ข้าจะใช้มังกรพลิกบัลลังก์มังกร ! // ยาจกหนุ่มหน้าหวานหวังจะพลิกชะตากรรมของตน แม้ว่าต้องแลกมาด้วยความบริสุทธิ์ของตนก็ตาม
ข้าจะใช้มังกรพลิกบัลลังก์มังกร ! // ยาจกหนุ่มหน้าหวานหวังจะพลิกชะตากรรมของตน แม้ว่าต้องแลกมาด้วยความบริสุทธิ์ของตนก็ตาม
ณ เมืองเห่อหนาน
เมืองที่ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของเมืองหลวง แห่งแคว้นเป่ยหนาน เป็นเมืองหน้าด่านที่สำคัญ เพราะหากจะเดินทางจากทางใต้ไปเมืองหลวงต้องผ่านเมืองนี้ จึงทำให้เมืองนี้เจริญรุ่งเรืองด้านการค้าขายเป็นอย่างมาก
“สาลี่กรอบ ๆ พุทราป่าสด ๆ มาแล้วขอรับ ถุงละอีแปะเท่านั้นขอรับ”
หวังหลง ชายหนุ่มสวมเสื้อผ้าขาดรุ่งริ่งเฉกเช่นยาจก ร้องตะโกนขายผลไม้ป่าที่เขาเพิ่งจะไปเก็บมาจากบนภูเขา
แม้ว่าเขาจะอายุสิบแปดหนาวแล้ว แต่รูปร่างเขากลับตัวเล็กบอบบางกว่าบุรุษทั่วไปมาก จึงทำให้คนอื่น ๆ มักเข้าใจผิดคิดว่าเขายังเป็นเด็กชายอายุไม่ถึงสิบห้าปีด้วยซ้ำ
“หลงหลง ข้าเอาหนึ่งถุง”
นางจางเฮ่อที่ขายดอกไม้สดกวักมือเรียกชายหนุ่ม ใบหน้าปรากฏรอยยิ้มกว้างอย่างเป็นกันเอง
หวังหลงรีบสาวเท้าเข้ามาหา พร้อมกับเอ่ยอย่างดีใจว่า
“วันนี้ป้าจางจะกินอะไรขอรับ”
“เอาทั้งสาลี่ และพุทราอย่างละถุง”
เมื่อวานนางจางเฮ่อก็ช่วยซื้อลูกท้อป่าจากเขาไปหลายถุง วันนี้ก็ช่วยซื้ออีกเพราะสงสารหวังหลงที่เกิดมาไร้พ่อแม่ดูแล แม้ว่าหวังหลงจะไร้ที่พึ่ง แต่เขาก็ไม่เคยขอใครกิน มักจะเข้าไปเก็บผักผลไม้ในป่านำมาขายเพื่อเลี้ยงชีพ
“ขอบคุณป้าจางมากขอรับ”
หวังหลงยื่นถุงผลไม้ให้นางจางเฮ่อ แล้วรับเงินมาใส่อกเสื้อไว้อย่างทะนุถนอม
“ขอให้ขายดีขายหมดนะ ได้เงินแล้วก็ซื้อเสื้อผ้าหนา ๆ ใส่หน่อย นี่ก็ใกล้จะถึงฤดูหนาวแล้ว เสื้อที่เจ้าใส่อยู่ตอนนี้ทั้งเก่าทั้งขาดกันความหนาวไม่ได้หรอกเดี๋ยวจะไม่สบายเอา”
นางจางเฮ่อบอกด้วยความเป็นห่วง เพราะนางเห็นหวังหลงวิ่งขายของ บางครั้งช่วยงานเล็ก ๆ น้อย ๆ แถวนี้มาตั้งแต่เด็ก จึงเอ็นดูเขาเหมือนลูกหลาน
“ขอบคุณป้าจางมากขอรับที่เป็นห่วง”
เขาตอบกลับโดยไม่ปฏิเสธความห่วงใยของหญิงชรา ซึ่งความจริงแล้ว เงินที่เขาขายของได้ และเก็บสะสมไว้มากพอที่จะซื้อเสื้อสวย ๆ ได้มากกว่า 10 ตัว แต่ที่เขาไม่ซื้อก็เพราะว่าต้องการสะสมเงินทองให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ เพื่อกระทำการใหญ่ในวันหน้า
หม่อง..... หม่อง.... หม่อง....
เสียงตีฆ้องนำขบวนดังขึ้น ไม่นานนักขบวนรถม้าหรูหราของผู้แทนพระองค์ก็ปรากฏขึ้น
องครักษ์ควบม้านำขบวน 4 นาย เบื้องหลังมีขบวนทหารเดินเรียงแถวกว่าสิบนาย กลางขบวนเป็นรถม้าของผู้แทนพระองค์
“นั่นรถม้าของผู้ใดหรือขอรับ”
หวังหลงมองดูขบวนที่กำลังเลื่อนผ่านหน้าเขาไปอย่างสนใจ
“อ่อ... นั่นขบวนรถม้าของใต้เท้าเฟิงโหย่ว ผู้แทนพระองค์ที่เดินทางมาตรวจเยี่ยมราษฎรทางใต้น่ะสิ สงสัยจะตรวจเสร็จแล้ว และกำลังจะกลับเมืองหลวงก็เลยผ่านมายังเมืองของเรา”
นางจางเฮ่อตอบ
หวังหลงมองตามขบวนผู้แทนพระองค์ไปอย่างเหม่อลอย คล้ายกับคิดสิ่งใดอยู่ในใจ
.............................................................................
ภายในรถม้า
ใต้เท้าเฟิงโหย่ว ผู้แทนพระองค์ที่อายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์
เขาเลิกผ้าม่านหน้าต่างขึ้นทอดสายตามองดูเมืองหน้าด่านที่คลาคล่ำไปด้วยผู้คนทั้งค้าขาย ทั้งเดินทางไปมา รถม้าวิ่งกันขวักไขว่ บ้านเรือนร้านค้าเรียงรายตามสองฝั่งถนน ถนนในตัวเมืองใหญ่ไม่มาก แต่ก็กว้างพอให้รถเทียมม้า และรถบรรทุกของสองคันแล่นสวนกันได้ ยามบ่ายแก่ ๆ เช่นนี้ยิ่งคึกคักเป็นพิเศษ
ภาพเหล่านั้นทำให้รอยยิ้มจาง ๆ ผุดขึ้นที่ริมฝีปาก ใบหน้าหล่อเหลาราวกับเทพเซียน
“หลางจิ่ว เมืองนี้คึกคักนัก ก่อนเข้าเมืองหลวงเราก็พักที่นี่เถิด”
เฟิงโหย่วร้องสั่งคนที่เป็นทั้งเลขา และที่ปรึกษา
“ขอรับใต้เท้า”
หลางจิ่วซึ่งนั่งคู่กับคนขับรถม้า ผินหน้าไปตอบรับเจ้านายอย่างชัดถ้อย ชัดคำ
เมื่อมาถึงโรงเตี๊ยมที่ใหญ่ที่สุดในเมือง เลขาผู้แทนพระองค์ก็ร้องสั่งให้หยุดขบวน
หยุด !
จากนั้นก็รายงานกับผู้เป็นนายว่า
“ใต้เท้าเฟิงโหย่ว ถึงโรงเตี๊ยมแล้วขอรับ”
“อืม”
ใต้เท้าเฟิงโหย่วก้าวลงมาจากรถม้า แล้วเอ่ยว่า
“ข้าจะไปเดินดูชาวบ้านแถวนี้เสียหน่อย”
“ใต้เท้าจะให้ข้า หรือองครักษ์ติดตามไปดูแลความปลอดภัยหรือไม่ขอรับ”
“ขอบใจที่เป็นห่วง แต่ไม่ต้องหรอกเดี๋ยวชาวบ้านจะแตกตื่นตกใจ”
“ขอรับ”
เลขารับคำอย่างรู้ใจ เพียงแค่สบตาผู้เป็นนายเขาก็รู้ว่าเหตุใดใต้เท้าหนุ่มถึงอยากจะเดินเล่นคนเดียว
..............................
ยามซวี
ใต้เท้าเฟิงโหย่วก็เดินออกมาจากหอคณิกาเลื่องชื่อ
“คุณชายเฟิง ไม่น่ารีบกลับเลยเจ้าค่ะ”
สตรีคณิกาที่กอดแขนเขาอยู่เบื้องซ้ายส่งเสียงออดอ้อนขึ้น นาน ๆ ครั้งจะมีบุรุษรูปงามกระเป๋าหนักมาเยือนสักครั้ง นางจึงอยากจะรั้งให้เขาอยู่เพื่อปรนนิบัตินาน ๆ
“จริงด้วยเจ้าค่ะ คุณชายเฟิงเพิ่งจะมาที่หอคณิกาแห่งนี้ครั้งแรกก็ทำเอาหอแทบแตก สาวงามต่างก็แย่งกันปรนนิบัติท่านทั้งนั้น”
สตรีคณิกาที่กอดแขนเขาอยู่เบื้องขวาเอ่ยสนับสนุน
ใต้เท้าเฟิงโหย่วได้ยินเช่นนั้นก็ยิ้มพรายออกมา แล้วเอ่ยลาแฝงด้วยน้ำเสียงหยอกเย้าว่า
“เจ้าสองคนอ่อนหวานช่างเอาใจปานนี้ แม้นตัวข้ากลับ แต่ใจก็ยังคะนึงหาพวกเจ้า หากข้าว่างวันใด ข้าย่อมกลับมาหาพวกเจ้าทั้งสองแน่นอน”
“จริงนะเจ้าคะ”
ทั้งสองนางเอ่ยขึ้นพร้อมกัน
“จริงสิ”
“คุณชายเดินทางกลับด้วยความปลอดภัยเจ้าค่ะ”
“พวกข้าทั้งสองจะรอท่าน”
ใต้เท้าเฟิงโหย่วส่งยิ้มอำลา แล้วก้าวเท้าจากไปอย่างเบิกบานใจ
เขารับหน้าที่เป็นผู้แทนพระองค์ตรวจเยี่ยมราษฎรทางใต้ตั้งหลายเดือนกว่าจะแล้วเสร็จ ดังนั้น เมื่อราชกิจเสร็จสิ้นเขาจึงมาหาความสำราญผ่อนคลายความเครียดเสียหน่อย
ใต้เท้าเฟิงโหย่วกำลังจมอยู่ในความคิดของตนจึงไม่ได้สังเกตว่ามีเงาดำสายหนึ่งวูบไหวแอบตามเขามาตั้งแต่หอคณิกาแล้ว
เมื่อเขาเลี้ยวเข้าถนนสายรองซึ่งค่อนข้างเปลี่ยว เงาสีดำที่ตามหลังเขาก็พุ่งเข้าไปดึงถุงเงินข้างเอวใต้เท้าเฟิงโหย่ว
พรึบ !
“อ๊ะ นี่เจ้าหัวขโมย ส่งถุงเงินของข้ามานะ”
บิดามันเถอะ ! ข้าหนีการอภิเษกแต่กลับต้องมาเป็นทาสบำเรอกามแม่ทัพเถื่อน เรื่องราวขององค์ชายผู้ดื้อรั้นหนีการแต่งงาน จนถูกจับไปขายในหอนายโลม แล้วแม่ทัพก็นำตัวเขาไปเป็นทาสกาม เขาจะหนีพ้นจากความโชคร้ายนี้ได้หรือไม่ ไปติดตามกัน ................................................................................ ❌ จับมาเป็นทาส ✅ จับมาทำเมีย ——————————————— 😈“ข้าซื้อเจ้ามาก็เพื่อสิ่งนี้ ‼️ เจ้าจะเล่นตัวไปไย แต่ตอนนี้เจ้าทำให้ข้าเจ็บ เจ้าต้องรับผิดชอบ” สิ้นคำมือแกร่งก็กระชากเสื้อคลุมขององค์ชายน้อยออก แล้วผลักร่างบางเข้าชิดผนังห้อง 😡“จะทำอะไรข้า ถ้าท่านแตะต้องตัวข้าอีก ข้าฆ่าท่านแน่‼️” องค์ชายน้อยขู่ฟ่อ มือทั้งสองถูกเขารวบตรึงไว้เหนือหัว ร่างกายท่อนล่างแทบทุกสัดส่วนถูกเรือนร่างกำยำร้อนฉ่าทาบทับเอาไว้ 😈“ฮ่า ฮ่า คนที่ขู่ฆ่าข้า ไม่เคยมีใครตายดีสักคน แต่สำหรับเจ้า...” แม่ทัพหนุ่มมองสบตาหนุ่มน้อย เขาแตะปลายนิ้วลงที่ริมฝีปากบางด่าทอเขาไม่หยุด 😈 “ข้าจะทรมานจนต้องร้องขอชีวิตเชียวหล่ะ” เขาไล้ปลายนิ้วไปตามผิวเนื้อเนียนนุ่ม แล้วลูบต่ำลงมาจนถึงเม็ดทับทิมสีสวย จากนั้นก็ลูบคลึงหัวทับทิมเล่นอย่างหยอกล้อ 🥴“อื้อ อา เจ้าคนชั่วช้า งื้ออ อา” ฝ่ามือร้ายของท่านแม่ทัพทำให้เสียงองค์ชายน้อยเริ่มสั่นพร่าด้วยความเสียวซ่าน ทุกอณูสัมผัสของเขาทำให้หัวใจดวงน้อยเต้นโครมคราม 😈“ชั่วช้าอย่างไร ก็เป็นสามีเจ้า”
“...หนี้ชีวิต หนี้แค้น ที่เธอต้องยอมพลีกายชดใช้ให้เขา !” สำหรับเรื่อง “บ้านไร่ชายดุ” เป็นเรื่องราวของ เมย์ หญิงสาววัยแรกแย้ม ที่ต้องตกเป็นเชลยในกำมือซาตาน เพราะหนี้ชีวิตที่พ่อของเธอได้กระทำไว้
หลังจากที่แต่งงานเข้ามาในตระกูลมู่ หลินซีได้ทำหน้าที่เป็นคุณนายมู่ที่ยอมอดทนกับทุกอย่างโดยไม่ปริปากเป็นเวลาสามปี เธอรักมู่จิ่วเซียว จึงยอมอดทนดูแลเขาอย่างเต็มใจ แม้ว่าเขาจะมีคนอื่นอยู่ข้างนอกก็ตามแต่เขากลับไม่เคยเห็นค่าของเธอ เหยียบย่ำความรักของเธอให้แหลกสลาย และถึงขั้นปล่อยให้น้องสาวของเขามอมเหล้าเธอแล้วส่งไปยังเตียงของลูกค้า หลินซีนั้นถึงเพิ่งจะตาสว่างเมื่อรู้ว่าความรักที่มีมานานนั้นช่างน่าขันและน่าเศร้าในใจของเขา เธอไม่ต่างอะไรกับผู้หญิงคนอื่นๆ ที่เข้ามาเกาะเขา เธอจึงทิ้งข้อตกลงการหย่าไว้แล้วจากไปโดยไม่ลังเล มู่จิ่วเซียวมองดูเธอประสบความสำเร็จ กลายเป็นดวงดาวที่ส่องแสงในสายตาของผู้คนเมื่อได้เจอกันอีกครั้ง เธอเต็มไปด้วยความมั่นใจและสงบเสงี่ยม โดยมีผู้ชายที่มีฐานะสูงส่งอยู่เคียงข้าง มู่จิ่วเซียวมองดูใบหน้าของคู่แข่งหัวใจที่ดูคล้ายกับของเขามาก จากนั้นเขาก็ตระหนักได้ว่าในสายตาเธอ เขาเป็นเพียงตัวแทนของคนอื่นในมุมแห่งหนึ่ง เขาขวางทางเธอไว้ “หลินซี คุณเล่นตลกกับผมใช่ไหม”
หยางจื้อซี เด็กกำพร้าจากศตวรรษที่21 ถูกองค์กรมืดเลี้ยงดูจนเติบโตและทำให้เธอกลายเป็นมนุษย์กลายพันธ์ ในระหว่างที่ถูกส่งตัวไปทำภารกิจลับ เธอกลับถูกคนในองค์กรมืดหักหลังและถูกฆ่าโดยเพื่อนสนิทที่เธอไว้ใจมากที่สุด ก่อนสิ้นใจเธอถามเพื่อนสนิทว่าทำไม แต่ไม่ได้รับคำตอบจากปากของอีกฝ่าย สิ่งที่เธอได้รับคือรอยยิ้มที่ดูถูกเหยียดหยามและ คำว่า “โง่” จากปากของอีกฝ่ายเท่านั้น หลังจากที่ตายไปแล้วสิ่งที่เธอคิดไว้ คงจะเป็นนรกหรือที่ไหนสักแห่งที่เป็นโลกหลังความตาย แต่ทว่ามันกลับไม่เป็นเช่นนัน เธอตื่นขึ้นมาในร่างของ หยางจื้อซี เด็กหญิงอายุ เพียง 13 ขวบปีในหมู่บ้านป่าหมอก ในดินแดนโบราณล้าหลังที่ไม่มีในประวัติศาสตร์ คล้ายกับว่าเป็นโลกคู่ขนานที่อยู่อีกมิติหนึ่ง เธอตื่นขึ้นมาในบ้านที่ผุพัง ครอบครัวยากจน มีแม่ที่อ่อนแอและเจ็บป่วย มีพี่น้องที่อายุน้อย มีปู่ย่าตายายที่เห็นแก่ตัวและใจร้าย มีลุงที่เห็นแก่ได้ป้าสะใภ้ที่เต็มไปด้วยความละโมบโมบโลภมาก หยางจื้อซี คิดว่านับจากนี้ไปชีวิตจะต้องอยู่ได้ด้วยตัวเอง หากใครมารังแกก็แค่ทุบตี เธอไม่เชื่อว่าด้วยพลังที่ติดตัวเธอมาจากชาติที่แล้วจะไม่สามารถอยู่รอดได้ในโลกล้าหลังแห่งนี้
ซ่งชิงเหอโดนหักหลังและกลายเป็นฆาตกรในสายตาคนอื่น เธอจึงหย่ากับสีจั้นถิง สามีของเธอ และเดินทางออกจากเมืองหวยไปด้วยความเกลียดชัง หกปีต่อมา เธอหวนกลับมาราวกับนกฟีนิกซ์พร้อมกับคู่แข่งของสามีเก่าเธอ เธอเติบโตขึ้นกลายเป็นผู้หญิงที่แข็งแกร่ง เธอสาบานกับตัวเองว่าจะทำให้ทุกคนต้องชดใช้ในสิ่งที่พวกเขาทำไว้กับเธอ เธอยอมร่วมมือกับเขาเพียงเพื่อแก้แค้น โดยไม่รู้เลยว่าเธอตกเป็นเหยื่อของเขาไปแล้ว ในเกมแห่งความรักและความปรารถนา ไม่มีใครรู้ว่าสุดท้ายแล้วผู้ชนะที่แท้จริงจะเป็นใคร
เรื่องย่อ วังวนร้อนรักจวนแม่ทัพใหญ่ แนว 4P ซุนหลีนถูกจับมาเป็นเชลยสงครามพร้อมพี่ชายบุญธรรมที่นางแอบมีใจให้เขาและมารดา แต่ด้วยความงามของนางจึงทำให้ฮูหยินใหญ่ที่ไร้ทายาทต้องการให้นางอุ้มท้องแทนตน เรียนท่านผู้อ่านทุกท่าน หนังสือนิยายเรื่องนี้จัดอยู่ในหมวด นิยายรักสำหรับผู้ใหญ่ ซึ่งเหมาะกับสายแซ่บไม่พูดเยอะ เจ็บคอ จะมีฉาก NC นำเนื้อหาแทบทั้งเรื่อง และพล็อตเบาคลายเครียด แทบไม่มีพล็อตค่ะ ดังนั้นท่านผู้อ่านควรพิจารณาโหลดตัวอย่างก่อนตัดสินใจซื้อค่ะ ขอบคุณค่ะ
[แสนหวาน + วิวาห์ฟ้าแล่บ + แต่งงานก่อน แล้วรักทีหลัง] แฟนที่หลู่ชิงชิงเลี้ยงดูมาหลายปีกลับนอกใจเธอ แอบไปคบกับเพื่อนสนิทของเธอ? เธอทนต่อกับเรื่องนี้ไม่ได้ และไปสมัครขอแต่งงานโดยตรง และแต่งงานกับชายแปลกหน้าอย่างรวดเร็ว หลังจากการแต่งงานแล้ว ชายคนนั้นคำหนึ่งก็ว่าเขาจะออกค่าใช้จ่ายทั้งหมดในครอบครัวสองคำก็ว่าจะเลี้ยงดูเธอ หลู่ชิงชิงเยาะเย้ยคิดว่ามันเป็นกลอุบายและคำโกหกของผู้ชายอีกแล้ว โดยไม่คาดคิดว่าชายคนนี้กลับกลายเป็นคนให้ความสำคัญกับภรรยาตัวเองจริงๆ ทั้งสนับสนุนอาชีพการงานของเธอและยังช่วยเธอทำงานบ้านด้วย และให้เธอตกแต่งบ้านตามใจชอบ ใช้ชีวิตอย่างมีความสุข สิ่งที่ทำให้เธอประหลาดใจยิ่งกว่านั้นคือทุกครั้งที่เธอประสบปัญหา เขาก็สามารถแก้ปัญหาให้เธอได้ตลอด ทุกครั้งที่เธอถามเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้ เขามักจะหัวเราะและเปลี่ยนเรื่องอย่างฉลาดโดยชมเธอว่าเป็นคนมีความสามารถ ทำงานเก่ง จนกระทั่งวันหนึ่ง ภายใต้การเลี้ยงดูจากสามีของเธออย่างต่อเนื่อง เธอก็ประสบความสำเร็จเช่นกัน จากนั้นเธอถึงพบว่ามีผู้ชายคนหนึ่งในนิตยสารการเงินระดับโลกที่ดูเหมือนสามีของเธอทุกประการ...
ตลอดสิบปีที่ฉู่จินเหอรักเหลิ่งมู่หยวนฝ่ายเดียว เอาใจใส่กับเขาอย่างเต็มที่ แต่เธอไม่เคยคิดว่าที่แท้เธอเป็นแค่ตัวตลกคนหนึ่งเท่านั้น ที่สำนักงานเขตเพื่อทำการหย่า เหลิ่งมู่หยวนมองดูฉู่จินเหอด้วยความเย็นชาและพูดอย่างเหยียดหยามว่า "ถ้าเธอคุกเข่าลงและขอร้องฉัน ฉันอาจจะให้โอกาสเธอกอีกครั้ง ฉู่จินเหอเซ็นอย่างไม่ลังเลและออกจากตระกูลเหลิ่ง สามเดือนต่อมา ฉู่จินเหอปรากฏตัวอย่างเปิดเผย ในเวลานั้น เธอเป็นประธานเบื้องหลังของ LX นักออกแบบลับที่ล้ำค่าที่สุดในโลก และเจ้าของเหมืองที่มีมูลค่าหลายร้อยล้าน ทางตระกูลเหลิ่งคุกเข่าลงและขอร้องให้คืนดีและขอการให้อภัย ฉู่จินเหอแยู่ในโอบกอดของซีอีโอโจว ซึ่งเป็นคนใหญ่คนโตในโลกธุรกิจอย่างมีความุข เธอเลิกคิ้วพลางเยาะเย้ย "ฉันในตอนนี้ไม่ใช่คนที่พวกคุณมาเกี่ยวข้องได้"
© 2018-now MeghaBook
บนสุด