายปี... จะเลิกคบกันเพราะผู้ชายคนเดียวไม่ได้!
“ไอ้ดาวใจเย็น ๆ นะเว้ย ยังไงแกกับไอ้รินก็เป็นเพื่อนกันนะ แกอย่าลืมสิเราเคยสัญญากันไว้ว่ายังไงสมัยเรียน”
จันทร์เจ้าพยายามห้ามปรามอีกครั้งเมื่อเห็นว่าอารมณ์ของปลาดาวชักจะรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ หญิงสาวไม่อยากให้เพื่อนทั้งสองทะเลาะกัน อยากให้ทั้งคู่พูดคุยกันด้วยเหตุผลและปรับความเข้าใจกันซะ
“เพราะไม่เคยลืมนี่สิ ฉันถึงได้โกรธขนาดนี้ พวกเราสัญญาว่าจะไม่โกหกกัน มีอะไรจะบอกกันตรง ๆ ไม่ปิดบัง แต่ทำไมแกสองคนถึงโกหกฉันได้” เจอคำพูดตรง ๆ ของปลาดาว จันทร์เจ้าก็ชะงักไป ซึ่งในระหว่างที่ปลาดาวเป็นฝ่ายพูด มารินก็แทบจะไม่พูดอะไรไม่ออกเลยด้วยซ้ำ เอาแต่มองไปที่ปลาดาวด้วยความรู้สึกผิดและเจ็บปวดไม่แพ้กัน จันทร์เจ้าก็ไม่รู้ว่าควรพูดอะไรต่อไปดี ตอนนี้เธออยากให้เพื่อนทั้งสองพูดคุยกันด้วยเหตุผลและปรับความเข้าใจกันเสียที
ด้วยความไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไรต่อไปจึงได้แค่มองเพื่อนสนิททั้งสองเท่านั้น มองไปยังปลาดาวที่ตอนนี้คนตรงหน้าเธอมีแต่สายตาแห่งความเจ็บปวด เสียใจและผิดหวังเต็มไปหมด ก่อนจะหันไปมองมารินที่มีสายตาของความเศร้าสร้อยและเสียใจออกมาไม่แพ้กัน
สถานการณ์ค่อนข้างอึดอัดจนจันทร์เจ้าอยากจะพูดบางอย่าง ทว่ายังไม่ทันที่เธอจะพูดอะไร ปลาดาวก็เลือกที่จะเดินหันหลังและวิ่งออกไปเสียก่อน จันทร์เจ้าหันมามองหน้ามารินก่อนยกยิ้มบาง ๆ ให้ แล้วสาวเท้าวิ่งตามปลาดาวไป
ระหว่างที่วิ่งก็สวนทางกับกอหญ้าที่อาสาไปซื้อขนมวิ่งกลับมาพอดี หญิงสาวมองห่อขนมในอ้อมกอดของเพื่อนสนิทที่ไปซื้อมาก็ต้องทอดถอนใจ
‘ตั้งใจจะมาปาร์ตี้ สนุกสนานขับไล่ความหมดอาลัยตายอยากจากการถูกพักงาน สุดท้ายกลับต้องมาคอยห้ามเพื่อน ทำไมเป็นงี้ไปได้วะเนี่ย โธ่... ขนมของฉัน’ จันทร์เจ้ามองขนมดวงตาละห้อยก่อนจะโบกมือลา
กอหญ้า แล้วรีบวิ่งตามปลาดาวที่วิ่งออกไปไกลต่อ
หลังแก้ปัญหาไอมารจนผืนดินกลับมาเพาะปลูกได้อีกครั้ง ก็ถึงเวลาที่เว่ยซือหงต้องไปผจญภัยจริง ๆ เสียที สมบัติวิเศษ สมุนไพรล้ำค่า ทรัพยากรอื่น ๆ อีกมากมายที่อยู่ในดินแดนลับ นางจะกวาดให้เรียบ!
โปรย... ชะตาพลิกผันให้เจ๊ใหญ่หงทายาทมาเฟียยุค2000 ต้องไปเกิดใหม่ที่มิติใกล้ล่มสลาย ซึ่งทุกอย่างถูกวัดด้วยความแข็งแกร่ง ทั้งพลังปราณ พลังธาตุ ทั้งนางยังมีภารกิจสำคัญที่ต้องรับผิดชอบ ทว่าเมื่อลืมตาตื่นความทรงจำกลับเลือนราง นางกลายเป็นก้อนแป้งน้อยโดยสมบูรณ์! ผักก็ต้องปลูก มารก็ต้องกำจัด ความทรงจำยังเลือนรางอีก สวรรค์ท่านกลั่นแกล้งข้าหรือไร?
คนที่ไว้ใจสุดท้ายร้ายที่สุด... เมื่อเรื่องราวความรักของม่านไหมโรยไปด้วยกลีบกุหลาบที่ถูกก้องเกียรติสร้างขึ้นมา ชวนให้หลงมัวเมากับฉากหน้าอันแสนหวานยากจะถอนตัว กว่าจะรู้ตัวก็กลายเป็นว่าเธอถูกหนามแหลมคมของดอกกุหลาบที่ชื่นชอบคอยทิ่มแทงให้เธอเจ็บแล้ว ราวกับโลกทั้งโลกแหลกสลาย ความไว้ใจที่มีมาพังทลายลง! คนที่มั่นคงและซื่อสัตย์ในรักอย่างเธอต้องมานั่งเสียใจนอนร้องไห้ ต้องเจ็บปวดจากการกระทำของคนที่เธอรักและไว้ใจที่สุด เธอจะเลือกอะไรระหว่างอดทนยอมรับชะตากรรมความเจ็บปวดที่เธอไม่ได้เป็นคนก่อและให้อภัยเขาในที่สุด หรือ! เดินหน้าเริ่มต้นใหม่กับใครอีกคนที่หวังดีกับเธอตลอดมา เป็นกำลังใจให้ม่านไหมด้วยนะคะ ............................................... ตัวอย่างบางส่วนในนิยายค่ะ “ทำแบบนี้ทำไม” คำถามแผ่วเบาที่ออกจากปากของม่านไหม ทำให้ชายหนุ่มได้สติ ก้องเกียรติตวัดสายตาดุร้ายมองเธอ เขาไม่ตอบเลือกที่จะหันหลังเดินไปยังตู้เสื้อผ้าแล้วหยิบมาแต่งตัว “ทำไมไม่ตอบ ทำแบบนี้ทำไม!” เสียงของม่านไหมดังขึ้น หญิงสาวไม่ปล่อยให้ชายหนุ่มหันหลังให้ เธอเดินเข้าไปแล้วกระชากให้เขามามองหน้าเธอทันที “ตอบสิ ทำแบบนี้ทำไม ม่านทำอะไรผิดเหรอ พี่ถึงได้ไปมีคนอื่นแบบนี้!” ม่านไหมโวยวาย สองมือของเธอทุบลงบนอกของเขา
เพราะว่ารักจึงยอม เพราะรักถึงรอ รอที่จะได้ยินคำว่ารัก รอวันที่เธอชัดเจน... .......... ตัวอย่าง “หยุดร้องก่อนได้ไหมฉาย” เสียงนุ่มทุ้มของชายหนุ่มพูดขึ้นท่ามกลางบรรยากาศตึงเครียด หลังจากที่เขานั่งทนฟังเสียงร้องไห้ของหญิงสาวมาร่วมชั่วโมงกว่าเกือบจะสองชั่วโมงได้ “ฉายไม่ได้อยากร้อง แต่ว่ามันหยุดไม่ได้ ฮึก! แล้วพี่สงจะให้ฉายทำยังไง” หญิงสาวตอบกลับพลางสะอื้นไห้ .......... “นานแล้วนะครับฉาย พี่ทรมาน” น้ำเสียงทุ้มฟังดูเซ็กซี่ดังขึ้นข้างหู “พี่สง!” “พี่รักฉายมากฉายก็รู้ แล้วตอนนี้มันก็นานมาก ๆ แล้วที่เราไม่ได้รักกัน ฉายไม่สงสารพี่เหรอครับ” เขายังคงหว่านล้อมเธอด้วยคำพูดจนจันทร์ฉายเริ่มลังเล ชายหนุ่มยกยิ้มมุมปากพร้อมพูดต่อ “รักของพี่มีให้ฉายแค่คนเดียว ทั้งหัวใจพี่ก็มีแค่ฉาย จะทำอะไรก็นึกถึงแต่ฉาย แบบนี้... พี่ควรได้รางวัลหรือยังครับ” พูดแล้วก็เป่าลมร้อนเข้าหูเธอจนคนตัวเล็กย่นคอหนี “ตะ แต่ว่าฉายท้องอยู่นะคะ” “เลยช่วงอันตรายมาแล้วครับ หมอก็อนุญาตฉายก็รู้ พี่สัญญาว่าจะระวัง” “แต่ว่า” “ให้พี่ทักทายลูก ต่อแขนต่อขาให้ลูกนะครับคนดี พี่สัญญาว่าจะทำเบา ๆ นะครับ นะ” สงกรานต์พูดด้วยน้ำเสียงแหบพร่า ก่อนจะระดมจูบไปตามซอกคอหอมกรุ่นของหญิงสาว “คะ ครั้งเดียวนะคะ” “ขอบคุณครับ” เมื่อได้รับคำอนุญาตสงกรานต์ก็ไม่คิดเกรงใจอีกเขาตะโบมจูบจันทร์ฉายด้วยความคิดถึงและความรักทั้งหมดที่มี ลิ้นหนาพัวพันกับลิ้นเล็กดึงดูดความหอมหวานของกันและกัน ก่อนจะประคองเธอนอนลงบนเตียงอย่างเบามือ สองมือปลดเปลื้องเสื้อผ้าเธอด้วยความชำนิชำนาญ
ถูกกล่าวหาว่าเป็นลูกนอกสมรสเธอไม่เคยปริปาก โดนกลั่นแกล้งสารพัดก็ไม่เคยพร่ำบ่น เห็นว่าเธอไม่มีปากเสียงแล้วจะเอาอะไรที่เป็นของเธอไปก็ได้เหรอ? ฝันไปเถอะ! ถึงเวลาที่เธอจะเรียกร้องสิทธิ์ของตัวเองแล้ว ระวังตัวไว้ให้ดีละ เตือนแล้วนะ... .......... ตัวอย่าง 1 “ดี! งั้นมาดูกัน ว่าระหว่างฉันกับเธอใครกันแน่ที่พูดความจริง แต่เธอคงไม่ถือใช่ไหมพริมา ถ้าต้องใช้ผู้ชายคนเดียวกันกับพี่สาวอย่างฉันน่ะ” กล่าวถามก่อนจะหัวเราะอย่างขบขัน เมื่อเห็นความเปลี่ยนแปลงบนใบหน้าเรียบเฉยของน้องสาว อิงอรฉีกยิ้มเยาะเย้ยพลางมองพริมาด้วยสายตาเหยียดหยามดูแคลน มือบางคว้ากระเป๋าขึ้นมาสะพายแล้วเดินกลับไปยังประตู ทว่าก่อนที่มือจะทันได้จับลูกบิด น้ำเสียงเย็น ๆ ของน้องสาวที่ดังขึ้นด้านหลังกลับหยุดเธอไว้ “ก็เอาสิคะ ถ้าพี่อิงมั่นใจว่าจะแย่งเขาไปจากฉันได้ก็ลองดู แต่บอกไว้ก่อนนะคะว่าฉันเป็นคนหวงของ ยิ่งรักมากก็หวงมาก และฉันคงไม่ยอมอยู่เฉย ๆ เหมือนที่แล้วมาแน่ อะไรที่เป็นของฉันใครหน้าไหนก็เอามันไปจากฉันไม่ได้ โดยเฉพาะคนหน้าด้านอย่างพี่อิง อย่าได้หวังเลยค่ะ แต่ถ้าพี่คิดว่าพี่แน่ ก็เชิญ แล้วจะได้รู้ ว่าฉันทำอะไรได้มากกว่าที่พี่คิด เตือนแล้วนะ” “เหอะ” อิงอรอารมณ์เสียเพราะคำพูดของพริมา แต่ไม่ใช่ในคำเตือน เธอหันกลับมามองหน้าน้องสาวแล้วส่งสายตาฟาดฟันกัน ก่อนจะสะบัดหน้าหนีเดินออกจากห้องไป .......... ตัวอย่าง 2 “เสียดายจัง ยังไม่ทันได้มองหุ่นเขาเลย พี่พีก็เอามือมาปิดตาพริมซะก่อน เสียดายจริงๆ” “เสียดายทำไม! อยากดูก็มาดูหุ่นพี่นี่ พี่หุ่นดีกว่ามันตั้งเยอะ” ชายหนุ่มพูดเสียงเขียว พริมายู่หน้าตอบ “มันไม่เหมือนกันนี่คะ ของพี่พีพริมได้ดูทุกวัน แต่ของคนอื่นพริมแค่อยากมองเฉย ๆ” เธอยังคงลอยหน้าลอยตาพูดต่อ ทั้งยังไม่วายเจื้อยแจ้วไปถึงบรรดาหุ่นไอดอลชายหรือศิลปินที่เธอชื่นชอบจนรพีพัฒน์ใบหน้าเขียวคล้ำเพราะความหึงหวง มองเธอด้วยสายตาคาดโทษ
เมื่อความสัมพันธ์มาถึงจุดเปลี่ยน... เปลี่ยนจาก ‘คนรัก’ กลายเป็น ‘คนอื่น’ จากคนอื่นเป็น ‘คนใจร้าย...’ กว่าจะรู้ตัวว่ารักมากแค่ไหน ก็เกือบสูญเสียคนสำคัญของหัวใจไปแล้ว ………. ตัวอย่าง “ขอโทษนะครับที่ทำร้ายเขมแบบนั้น พี่รู้ว่าพี่ผิด และเขมคงไม่ให้อภัยพี่ง่าย ๆ แต่พี่อยากบอกให้เขมรู้ ว่าพี่รู้สึกผิด และเสียใจกับสิ่งที่พี่ทำลงไป” “...” “พี่ขอโทษนะครับ คือพี่ไม่ได้ตั้งใจจะทำแบบนั้นกับเขมนะ พี่แค่โกรธและโมโหมากไปหน่อย” เขมิกายกยิ้มพลางหัวเราะหยันในลำคอ รู้สึกโกรธคนตรงหน้าจนไม่อยากมองหน้าต้องมองเขาด้วยหางตาแทน “ไม่ได้ตั้งใจ... นี่ขนาดไม่ได้ตั้งใจนะคะ ถ้าคุณตั้งใจขึ้นมามันจะขนาดไหน” “เขมคือพี่” “ช่างเถอะค่ะ เอาเป็นว่าหลังจากนี้ไปนอกจากเรื่องงาน ระหว่างฉันกับคุณไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีก เข้าใจตรงกันนะคะ” นี่เขาทำอะไรลงไป... ถ้าเขาลดอคติลง ฟังเธอสักนิด วันนี้เขาคงไม่ต้องทำร้ายเธอจนทำให้เธอหวาดกลัวเขาแบบนั้น ไม่ต้องเห็นสายตาตัดพ้อต่อว่า ไม่ต้องเห็นสายตาว่างเปล่าของเธอ... หากว่าเขาขอโอกาสกับเธออีกสักครั้ง เธอจะยินยอมมอบมันให้เขาหรือเปล่า?..
วิญญาณแพทย์นิติเวชที่มีชื่อเสียงในศตวรรษที่ 21 ได้เข้ามาอยู่ในร่างคุณหนูของจวนเสนาบดีอย่างบังเอิญ ผู้คนกล่าวหาว่านางไม่เชี่ยวชาญด้านการแพทย์และทำให้บุตรชายของแม่ทัพตาย ด้วยเหตุนี้ฮ่องเต้ต้องการฆ่านางเพื่อให้คำอธิบายกับแม่ทัพ! ผู้คนกล่าวหาว่านางเป็นคนหยิ่งยโสและเจ้ากี้เจ้าการ ทุกคนเกลียดนาง และครอบครัวของนางต้องการไล่นางออก! ผู้คนกล่าวหาว่านางเป็นคนเลวทรามและไร้ความปรานี วางยาน้องสาว และพ่อของนางต้องการโบยนางจนตาย! ในความเป็นจริงหากอยากจะกล่าวหาผู้ใดสักคน มันก็หาข้ออ้างได้ทั่ว แต่นางเป็นคนไม่ยอมใคร นางผอมบางนางหนึ่งปลุกปั่นโลกด้วยความสามารถอันทรงพลังตนเอง ท่านอ๋องกล่าวว่า หากได้เจ้ามาครอบครอง ข้ายอมทรยศทุกคนในโลก นางกล่าวว่า เพื่อท่าน ต่อให้ทุกคนในโลกเกลียดข้า ข้าก็ยอม
หลังจากแต่งงานได้ 2 ปี ในที่สุดเจียงเนี่ยนอันก็ตั้งครรภ์สักที ความดีอกดีใจของเธอแต่กลับแลกกับคำขอหย่าของสามี หลังจากการสมคบคิด เธอนอนในกองเลือด และต้องการขอร้องเขาให้ช่วยเด็กเอาไว้ แต่กลับไม่สามารถติดต่อกับอีกฝ่ายได้ ด้วยความสิ้นหวังเธอจึงออกจากประเทศไป ต่อมาในงานแต่งงานของเจียงเหนียนอัน คุณกู้เสียการควบคุมและคุกเข่าลง ดวงตาของเขาแดงก่ำ "มีลูกของฉัน แล้วเธออยากจะแต่งงานกับใครกัน?"
ทุกคนต่างรู้ดีว่าเจียงว่านหนิงรักเย่เชินมานานหลายปี เธอที่มักจะว่านอนสอนง่ายและน่ารักเสมอ ได้สักลายเพื่อเขาและยอมทนอยู่ใต้อำนาจผู้อื่น เมื่อเธอถูกทุกคนใส่ร้ายจนโดนตำหนิ เขากลับนิ่งเฉยและยังถึงขั้นให้เธอคุกเข่าให้แฟนเก่าของเขาอีกด้วย เธอที่รู้สึกอับอาย ในที่สุดก็หมดหวัง หลังจากยกเลิกการหมั้น เธอก็หันไปแต่งงานกับทายาทพันล้านทันที คืนนั้นเอง ใบทะเบียนสมรสของทั้งคู่ก็กลายเป็นข่าวฮิตบนโลกออนไลน์ เย่เชินที่เคยคิดว่าตัวเองเก่งกาจที่สุดก็เริ่มวิตกและพูดออกมาด้วยความโกรธว่า "อย่าเพ้อฝันไปเลย นายคิดว่าเธอรักนายจริงๆ งั้นเหรอ เธอแค่ต้องการใช้พลังอำนาจของตระกูลฟู่เพื่อแก้แค้นฉันเท่านั้นเอง" ฟู่จิงเซินจูบหญิงสาวในอ้อมกอดและตอบกลับอย่างไม่ใส่ใจว่า "แล้วจะเป็นไรไปล่ะ ก็พอดีว่าฉันมีทั้งเงินและอำนาจนี่"
ฉู่ว่านยู ผู้สืบเชื้อสายมาจากตระกูลแพทย์แผนโบราณ มีทักษะทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยม ยาที่เธอทำนั้นทุกคนต่างอยากได้ สามารถรักษาได้ทุกโรค แต่กลับไม่คาดคิดว่าจะย้อนยุค กลายเป็นผู้หญิงที่ขี้เหร่ที่สุดในใต้หล้า และยังเอาชนะใจท่านอ๋องด้วย การเริ่มต้นไม่ค่อยดีก็ไม่เป็นไร มาดูกันว่าเธอจะพลิกผันยังไง การแย่งการแต่งงานงั้นเหรอ? เธอทำให้น้องต้องรับบทเรียน แย่งสินเิมดลับมา ให้ชายั่วหญิงร้ายคู่นี้อยู่ด้วยกันตลอดไป ขี้ขลาดเหรอ? เธอจัดการพ่อร้าย สั่งสอนผู้หญิงเสแสร้ง! ขี้เหร่เหรอ? เธอรักษาพิษในตัว และกลายเป็นคนงามอันน่าทึ่ง! ลูกสาวขี้เหร่ของจวนอัครมหาเสนาบดี กลายเป็นผู้สูงส่ง แม้แต่ผู้โหดเหี้ยมบางคนยังหวั่นไหวกับเธอ เมื่อสุดที่รักจะจัดการผู้ใด เขามักจะช่วยเสมอ... แต่น่าเสียดายสุดที่รักคนนั้นไม่มีเขาอยู่ในใจ ฉู่ว่านยู "ออกไป หย่าเลย ผู้ชายมีแต่เป็นภาระของข้าเท่านั้น" เสี่ยวลี่จิงรู้สึกน้อยใจ "ไม่ได้ ข้าให้ครั้งแรกกับเจ้าแล้ว เจ้าต้องรับผิดชอบข้า"
คิณ อัคนี สุริยวานิชกุล ทายาทคนโตของสุริยวานิชกุลกรุ๊ป อายุ 26 ปี นักธุรกิจหนุ่มที่หน้าตาหล่อเหลาราวกับเทพบุตร เย็นชากับผู้หญิงทั้งโลกยกเว้นเธอเพียงคนเดียวเท่านั้น เอย อรนลิน "เมื่อเขาดึงเธอเข้ามาในวังวนของไฟรักที่แผดเผาหัวใจดวงน้อยๆของเธอให้ไหม้ไปทั้งดวง" "เธอแน่ใจนะว่าจะให้ฉันช่วยค่าตอบแทนมันสูงเธอจ่ายไหวเหรอ?" เอย อรนลิน พิศาลวรางกูล ดาวเด่นของวงการบันเทิงที่ผันตัวไปรับบทนางร้าย เธอสวย เซ็กซี่ ขี้ยั่วกับเขาเพียงคนเดียวเท่านั้น "เขาคือดวงไฟที่จุดประกายขึ้นในหัวใจดวงน้อยๆของเธอให้หลงเริงร่าอยู่ในวังวนแห่งไฟรัก" "อะ อึก จะ เจ็บ เอยเจ็บค่ะคุณคิณ"
เมื่อผู้หญิงที่เพื่อนๆ ตั้งสมญานามว่าแม่ชีอย่างเธอจับพลัดจับผลูต้องมาเจอกับผู้ชายหน้านิ่งที่เอะอะกอด เอะอะจูบอย่างเขา อา…แล้วพ่อคุณก็ดันเป็นโรคนอนไม่หลับ จะต้องนอนกอดเธอเท่านั้นด้วย แบบนี้เธอจะเอาตัวรอดได้ยังไงล่ะ “ชอบอาหารเหนือไหม” “ชอบมากเลยคุณ ให้กินทุกวันยังได้เลย” “มากพอจะอยู่ที่นี่ไหม” “แค่กๆๆ” …………… …………………………………………………………………………………………………………………………. “คุณ! เอากระบอกไฟฉายออกไปวางที่อื่นก่อนได้ไหม มันดันหลังฉัน ฉันนอนไม่หลับ” คนที่ใกล้จะหลับบอกเสียงอู้อี้ “เอ้อ! ไม่มีนี่” เขาบอกเสียงอึกอัก “มันจะไม่มีได้ไง ก็มันดันหลังฉันอยู่เนี่ย” เธอมั่นใจว่ามีแน่ๆ ก็หลักฐานมันทนโท่ขนาดนี้ “อืม! นอนเถอะ ไม่มีหรอก” “จะไม่มีได้ไง ก็นี่ไง” คุณเธอยืนยันด้วยการคว้าหมับเข้าให้ พร้อมหันกลับมา หวังงัดหลักฐานที่อยู่ในมือมาพิสูจน์ให้ได้เห็นกันจะๆ คาตา แต่… ตึก ตึก ตึก อา…! ดูเหมือนจะไม่ใช่แค่คาตา แต่ยังคามือเธอด้วย เธออ้าปากตาค้างราวกับกำลังตกตะลึงสุดขีด ก่อนจะก้มมองไอ้ที่คิดว่าเป็นกระบอกไฟฉายในมือสลับกับเงยหน้ามองเขา จากนั้นก็… “กรี๊ด…!” เธอร้องลั่นพร้อมกับยื่นเท้าถีบออกไปสุดแรง ตุบ! คนไม่ทันตั้งตัวร่วงตุ้บลงไปบนพื้น ครั้นพอจะลุกขึ้น คุณเธอก็ตะโกนเสียงดังลั่นขึ้นมาอีก “หยุดอยู่ตรงนั้นเลยนะไอ้คนลามก คนเลว คุณมันทุเรศที่สุด คุณให้ฉันจับไอ้นั่นของคุณ มัน…อี๋…! เธอพูดพลางทำท่าขยะแขยง แล้วมาส่องกระบอกไฟฉายพ่อเลี้ยงพร้อมกันนะคะ
© 2018-now MeghaBook
บนสุด
GOOGLE PLAY