"มาเรียนวันแรกก็คิดจะหาแฟนใหม่เลย??" "ก็ในเมื่อแฟนเก่ามันเหี้ยมันเลวก็ต้องหาใหม่ป่ะ" "แม่งคำก็เหี้ยสองคำก็เหี้ยแต่เหี้ยอย่างฉันก็เคยเป็นผัวเธอไหมวะ" "ก็แค่ผัวเก่าของเก่าๆจะแคร์ทำไม"
"มาเรียนวันแรกก็คิดจะหาแฟนใหม่เลย??" "ก็ในเมื่อแฟนเก่ามันเหี้ยมันเลวก็ต้องหาใหม่ป่ะ" "แม่งคำก็เหี้ยสองคำก็เหี้ยแต่เหี้ยอย่างฉันก็เคยเป็นผัวเธอไหมวะ" "ก็แค่ผัวเก่าของเก่าๆจะแคร์ทำไม"
เอวา....
ตอนนี้ฉันอยู่บนรถไฟฉันเดินทางจากเชียงใหม่เพื่อมาเซอไพรส์วันเกิดของเซเดย์หรือเซย์แฟนของฉันค่ะที่ฉันต้องนั่งรถไฟมาเนื่องจากว่าเซย์เขาเรียนอยู่กรุงเทพ เราไม่ได้เจอกันมาหลายเดือนแล้วค่ะอยากจะบอกว่าฉันคิดถึงเขามากถึงมากที่สุดแม้ว่าเราจะคุยกันเกือบจะทุกวันแต่ฉันก็คิดถึงเขาอยู่ดี และที่ฉันมาหาเขาเขาไม่รู้นะคะฉันไม่ได้บอกฉันอยากให้เขาดีใจ ส่วนปีหน้าฉันก็จะเข้ามาเรียนกับเขาที่กรุงเทพตามที่เราได้สัญญากันเอาไว้ก่อนที่เขาจะมาเรียนที่กรุงเทพ เราสองคนพูดกันถึงเรื่องอนาคตว่าถ้าเราสองคนเรียนจบเราก็จะแต่งงานกันมีลูกน่ารักสักสองคน แค่คิดฉันก็มีความสุขแล้วค่ะเพราะเขาคือความสุขเดียวของฉัน ฉันกับเซย์เราสองคนอายุสิบแปดปีเท่ากันนะคะแต่เขาเกิดต้นปีส่วนฉันเกิดปลายปีทำให้เขาเรียนเร็วกว่าฉันไปปีนึง เซย์น่ะเขาชอบบังคับให้ฉันเรียกเขาว่าพี่แต่ฉันไม่เรียกเพราะเราอายุเท่ากันถึงแม้เขาจะแก่เดือนก็ตามเราสองคนรู้จักกันมาตั้งแต่เด็กแล้วค่ะเรียนด้วยกันตั้งแต่อนุบาลจนถึงมอปลายเราขยับสถานะจากเพื่อนมาเป็นแฟนตอนอยู่มอปลาย เซย์คือรักแรกคือแฟนคนแรกและเป็นคนแรกของฉันค่ะเราเป็นคนแรกของกันและกันในวันเกิดปีที่แล้วของเขาเรามีความสัมพันธ์กันแล้วและเขาบอกว่าเขาจะรับผิดชอบทุกอย่างเพราะเราเป็นแฟนกัน ตอนนี้เซย์เรียนอยู่ปีหนึ่งส่วนฉันเรียนอยู่มอหกอีกไม่กี่เดือนฉันก็จะเรียนจบแล้วค่ะถึงตอนนั้นฉันก็จะย้ายมาเรียนมาอยู่กับเขาเราจะได้ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันอย่างที่เคยฝันเอาไว้
ตอนนี้ฉันยืนอยู่หน้าคอนโดของเซย์ที่มันทั้งใหญ่โตหรูหราและราคาคงจะแพงมากๆซึ่งก็ไม่แปลกที่เขาจะมาอยู่ที่นี่ได้เนื่องจากว่าครอบครัวของเขาฐานะไม่ได้ธรรมดาเลยขึ้นชื่อว่าร่ำรวยที่สุดในจังหวัด ครอบครัวของเซย์ทำไร่ส้มค่ะมีเนื้อที่หลายร้อยหลายพันไร่ส่งออกปีๆนึงหลายร้อยหลานพันล้านบาท ที่ฉันรู้เพราะคุณป้าแม่ของเซย์ท่านเคยพูดให้ฉันฟังว่าต่อไปในอนาคตถ้าฉันกับเซย์แต่งงานกันฉันกับเซย์ต้องมาดูแลกิจการไร่ส้มพวกนี้แทนพวกท่านซึ่งฉันก็รับปากกับคุณป้าว่าฉันจะทำมันให้ดีที่สุด คุณป้ากับคุณลุงน่ะท่านรักและเอ็นดูฉันมากๆมากกว่าพ่อแม่แท้ๆของฉันอีกค่ะเพราะอะไรที่ทำให้ฉันพูดแบบนี้ไว้ฉันจะล่าให้ฟังทีหลังนะคะเพราะตอนนี้คนที่ฉันอยากเจอมากที่สุดก็คือแฟนของฉัน
และนี่ก็เป็นครั้งแรกที่ฉันมาที่นี่ ฉันขอที่อยู่จากคุณลุงคุณป้าพ่อกับแม่ของเซย์และบอกกับท่านว่าฉันอยากมาเซอร์ไพรส์วันเกิดเซเดย์โดยที่ไม่ให้เขารู้ซึ่งท่านทั้งสองก็รับปากว่าจะไม่บอกให้เซย์รู้ว่าฉันจะมาหาเขาที่นี่
ฉันกดลิฟต์เพื่อไปยังชั้นที่เขาอยู่ ฉันเอามือแตะหน้าอกข้างซ้ายของตัวเองเมื่อรับรู้ถึงจังหวะการเต้นของหัวใจตัวเองที่ตอนนี้มันเต้นแรงมากฉันบอกใจตัวเองว่าอย่าตื่นเต้นมากจนเกินไป แต่ฉันก็ไม่ได้มาตัวเปล่าหรอกนะเพราะในกระเป๋าสะพายของฉันมีของขวัญที่ฉันทำเองกับมือฉันเอามือจับกล่องของขวัญในกระเป๋าแล้วก็ยิ้มอย่างมีความสุข ของขวัญที่ฉันทำด้วยความตั้งใจมันกรอบรูปที่ฉันทำเองส่วนในกรอบรูปก็มีภาพวาดของเขาที่ฉันวาดเองเหมือนกัน คือฉันชอบวาดรูปน่ะ
และตอนนี้ฉันก็ยืนอยู่หน้าห้องของเซเดย์ ฉันตัดสินใจกดออดที่อยู่ตรงข้างประตูด้วยมือที่สั่นไม่หยุด ตอนนี้มือของฉันมั้นชื้นไปด้วยเหงื่อฉันพยายามบีบมือตัวเองให้มันเลิกสั่นแต่ก็ไม่ได้ผล
แกร๊ก แอร๊ดดดด เสียงประตูถูกเปิดออกพร้อมกับเสียงของผู้ชายคนนึงที่ฉันไม่รู้จัก
"ใครมาแต่เช้าวะ" ผู้ชายคนนี้อยู่ในสภาพหัวยุ่งเหมือนเพิ่งตื่นนอนเขาอยู่ในชุดนักศึกษาที่มีภาพไม่เรียบร้อยสักเท่าไหร่ ถ้าให้ฉันเดาเขาคงเป็นเพื่อนของเซเดย์ เขาก็มองหน้าฉันแล้วทำหน้าสงสัย
"เอ่อ ฉันมาหาเซย์น่ะ"
"มาหาไอ้เซย์??"
"ค่ะ ฉันเป็นแฟนของเซย์"
"แฟน??" ผู้ชายคนนี้ทำหน้างงและสงสัยหนักกว่าเดิมเมื่อฉันบอกว่าฉันเป็นแฟนของเซย์
"ค่ะฉันเป็นแฟนเขาแล้วตอนนี้เซย์อยู่หรือเปล่าคะหรือว่ายังไม่ตื่น"
"เอ่อ....คือ..เอ่อ" เพื่อนของเขาทำอึกอักไม่ตอบ
"มีอะไรหรือเปล่าคะ"
"คือว่า..."
"ถ้าเข้ายังไม่ตื่นฉันขอเข้าไปหาเขาในห้องนะคะ ขอทางหน่อยค่ะ" ฉันถือวิสาสะเดินเข้าประตูมาเพราะถึงยังไงห้องนี้ก็เป็นห้องของแฟนฉันฉันย่อมมีสิทธิ์ที่จะเข้ามา
พอเข้ามาในห้องฉันก็ถึงกับอึ้งกับสภาพของห้องและสภาพของคนอีกหลายคนที่นอนเกลื่อนพร้อมกองขวดเหล้าขวดเบียร์ก่อนจะไปสะดุดตากับก้อนเค้กที่วางอยู่ ทำให้ฉันหายสงสัยว่าทำไมห้องถึงมีสภาพเป็นแบบนี้เมื่อคืนพวกเขาน่าจะจัดวานวันเกิด
"เอ่อฉันว่าเธอกลับไปก่อนดีไหมไอ้เซย์มันคงยังไม่ตื่นง่ายๆหรอก ไว้ตอนเย็นค่อยมาหามันใหม่" ผู้ชายคนเดิมเดินมาบอกฉัน แล้วฉันจะไปอยู่ที่ไหนรอเซย์ล่ะในเมื่อฉันไม่รู้จักใครเลยสักคน
"ฉันเพิ่งมาจากเชียงใหม่ไม่รู้จะไปรอเขาที่ไหน"
"เธอไปนั่งรอข้างล่างก็ได้นะนั่งรอตรงล็อบบี้ก็ได้"
"แล้วทำไมฉันต้องไปนั่งรอข้างล่างในเมื่อห้องนี้มันคือห้องของแฟนฉัน ฉันขอเหตุผลของนายหน่อยว่าทำไมฉันต้องทำตามที่นายบอก" ฉันพูดอย่างไม่พอใจเพราะเหมือนเพื่อนของเซย์จะพยายามไล่ฉันเหมือนเขาไม่อยากให้ฉันอยู่ในห้อง
"เพราะว่า......" แต่ไม่ทันที่เพื่อนของเซย์จะบอกเหตุผลประตูห้องๆนึงก็เปิดออกพร้อมผู้ชายคนนึงผู้ชายที่ฉันคิดถึงเขามาตลอดหลายเดือนที่ไม่ได้เจอกัน
"เซย์^^" พอเขาเปิดประตูออกมาฉันรีบวิ่งไปหาเขาทันที
"เอวา?? เธอมาได้ไง" เซย์ถามฉันด้วยน้ำเสียงเหมือนไม่พอใจ หรือฉันคิดมากไปเอง
"ก็จะมาเซอร์ไพรส์เซย์ไง^^" ฉันบอกพร้อมกับยิ้มให้เขาอย่างดีใจที่ได้เจอหน้า แต่ในเพียงเสี้ยววินาทีความดีใจของฉันก็หายไปเมื่อเห็นผู้หญิงคนนึงเดินออกมาจากห้องที่เขาเพิ่งเดินออกมา
"ใครมาคะเซย์"
แจ้งก่อนอ่าน.....เรื่องนี้มีคำหยาบคายและมีการกระทำที่รุนแรงในบางEPเพราะฉะนั้นใครโลกสวยหรือไม่ชอบนิยายแนวนี้โปรดเลื่อนผ่านXX เขาเอื้อมมือไปที่หัวเตียงแล้วหยิบซองสี่เหลี่ยมเล็กๆ ที่ฉันคุ้นตาออกมาเพราะฉันเคยเก็บเศษซากของมันมาก่อน มันคือถุงยางอนามัย "คุณธามคะ อย่า!!!" ฉันกำลังจะบอกกับเขาว่าอย่าทำเพราะฉันรู้ว่าเขากำลังจะทำอะไรแต่เขากลับเข้าใจไปอีกอย่าง "ทำไม หรืออยากเอาสดกับกู อย่าหวังเลยว่ากูจะยอมสดกับคนอย่างมึง" สวบ!!!! ปึ่ก!!!!! "ไม่ กรี๊ดดดดดดด" ฉันกรีดร้องออกมาอย่างสุดเสียงเมื่อเขาสอดใส่ท่อนเอ็นเข้าไปจนสุดทางฉันเจ็บแปลบไปทั้งร่างกาย จนน้ำตาไหลออกมาด้วยความเจ็บปวด "เชี่ย!!! มึง ไม่เคยเหรอวะ" คุณธามก้มมองดูจุดเชื่อมต่อแล้วอุทานออกมา
เรื่องนี้เป็นเรื่องของพี่บอมคนดีเพื่อนสนิทอัยวาคุณแม่ของน้องเอิงซึ่งมีคุณพ่ออย่างพี่ภูที่หวงลูกสาวยิ่งกว่าอะไร มาลุ้นความรักต่างวัยของคู่นี้กันนะคะใครชอบแนวโคแก่กินหญ้าอ่อนห้ามพลาดเด็ดขาด ภูผาอัยวาอยู่ในเรื่อง กลลวงร้ายซ่อนรัก นะคะ
"เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนฉันจะไม่รับผิดชอบอะไรทั้งนั้น" "ค่ะ" ฉันฝืนความรู้สึกแล้วตอบออกไป ฉันไม่คิดว่าพี่ภูจะรับผิดชอบอะไรอยู่แล้วคำพูดของเขาเมื่อคืนฉันยังจำขึ้นใจ "และฉันก็หวังว่าเธอจะไม่เอาเรื่องที่เกิดขึ้นไปฟ้องแม่ฉันอีกว่าฉันรังแกเธอ" "ค่ะ" "สรุปก็คือเธอห้ามเอาเรื่องนี้ไปบอกใครเด็ดขาดเพราะไม่อย่างนั้นฉันจะเอาเรื่องที่เธอเคยโกหกไปบอกพ่อเธอรวมถึงย่าเธอด้วยว่าเธอโกหกสร้างเรื่องหาว่าฉันล่วงเกินเธอทั้งที่ตอนนั้นฉันไม่ได้ทำ เธอคิดเอาก็แล้วกันว่าย่าเธอจะผิดหวังแค่ไหนที่หลานสาวสุดที่รักของท่านสร้างเรื่องโกหกหน้าด้านๆ เพื่อจับผู้ชาย" ฉันก้มหน้าแล้วน้ำตาก็ไหลออกมาอีกครั้ง "เข้าใจที่พูดใช่ไหม" "อื้มมม" ฉันตอบเขาได้แค่นั้นเพราะพูดอะไรไม่ออกกลัวเขาจะรู้ว่าตอนนี้ฉันกำลังร้องไห้อยู่ "แต่ความผิดของเธอยังไม่หมดฉันยังไม่พอใจเพราะฉะนั้นเธอต้องมาที่นี่ทุกครั้งที่ฉันต้องการ แต่ถ้าเธอดื้อไม่ยอมมาฉันจะไปลากตัวเธอถึงบ้านไม่เชื่อก็คอยดู" "พี่ติดใจอัยก็บอกว่าเถอะไม่ต้องเอาเรื่องผิดไม่ผิดมาเป็นข้ออ้างหรอก" ฉันโต้กลับเพราะฉันไม่อยากให้พี่ภูคิดว่าฉันกลัวเขา "เธอพูดว่าไงนะฉันเนี่ยนะติดใจเธอ เหอะพูดผิดพูดใหม่ได้นะ"
"เพลง ฮึก ฮึกเพลง" น้ำเสียงสะอื้นด้วยความเจ็บปวดเมื่อเห็นคนที่ตัวเองรักอยู่ในสภาพนี้ "พะ พี่ไทม์เหรอคะ" มือบางลูบไปที่ใบหน้าของชายหนุ่มอย่างสะเปะสะปะ "พี่เองครับ ฮือออ เพลงพี่ขอโทษพี่ขอโทษพี่มันเหี้ยพี่มันเลวเพลงให้อภัยพี่ได้มั้ย" เขาจับมือคนรักแล้วนำมาแนบแก้มที่เต็มไปด้วยคราบน้ำตา "พี่รู้ได้ยังไงว่าเพลงอยู่ที่นี่" "พี่รู้ได้ยังไงไม่สำคัญ แต่พี่จะพาเพลงไปรักษาต่างประเทศที่นั่นหมอเก่งมากเพลงต้องหาย"
"เธอชอบเพื่อนฉันเหรอวะ เหอะดูสารรูปตัวเองซะก่อนเหอะยัยอ้วนก่อนจะมาบอกรักใครไอ้คิมมันหล่อขนาดนั้นเธอคิดว่ามันจะมาชอบผู้หญิงที่ทั้งอ้วนทั้งขี้เหร่แบบเธองั้นเหรอห๊ะ อย่างเธอมันไม่มองให้เปลืองลูกกะตาหรอกตัดใจจากมันซะเถอะ" "แต่...ฉันชอบคิมจริงๆนะ" "อย่างเธอถ้าอยากให้ไอ้คิมชอบมันก็พอมีวิธีอยู่นะอยากรู้มั้ยฉันจะบอก" "บอกมาสิ" "ข้อหนึ่งเธอคงต้องไปตายแล้วเกิดใหม่" "ห๊ะนายว่าอะไรนะ!!!" "ฟังฉันยังพูดไม่จบ ฉันยังมีข้อสองให้เธอเลือกนั่นก็คือเธอต้องไปศัลยกรรมให้มันดูดีกว่านี้ไม่แน่ไอ้คิมมันอาจจะหันมาสนใจเธอก็ได้ แต่..ฉันว่าเบ้าหน้าอย่างเธอคงไปไม่รอดทำไปก็แค่นั้นเปลืองเงินเปลืองแรงหมอเปล่าๆ เพราะฉะนั้นเธอตัดใจจากมันซะ" เรื่องนี้เป็นเรื่องราวของชมจันทร์พยาบาลสาวสวยกับอาร์ตเพื่อนสนิทของคิมหันต์จากเรื่อง ชังรักเมียรับใช้ นะคะ
"ลิล ลิลจำพี่ได้มั้ย" "พี่ พี่เหรอ" "ครับพี่เอง พี่คิมไงสามีของลิล" "สามี สามี" แววตาว่างเปล่าจ้องผมไม่วางตาก่อนจะแปรเปลี่ยนเป็นความหวาดกลัว "ไม่ ไม่ กรี๊ดดดด ไม่ออกไป ฮืออออ ออกไป ฮืออออ"
หลังจากที่แต่งงานเข้ามาในตระกูลมู่ หลินซีได้ทำหน้าที่เป็นคุณนายมู่ที่ยอมอดทนกับทุกอย่างโดยไม่ปริปากเป็นเวลาสามปี เธอรักมู่จิ่วเซียว จึงยอมอดทนดูแลเขาอย่างเต็มใจ แม้ว่าเขาจะมีคนอื่นอยู่ข้างนอกก็ตามแต่เขากลับไม่เคยเห็นค่าของเธอ เหยียบย่ำความรักของเธอให้แหลกสลาย และถึงขั้นปล่อยให้น้องสาวของเขามอมเหล้าเธอแล้วส่งไปยังเตียงของลูกค้า หลินซีนั้นถึงเพิ่งจะตาสว่างเมื่อรู้ว่าความรักที่มีมานานนั้นช่างน่าขันและน่าเศร้าในใจของเขา เธอไม่ต่างอะไรกับผู้หญิงคนอื่นๆ ที่เข้ามาเกาะเขา เธอจึงทิ้งข้อตกลงการหย่าไว้แล้วจากไปโดยไม่ลังเล มู่จิ่วเซียวมองดูเธอประสบความสำเร็จ กลายเป็นดวงดาวที่ส่องแสงในสายตาของผู้คนเมื่อได้เจอกันอีกครั้ง เธอเต็มไปด้วยความมั่นใจและสงบเสงี่ยม โดยมีผู้ชายที่มีฐานะสูงส่งอยู่เคียงข้าง มู่จิ่วเซียวมองดูใบหน้าของคู่แข่งหัวใจที่ดูคล้ายกับของเขามาก จากนั้นเขาก็ตระหนักได้ว่าในสายตาเธอ เขาเป็นเพียงตัวแทนของคนอื่นในมุมแห่งหนึ่ง เขาขวางทางเธอไว้ “หลินซี คุณเล่นตลกกับผมใช่ไหม”
คุณหนูใบ้ที่ถูกข่มเหงรังแกหลังจากฟื้นขึ้นมากลับกลายเป็นสาวนักธุรกิจที่ทะลุมิติมาเข้าร่าง ในเมื่อชีวิตเก่าเจ้าของร่างอาภัพนักชีวิตใหม่นี้ฉู่เสวียนหนี่ขอสาบานว่าจะทำให้ดีเอง! *********** ผลจากการโหมงานหนักทำให้ฉู่เสวียนหนี่สิ้นใจตายคาโต๊ะทำงาน เดิมที่คิดว่าความตายคือจุดจบ...แท้จริงแล้วมันคือจุดเริ่มต้น เพราะวิญาณของเธอได้ทะลุมิติเข้ามายังยุคโบราณล้าหลัง เหมือนชะตากลั่นแกล้งไม่ผิดเพี้ยน ฉู่เสวียนหนี่ดันเข้ามาอาศัยอยู่ในร่างของคุณหนูสามที่ชีวิตสุดแสนบัดซบ ได้รับผลข้างเคียงจากพิษแมงมุม คู่หมั้นที่เคยถูกหมายตาไว้ยื่นหนังสือถอนหมั้น หนำซ้ำยังถูกอุบายลวงญาติริษยาต้องออกจากจวนไปอาศัยกับแม่ชีที่อาราม
ตระกูลซูล่มสลาย จวนเจิ้นกั๋วทั้งตระกูลถูกประหารชีวิตในคืนเดียว ชาติก่อน… ซูเฉิงอิ้งถูกน้องสาวหลอกใช้ ถูกชายเจ้าชู้เล่นตลก ชาติก่อน… ซูเฉิงอิ้งใช้ชีวิตอย่างเจียมเนื้อเจียมตัวอยู่แคว้นเป่ยเหลียงสิบกว่าปี แต่กลับถูกกล่าวหาว่าคบคิดกับศัตรู คนทั้งแคว้นเซิ่งถังต่างก็ด่าทอยกใหญ่ ชาติก่อน… ซูเฉิงอิ้งต้องยืนมองน้องสาวกับรักแรกของตนสนิทสนมกัน ครองโลก ส่วนตัวเองกลับโดนประหารชีวิต เลือดสาดตะวัน เมื่อตื่นขึ้นอีกครั้ง… ซูเฉิงอิ้งถือดาบกลับมา ฟาดแรก… ตัดสายเลือด ฟันน้องสาวอกตัญญู ฟาดที่สอง… ตัดความรัก ฟันรักแรกที่หน้าเนื้อใจเสือ ฟาดที่สาม… ตัดคำพูด ฟันทุกเสียงนินทาของเป่ยเหลียงที่บิดเบือนความจริง ฟาดที่สี่… ตงฟางไป๋เยว่ “หรือว่าฮูหยินอยากจะฆ่าสามีผู้นี้ด้วยหรือ” ซูเฉิงอิ้ง“หุบปาก…”
ความสุขในฐานะคุณหนูอันดับหนึ่งของหนานอิงต้องพังลงทันใด เมื่อนางถูกโจรชั่วจับตัวมาและยังกระทำย่ำยี กระทั่งมารดาของนางยังถูกคร่าชีวิต สาวใช้ข้างกายถูกตัดลิ้นจนเสียสติกลายเป็นคนบ้าใบ้ ทั้งหมดด้วยความริษยาของฮูหยินใหญ่ผู้นั้น หนานอิงได้พบกับหานเซียวและลู่หนิงหวังสองอ๋องพี่น้องที่คอยช่วยเหลือนาง อ๋องผู้ป่าเถื่อนโหดร้ายและแสนเย็นชา แม้จะให้การช่วยเหลือแต่นางก็กลายเป็นนางบำเรอของพวกเขาเช่นกัน ไม่ว่าสองอ๋องจะโหดร้ายแต่นางจำต้องอดทน สุดท้ายนางกลายเป็นมือสังหารที่วางชีวิตไว้กับพวกเขาเพื่อแลกกับการแก้แค้น นางถูกฝึกอย่างหนักจนเก่งกาจยิ่ง หนานอิงจะทำเช่นใดเมื่อได้รู้ว่า คนที่ย่ำยีนางและเป็นศัตรูที่นางต้องการสังหารคือ สองอ๋องทั้งสองที่เป็นผู้กระทำย่ำยีนางจนปางตาย ฆ่า หรือ ไม่ฆ่า ล้วนเป็นนางที่ต้องเลือก! หมายเหตุ นิยายเรื่องนี้เป็นความรักแบบ 3P โปรดดาวน์โหลดตัวอย่างก่อนอ่านค่ะ ภาคต่อของนิยายเรื่องนี้คือเรื่อง Trigger warning: 3P
เสิ่นชิงกลายเป็นลูกสาวของชาวนาจากคุณหนูที่ร่ำรวยของตระกูลเสิ่นในชั่วข้ามคืน ลูกสาวตัวจริงใส่ร้ายเธอ คู่หมั้นของเธอทำให้เธออับอาย และพ่อแม่บุญธรรมของเธอก็ไล่เธอออกจากบ้าน... ทุกคนต่างรอที่จะหัวเราะเยาะเธอ ทว่าเธอกลับกลายเป็นทายาทของตระกูลเศรษฐีในเมืองอย่างกะทันหัน นอกจาดนี้ เธอยังมีตัวตนหลากหลาย เช่น หัวหน้าแฮ็กเกอร์ระดับนานาชาติ นักออกแบบเครื่องประดับชั้นนำ นักเขียนผู้ยิ่งใหญ่ที่ลึกลับ และอัจฉริยะด้านการแพทย์! พ่อแม่บุญธรรมเสียใจกับการตัดสินใจของตนและบังคับให้เธอแบ่งทรัพย์สินครึ่งหนึ่งให้เพราะพวกเขาเลี้ยงดูเธอมา เมื่อเสิ่นชิงหยิบกล้องออกมาแล้วบันทึกท่าทางอันน่าเกลียดของพวกเขา อดีตคู่หมั้นรู้สึกเสียใจและพยายามจะคืนดีกับเธอ เสิ่นชิงหัวเราะเยาะ "เขาคู่ควรงั้นเหรอ" จากนั้นก็ไล่เขาออกจากเมือง ในที่สุด ผู้มีอำนาจแห่งเมืองก็พูดอ้อนวอนเบาๆ "ไม่จำเป็นต้องแต่งเข้าตระกูลผม เดี๋ยวผมไปหาเอง"
“แหวนไปไหน” “คะ” หญิงสาวรีบหดมือหนีในทันที “พี่ถามว่าแหวนไปไหน” คริษฐ์ยังย้ำคำถามเดิมแล้วจ้องหน้าคู่หมั้นสาวแบบไม่พอใจ “คืออยู่ที่ออฟฟิศมันต้องล้างแก้วกาแฟบ่อย ๆ รุ้งก็เลยถอดเก็บเอาไว้ค่ะกลัวมันจะสึกเสียก่อน” คำตอบของหญิงสาวค่อยทำให้คริษฐ์รู้สึกผ่อนคลายลงเล็กน้อย “ถ้าถอดออกพี่จะถือว่ารุ้งขอถอนหมั้นพี่นะ” “ก็ไม่ได้ถอนสักหน่อย แค่ถอดเก็บเอาไว้เฉย ๆ” “งั้นก็ใส่เสียสิ เดี๋ยวนี้เลย” คริษฐ์ถลึงตาใส่แกมบังคับ “ใส่ก็ใส่ค่ะ” คนพูดตัดพ้อเล็กน้อย แล้วหันไปหยิบกระเป๋าด้านข้างมาเปิดเพื่อหยิบแหวนหมั้นของตนออกมาสวมใส่ จากนั้นก็หันหลังมือให้เขาดู “พอใจหรือยังคะ” “ดี” “ว่าแต่พี่คริษฐ์มานั่งรอรุ้งทำไมคะ มีธุระสำคัญหรือเปล่า” หญิงสาววกมาหาคำถามแรกที่เธออยากรู้ แต่เขาดันจุดประเด็นเรื่องแหวนขึ้นมาแทรกเสียก่อน “แม่ให้พี่มาหาคู่หมั้นตัวเองบ้าง” ฟังเขาพูดแล้วรุ้งพรายชักเครียดขึ้นมาหน่อย ๆ “ถ้าคุณป้าพิมพ์ไม่บอกพี่คริษฐ์ก็คงไม่มาหารุ้งใช่ไหมคะ” “แล้วทำไมรุ้งถึงไม่ไปหาพี่เองบ้างล่ะ” “ก็รุ้งกลัวพี่คริษฐ์รำคาญ” บทสนทนาสิ้นสุดลงด้วยความเงียบด้วยกันทั้งสองฝ่าย คริษฐ์ถอนหายใจเบา ๆ ส่วนรุ้งพรายก็ก้มหน้าต่ำลง ทำไมถึงได้รู้สึกอึดอัดอย่างบอกไม่ถูก “พี่ไลน์หาอ่านแล้วทำไมไม่ตอบ” คริษฐ์เป็นฝ่ายเอ่ยขึ้นก่อนหลังจากเงียบมาเกือบหนึ่งนาที “พอดีรุ้งมาอ่านตอนดึกแล้วไม่อยากรบกวนพี่คริษฐ์ค่ะ” “ตอบมาสักคำก็ยังดี อย่าทำเหมือนพี่ไม่มีตัวตนนะรุ้ง จำเอาไว้ด้วยว่าพี่เป็นคู่หมั้นของรุ้ง” “มันไม่น่าจะเป็นแบบนี้นะคะพี่คริษฐ์” “อะไรกันที่ว่าไม่น่าจะเป็นแบบนี้” “รุ้งว่าเราถอนหมั้นกันดีกว่าไหมคะ ดูพี่คริษฐ์อึดอัดกับการหมั้นของเราเหลือเกิน ขนาดจะมาหารุ้งก็ต้องให้คุณป้าพิมพ์บังคับมาเลย” “แม่ไม่ได้บังคับพี่” “ไม่บังคับก็เหมือนบังคับนั่นแหละค่ะ ตั้งแต่ตอนเด็กแล้วพี่ คริษฐ์แทบไม่เคยขัดใจคุณป้าพิมพ์ได้เลย ถ้ามันเหนื่อยและยุ่งยากมากรุ้งขอถอนหมั้นไปเลยก็ได้ค่ะ” รุ้งพรายดึงแหวนออกจากนิ้วนางข้างซ้าย แล้ววางแหมะอยู่ตรงหน้าของเขา คริษฐ์มองแหวนมองคนแล้วอารมณ์ของเขาก็เดือดดาลขึ้น บทจะอยากได้ก็วิ่งตามติดเป็นเงา บทจะสลัดทิ้งก็ง่าย ๆ แบบนี้เหรอรุ้งพราย “ใส่กลับไปเดี๋ยวนี้” ชายหนุ่มแทบจะกัดฟันพูดออกมา “ไม่ค่ะ อ๊ะ! พี่คริษฐ์จะทำอะไรรุ้งไม่ใส่” รุ้งพรายถูกคริษฐ์กระชากมือมาแล้วจัดการสวมแหวนกลับที่เดิม “ใส่แล้วห้ามถอด ห้ามทำให้แม่พี่เสียใจรู้ไหม” “พี่คริษฐ์!” (รักร้ายจอมทระนง)
© 2018-now MeghaBook
บนสุด