เมื่อคนผิดไม่ได้รับการลงโทษเขาก็จะทำตัวเป็นศาลเตี้ยพิพากษาคนผิดเสียเองไม่ว่ากี่สิบปีเขาก็จะตามจองล้างจองผลาญคนที่พรากแม่ของเขาไปและ..เธอ...ก็เป็นเหยื่อชิ้นโปรดที่เขาจะใช้เป็นทาสสวาทและเครื่องมือแก้แค้น...
เมื่อคนผิดไม่ได้รับการลงโทษเขาก็จะทำตัวเป็นศาลเตี้ยพิพากษาคนผิดเสียเองไม่ว่ากี่สิบปีเขาก็จะตามจองล้างจองผลาญคนที่พรากแม่ของเขาไปและ..เธอ...ก็เป็นเหยื่อชิ้นโปรดที่เขาจะใช้เป็นทาสสวาทและเครื่องมือแก้แค้น...
"ทำไมพี่แพทพาหม่อนมาไทยกะทันหันหรอคะ" ใบหม่อนหญิงสาวร่างเล็กใบหน้าจิ้มลิ้มที่วัย23ย่าง24อยู่ในชุดเดรสสีชมพูหวานเดินตามพี่ชายที่สูงใหญ่อย่างเร่งรีบเข้าไปในบ้านพักหลังใหญ่ในชานเมืองของกรุงเทพมหานครที่ต้องรีบสับขาให้รวดเร็วเพราะเธอก้าวไม่ค่อยทันพี่ชายที่สูงราวสองเมตรเธอเท่าไร
"ก็ไม่ได้กะทันหันนี่นาพี่เคลียงานที่นี่ทุกอย่างจบแล้วก็อยากจะกลับไปลงทุนธุรกิจที่ไทย" แพทริคหนุ่มลูกครึ่งไทยอังกฤษวัย34อยู่ในชุดสูทที่สั่งตัดจากแบรนด์หรูเดินเด่นสง่าเข้ามาในบ้านหลังใหญ่ก่อนจะหย่อนก้นลงนั่งพักที่โซฟาราคาแพงที่ห้องนั่งเล่นด้วยท่าทีเหนื่อยล้าเนื่องจากเดินทางมานานดีที่มาถึงเขาก็เข้สพักผ่อนในบ้านได้เลยเพราะสสั่งให้คนเตรียมจัดแจงทำความสะอาดไว้ก่อนหน้านี้แล้ว
แพทริค เนลสันลูกครึ่งไทยอังกฤษเป็นลูกชายคนเดียวของโทมัส เนลสันเจ้าของบริษัทผลิตเรือยอร์ชส่งออกที่อังกฤษเจ้าใหญ่ที่สุดในประเทศ ชายหนุ่มเป็นทายาทคนเดียวที่ถูกจับตามองจากสังคมเซเลปคนดังมากที่สุด เพราะจะเป็นคนเดียวที่สืบทอดกิจการของเนลสันแถมตอนนี้ยังเป็นหนุ่มโสดเนื้อหอมที่สาวๆก็อยากจะเข้าหามากที่สุดอีกด้วยติดอยู่ที่ว่าเขานั้นค่อนข้างเข้าถึงยากสื่อทุกสื่อไม่เคยได้สัมภาษณ์เข้าแม้แต่ครั้งเดียวแถมยังไม่ชอบออกงานสังคมอีกต่างหากคนที่จะเจอเขาได้ต้องเป็นคนที่อยากจะติดต่อเรื่องธุรกิจเท่านั้น
แพทริค เป็นหนุ่มหล่อลูกครึ่ง สูงราวสองเมตรร่างกายมีแต่กล้ามเนื้อด้วยเพราะเป็นคนชอบออกกำลังกายผิวขาวใบหน้าเป็นโครงชัดผมสีน้ำตาลเทาหยิกปล่อยยาวประบ่าคิ้วเข้มตาคมสีฟ้าจมูกโด่งเป็นสันปากหนาเป็นกระจับมีไรเคราเล็กน้อย
เป็นคนไม่ค่อยชอบสุงสิงกับใคร หลังจากว่างจากการทำงานก็ชอบที่จะฝึกการต่อสู้ ดื่มสังสรรค์กับเพื่อนๆบ้างเป็นบางครั้ง ค่อนข้างเป็นคนที่ดุและเนี้ยบทุกกระเบียดนิ้ว ผู้คนที่ได้พบเจอล้วนยำเกรงในบุคลิกและความเฉลียวฉลาดของเขา ภายนอกที่ดูเข้มแข็งของชายหนุ่มมีความเจ็บปวดว้าเหว่ที่ซ่อนอยู่ในนั้นมากมาย
บางครั้งชอบเก็บตัวเงียบเมื่อรู้สึกเครียดหนักมากกว่านั้นเขายังเป็นคนที่ควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่อยู่เมื่อรู้สึกโมโหถึงขีดสุดหากทำร้ายคนอื่นหรือทำลายสิ่งของไม่ได้ ตัวเขาก็จะเลือกทำร้ายตัวเองเป็นอาการที่เกิดขึ้นเมื่อเขาต้องสูญเสียสิ่งที่รักไปในตอนวัยรุ่น และตอนนี้ก็ยังต้องรักษากันอยู่เป็นระยะโดยหมอประจำตระกูลของเขาเอง
ที่เขาเลือกกลับมาที่ประเทศไทยแม้นจะต้องรู้สึกเจ็บปวดเมื่อกลับมาทุกครั้งเขาก็ต้องมาเพราะเขาตั้งใจแล้วว่าจะทำให้คนที่สร้างบาดแผลในใจให้เขาเมื่อหลายสิปปีก่อนได้รับความเจ็บปวดแสนสาหัสมากกว่าที่เขาเคยได้รับ
"ลงทุนที่นี่..พี่แพทจะทำอะไรหรอไม่เห็นเคยบอกหม่อนเลย" ใบหม่อนนั่งลงตรงข้ามกับคนเป็นพี่ชายก่อนจะมีสีหน้าสงสัยเพราะพี่ชายเธอก็ไม่เคยเอ่ยมาสักครั้งว่าจะกลับมาทำธุรกิจที่ไทยเธอคิดว่าการมาครั้งนี้พี่ชายเธอจะมาพักผ่อนเสียอีก
"อืม.. ไว้พี่จัดการเรียบร้อยแล้วจะบอก"
"ค่ะ.." ใบหม่อนพยักหน้ารับเบาๆเธอชินแล้วที่พี่ชายเธอจะมีลับลมคมใน
"อ่อ...พี่คงจะไม่ได้อยู่ที่นี่สักอาทิตย์สองอาทิตย์นะพี่ว่าจะไปดูที่ทางเหนือสักหน่อย"
"หม่อนไปด้วยได้มั้ยคะ" เมื่อได้ยินว่าพี่ชายตนจะขึ้นเหนือสาวเจ้าที่อยากจะไปเที่ยวก็หูผึ่งทันที
"ไม่ต้องหรอกเราอยู่ที่นี่แหละสบายกว่า" แพทริคเห็นทีงานนี้จะให้น้องสาวเขาไปด้วยไม่ได้เพราะมีเรื่องสำคัญและเป็นความลับมากๆที่จะต้องทำ
เพราะการบนบาลครั้งนั้นทำให้เธอต้องรีบหาสามีเพื่อผลิตลูกไม่อย่างนั้นเธอก็จะต้องเจอกับสิ่งลี้ลับและผู้โชคดีที่จะเป็นพ่อของลูกของเธอก็ดันรุ่นราวคราวพ่อเธอจะจัดการเรื่องนี้อย่างไร..... ...................................///............................... ทุกคนเชื่อในเรื่องการผิดคำพูดในการบนบานศาลกล่าวกันหรือเปล่า... เรื่องราวที่ไรท์จะเขียนในนิยายเป็นเรื่องที่นางเอกของเราเคยบนบานเอาไว้และเมื่อสิ่งที่บนประสบผลสำเร็จนางเอกของเราก็จะต้องแต่งงานกับผู้ชายคนแรกหลังตื่นเช้าของอีกวันและผู้ชายคนนั้นก็คือ...พระเอกของเราเองค่า.. แต่..แต่..แต่..ว่า...พ่อพระเอกของเราไม่ได้จะยอมง่ายๆเพราะว่านางเอกดันอายุอ่อนกว่าเขายี่สิบกว่าปีเรียกว่ารุ่นลูกยังได้ แต่หากพระเอกของเราไม่ยอมแม่นางเอกของเราก็ต้องตื๊อให้ยอมจนได้... เพราะว่า... เธอ... ไม่อยากจะเจอเรื่องซวยๆอีกต่อไป.. ความสนุกของเรื่องนี้จะเกิดจากความโก๊ะๆเปิ่นๆของนางเอกแถมความลี้ลับที่นางเอกต้องเจอ...มันสร้างความเดือดร้อนให้เธอมากมายจนพระเอกของเราต้องคอยปกป้องนางเอกของเราอยู่ตลอด...นานวันเข้าทั้งสองก็...(คิดกันเอาเอง อิๆๆ) เรื่องราวจะเป็นอย่างไร...ติดตามกันได้ในเรื่อง เสี่ยงรักสัจอธิษฐาน.. ได้เลยนะคะ.. เนื้อหาชื่อคนหรือสถานที่ในนิยายล้วนเกิดจากจินตนาการไม่ได้มีเจตนาอ้างอิงถึงใครหรือสิ่งใดขอทำความเข้าใจ ณ ที่นี้ด้วยนะคะ
เกริ่น “คืนนั้นฉันนอนกับเค้าเพราะต้องการแค่ลูก ใครจะไปคิดว่าเค้าจะตามหาฉันจนเจอแล้วสั่งให้ฉันทำร้ายลูกในท้องตัวเองเล่า ไอ้มาเฟียบ้าฉันจะทำยังไงกับเค้าดี” “ทำให้เค้ารักแกไง” กลิ่นชวาก็แค่อยากจะมีลูกเพื่อให้พ้นการถูกแม่เลี้ยงจับตัวไปใช้หนี้เท่านั้น คืนนั้นเธอต้องการแค่ลูก ไม่ได้คิดว่าชีวิตจะพลิกผันจนได้มาอยู่ท่ามกลางมาเฟียใจดำที่ไม่อยากให้ลูกเธอเกิดมา เพื่อนเธอก็ช่างหาเป้าหมายมาให้ถูกคนเสียจริง ชีวิตวาดิมมันเต็มไปด้วยอันตรายรอบด้าน แค่เอาชีวิตตัวเองให้รอดไปวันๆ ยังยาก หากจะต้องมีจุดอ่อนให้ศัตรูทำลายเขาก็ต้องรีบกำจัด ใครจะไปคิดว่าการนอนกับผู้หญิงที่ถูกใจแค่คืนเดียวจะทำให้เขามีปัญหาตามมาจนปวดหัว ตัวอย่างบางตอน “ความเห็นแก่ตัวของคุณมันทำให้ตัวผมกำลังเดือดร้อนรู้ไหม” วาดิมสาดเสียงแข็งใส่กลิ่นชวากับเพื่อนของเธอที่เป็นต้นเหตุทำให้เขาเป็นพ่อคนโดยที่ไม่ได้ตั้งใจ “ถ้าคุณไม่มานอนกับฉันทุกอย่างมันจะเกิดขึ้นไหมล่ะ อย่ามาว่าฉันเห็นแก่ตัวอย่างเดียวเลย คุณมันก็เห็นแก่ได้เหมือนกันนั่นแหละ” กลิ่นชวายังไม่เลิกปากเก่ง เด็กคนนี้จะเกิดมาไม่ได้หากเขาไม่ร่วมกระทำกับเธอด้วย ทั้งหมดทั้งมวลมันก็ไม่ใช่ผลงานของเธอคนเดียวเสียเมื่อไหร่ “ถ้าพวกคุณไม่วางยาผมวันนั้นผมคงจะมีสติไม่หลงเชื่อคุณว่าไม่ต้องป้องกัน” กลิ่นชวาหันไปถลึงตากับเพื่อนรัก ส่วนพิริสาก็ได้แต่พยักหน้าน้อยๆ รายละเอียดความจริงเป็นเช่นไรเธอถูกบังคับให้เล่าให้หมดไปแล้วจริงๆ “ช่างเหอะน่า เด็กคนนี้ฉันรับผิดชอบเองได้คุณไม่ต้องห่วงว่าฉันจะให้ลูกไปยุ่งกับคุณหรอก พูดจริงสาบานเลย” “ผมนัดหมอเอาไว้แล้ว ผมจะพาคุณไปเอาเด็กออก” “ไม่นะ อย่าเห็นแก่ตัวสิ เด็กน้อยตาดำๆ คนนึงกำลังจะลืมตาดูโลกเลยนะ ถึงคุณไม่รักเค้าแต่ฉันรัก คนไม่มีหัวใจอย่างคุณไม่เข้าใจหรอก” วาดิมยืนจ้องตากับกลิ่นชวาอย่างไม่มีใครยอมใคร ไม่กี่วินาทีหลังจากนั้นชายหนุ่มก็คว้าปืนออกมาจากเอวและจ่อปลายกระบอกปืนสั้นไปที่หน้าท้องของหญิงสาว “อ๊าย/ว๊าย” สองสาวสวยตกใจกอดกันแน่นขึ้นกว่าเดิม แต่มิวายคนที่ไม่ค่อยจะยอมใครง่ายๆ อย่างกลิ่นชวาก็รีบตั้งสติและหันมาต่อว่าวาดิมอีกรอบ “พ่อแม่คุณรู้ไหมเนี่ยว่าคุณเป็นคนแบบนี้ เกิดเป็นลูกผู้ชายซะเปล่าไม่มีความเป็นสุภาพบุรุษเลย” แม้หัวใจจะเต้นจนแทบจะหลุดกระเด็นออกมาข้างนอกแต่กลิ่นชวาก็ยังทำใจดีสู้เสือ พูดไปจ้องตาชายหนุ่มไปไม่สะทกสะท้าน “พอเถอะว่าน” พิริสาที่กลัวจนตัวสั่นรีบปรามให้เพื่อนรักสงบปากก่อนที่จะตายกันหมด ตอนนี้พิริสารู้แล้วว่าวาดิมอยู่ระดับไหน เขาสามารถทำให้พวกเธอหายสาบสูญไปได้แค่ไม่กี่วินาที แถมใครก็เอาผิดคนอย่างเขาง่ายๆ ไม่ได้ด้วย หากย้อนเวลากลับไปได้เธอจะไม่ล็อคเขาเป็นเป้าหมายให้กลิ่นชวาเลย “จะไปไหนล่ะ ไม่ยิงฉัน...ล อื้อ” พิริสายกมือปิดปากกลิ่นชวาขณะที่เพื่อนเธอกำลังพูดตามหลังวาดิมที่กำลังเดินออกไปจากห้อง “อยากตายมากหรือไงถึงได้พูดแบบนั้นน่ะ” พิริสาในตอนนี้สั่นไปทั้งตัว “ไม่ตายหรอก อีตานั่นไม่กล้ามาทำผิดที่บ้านเมืองเราหรอก” “ไม่กล้ากับผีอะไรล่ะ รู้ไหมว่าพ่อของลูกแกเค้าเป็นใคร” “ก็แค่นักธุรกิจเพื่อนเจ้านายแกไม่ใช่หรือไง คงจะรวยพอๆ กับเจ้านายแกใช่ไหมล่ะ” “หัวหน้ามาเฟียค้าอาวุธที่รัสเซียเลยโว้ย สามารถทำให้เราหายไปโดยที่ไม่มีใครเอาผิดได้ด้วย พูดแล้วฉันก็อยากจะร้องให้ เมื่อกี้ที่แกท้าทายเค้า ฉันฉี่จะราดอยู่แล้วรู้ไหม” พูดไปปาดน้ำตาไป ไอ้ที่บอกว่าพูดแล้วอยากจะร้องให้น้ำตามันไหลมาก่อนคำพูดแล้ว “อ้าว แกหาใครมาให้ฉันเนี่ย? ไหนบอกแค่นักธุรกิจธรรมดาไง” ตัวของกลิ่นชวาชาวาบตั้งแต่ปลายเท้าขึ้นมายังใบหน้า ตอนนี้ก็กำลังรู้สึกขนหัวลุกกลืนน้ำลายไม่ลงคอ ตอนนี้เหมือนเธอกำลังขึ้นหลังเสือไปแล้วเลย จะเอายังไงกับชีวิตต่อไปดีล่ะเนี่ย เธอจะสามารถปกป้องลูกในท้องได้หรือไม่ แล้วชีวิตที่อยู่ท่ามกลางความเป็นความตายทำให้เธอต้องเจออุปสรรคอะไรบ้าง ติดตามได้ในนิยายเรื่อง One night คืนนั้นฉันต้องการแค่ลูก ได้เลยค่า... เนื้อหาในนิยายล้วนเกิดจากจินตนาการของผู้เขียน ไม่ได้มีเจตนาอ้างอิงถึงใครหรือสิ่งใด ขอทำความเข้าใจ ณ ที่นี้ด้วยนะคะ ติดตามผลงานใหม่ๆ หรือพูดคุยกับไรท์ได้ที่ FB นิยาย ปลายฟ้า หากชื่นชอบนิยายที่ไรท์เขียน ฝากกดติดตามนามปากกา ปลายฟ้า เป็นกำลังใจให้ไรท์ด้วยน้า ขอบคุณมากค่ะ
“บอกกับผมว่าฐานะเรามันต่างกันเกินไป แต่คุณก็มีผู้ชายรวยๆผลัดกันมาส่งที่หอไม่ซ้ำหน้า นี่เหรอไม่อยากคบคนรวย หรืออยากหว่านเสน่ห์เพื่อเก็บแต้ม ทำให้เค้ารักแล้วก็เฉดหัวเค้าทิ้งแบบนี้เหรอ” “หยุดดูถูกริตานะคะ ออกไปจากห้องริตาเดี๋ยวนี้” สายตาที่มองเขาเต็มไปด้วยความตื่นกลัวเพราะตอนนี้ภูตะวันไม่เหมือนผู้ชายคนเดิมที่เธอรู้จักสักนิด สายตาของเขาแข็งกร้าวทั้งคำพูดคำจายังไร้ซึ่งความเป็นสุภาพบุรุษคนเดิมที่เธอเคยรู้จัก เนื้อหาทั้งหมดเกิดจากจินตนาการของผู้เขียน ไม่ได้มีเจตนาอ้างอิงถึงใครหรือสิ่งใด ขอทำความเข้าใจ ณ ที่นี้ด้วยนะคะ คำเตือน นิยายเป็นเรื่องรักโรแมนติก ดราม่า มีเรื่องเกี่ยวกับการเสียลูกในท้อง พระเอกบังคับขู่เข็ญนางเอก แต่ไม่มีนอกกายนอกใจ หากรับเรื่องแบบนี้ได้ไปต่อกับนิยายไรท์ได้เลยค่ะ
ถ้าเขามีฝาแฝด แล้วคืนนั้นเธออยู่กับใครกันแน่? เธอกลืนน้ำลายไม่ลงคอก่อนจะก้มมองรูปลูกสาวตัวกลมที่หน้าจอมือถือ ‘แม่จะทำยังไงดี’
เขาพาเธอขึ้นไปยังจุดสูงสุดของความสุข แล้วก็ถีบเธอล่วงหล่นลงมาตกในเหว เจ็บดีจังเลย ออกไปจากชีวิตฉัน...นายสามีตัวร้าย เนื้อหาในนิยายล้วนเกิดจากจินตนาการของผู้เขียน ไม่ได้มีเจตนาอ้างอิงถึงใครหรือสิ่งใด ขอทำความเข้าใจ ณ ที่นี้ด้วยนะคะ แม้ครอบครัวจะหาใครมาให้ดูตัวทำความรู้จักไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้งเธอก็ไม่คิดที่จะตกลงปลงใจคบกับใครหากไม่เห็นความเป็นไปได้ว่าจะคบกันถึงวันแต่งงานและใช้ชีวิตไปด้วยกันได้ตลอดจริงๆ จนงานวันเกิดอายุครบ 26 ปี เธอก็ได้เจอกับใครคนนั้น คนที่เธอเห็นเพียงแวบแรกก็รู้ว่าเขาคือคนที่เธอกำลังรอ เขามีชื่อว่าดาเนียลเล นักธุรกิจหนุ่มชาวอิตาลีที่รับสืบทอดกิจการเป็นเจ้าของบริษัทผลิตรถยนต์หรูในอิตาลีแทนคนพ่อและแม่ที่เสียและกอบกุมธุรกิจอีกหลายอย่างในมือ คราแรกที่รู้ว่าเขาสนใจเธอจากปากของพี่ชายก็ดีใจจนแทบอยากจะกรีดร้องอย่างบ้าคลั่งไม่ห่วงคำว่ากุลสตรี ขอบคุณโชคชะตาที่นำพาให้เขาได้มาเป็นเพื่อนทางธุรกิจกับพี่ชายของเธอ และขอบคุณโชคชะตาที่นำพาคนที่เธอเฝ้ารอให้ได้มาพบกันเสียทีหลังจากเพื่อนฝูงต่างก็มีคู่หรือแต่งงานมีลูกกันไปแล้ว เมื่อได้พบกับนักธุรกิจหนุ่มตาน้ำข้าวแสนสุขุมได้เพียงวันเดียวเขาก็ขอเธอเป็นแฟนจากนั้นก็บินเที่ยวไปเทียวมาหาเธออยู่พักใหญ่ จนกระทั่งหลังจากนั้นไม่นานเขาก็ทำการเซอร์ไพรซ์ของเธอแต่งงานบนเครื่องบินส่วนตัว เธอตอบตกลงในทันทีเพราะก่อนหน้ารู้สึกว่าเขาและเธอช่างเข้ากันได้ดีเหลือเกิน ประกอบกับความอยากจะเป็นแม่คนเพราะเห็นเพื่อนมีลูกสาวลูกชายน่ารักน่าชังเลยอยากจะมีบ้าง ชีวิตของเธอหลังแต่งก็ได้ย้ายไปอยู่ที่อิตาลี ชีวิตความเป็นอยู่สุขสบายมีเรื่องง้องอนตามประสา และอุปสรรคที่ทำให้เธอต้องเจ็บตัวบ้าง จนกระทั่งหลังการแต่งงานผ่านพ้นไปไม่เท่าไหร่ จู่ๆ เธอก็ได้ล่วงรู้ว่าความรู้สึกโชคดีที่เจอผู้ชายดีๆ มันเป็นเรื่องจอมปลอมหมดทั้งสิ้น ความหวังที่อยากจะแต่งงานเพียงครั้งเดียวและอยู่กับสามีคนเดียวไปจนตายก็พังทลายไม่เหลือชิ้นดี ฝากนิยายเรื่อง ลวงรักสามีตัวร้ายไว้ในอ้อมใจทุกคนด้วยนะคะ
ในคืนเข้าหอ...เจ้าบ่าวของเธอเปลี่ยนไป จากคนสุภาพอ่อนโยน กลายเป็นคนดิบเถื่อนในทันตา ทว่า...เธอก็ทำใจตัดเขาออกไปจากชีวิตไม่ได้ ตัวอย่างบางตอน แควก “อ๊าย...” หลังจากหลับลงไปด้วยความเพลียที่ต้องต้อนรับแขกเหรื่อในงานแต่งมาทั้งวัน เธอหลับตาลงไปได้ไม่ถึงชั่วโมงจู่ๆ ก็มีมือของใครบางคนกำลังฉุดกระชากชุดเจ้าสาวของเธอจนขาดวิ่น ผ้าชิ้นหนาบวกกับแรงกระชากสร้างความเจ็บแสบให้เนื้อนวลนุ่มนิ่มของเธอไม่น้อยจนต้องระบายความเจ็บเป็นเสียงกรีดร้อง “อื้อ...” ยังไม่ทันที่จะได้ส่งเสียงร้องอีกครั้ง มือหนาของคนที่ขึ้นชื่อว่าเป็นสามีก็กดปิดปากของเธอเอาไว้ ดวงตากลมโตเพ่งมองไปยังชายหนุ่มที่เคยสุภาพและอ่อนโยน ทว่าตอนนี้เธอมองเขาแล้วไม่หลงเหลือความรู้สึกนั้น ดวงตาของเขาที่จ้องมองเธอแข็งกร้าวดิบเถื่อน ประดุจเสือร้ายที่กำลังจะขย้ำเหยื่อ คนที่กำลังคร่อมอยู่บนตัวของเธอคือคนที่เธอเพิ่งเข้าพิธีแต่งงานด้วยจริงๆ หรือ เนื้อหาในนิยายไม่ว่าจะเป็นชื่อคนหรือสถานที่และเหตุการณ์ต่างๆ ล้วนเกิดจากจินตนาการของผู้เขียน ไม่ได้มีเจตนาอ้างอิงถึงใครหรือสิ่งใด ขอทำความเข้าใจ ณ ที่นี้ด้วยนะคะ นิยายเรื่องนี้เป็นเรื่องแรกที่ไรท์เขียน ปี2024 หลังจากห่างหายจากการเขียนนิยายในนามปากกาปลายฟ้าร่วมหกเดือน หวังว่าผลงานชิ้นนี้ของไรท์จะทำให้นักอ่านมีความสุขทุกเวลาที่อ่านนะคะ ...ปลายฟ้ากลับมาแล้วค่า หากชื่นชอบฝากกดติดตามนามปากกา กดนิยายเพิ่มเข้าชั้นหนังสือ กดหัวใจเพื่อเป็นกำลังใจให้ไรท์ด้วยนะคะ ขอบคุณมากๆ ค่ะ สามีเถื่ิอน นี่น่าจะเถื่อนแค่ไม่กี่ตอนนะคะ อิๆ ในเรื่องนี้ส่วนมากจะหวานละมุน แล้วไปดราม่านิดหน่อยช่วงท้ายๆ แต่รวมๆ มีแต่ความหวานเสียส่วนใหญ่ค่ะ (ปล นิยายเรื่องเก่าๆ ของไรท์ที่เคยลงเอาไว้ กำลังทยอยรีไรท์นะคะ หากเจอคำผิดต้องขออภัย ไรท์กำลังเตรียมรื้ออัปเดตใหม่ทั้งหมดค่ะ)
ในระยะเวลาสองปีที่แต่งงานกัน เนี่ยเหยียนเซินจู่ๆ ก็เสนอขอหย่า เขาพูดว่า "เธอกลับมาแล้ว เราหย่ากันเถอะ คุณอยากได้อะไรบอกมาได้เลย" ชีวิตการแต่งงานสองปีสู้อีกคนที่หันหลังกลับมาไม่ได้ ตามอย่างที่คนเขาว่ากัน "คนรักเก่าแค่ร้องไห้สักหน่อย คนรักปัจจุบันก็ย่อมแพ้แน่นอน" เหยียนซีไม่ได้โวยวายอะไร เลือกที่จะตอบตกลงและเสนอเงื่อนไขว่า "ฉันต้องการรถซูเปอร์คาร์ที่แพงที่สุดของคุณ" "ได้" "วิลล่าสุดหรูชานเมือง" "ตกลง" "กำไรหลายพันล้านที่หามาในช่วงสองปีนี้ แบ่งคนละครึ่ง" "อะไรนะ"
"คุณต้องการเจ้าสาว ส่วนฉันก็ต้องการเจ้าบ่าว ทำไมเราไม่แต่งงานกันล่ะ?" ภายใต้เสียงเยาะเย้ยของทุกคน ถังเลี่ยน ซึ่งถูกคู่หมั้นของเธอทอดทิ้งในพิธีแต่งงาน กลับแต่งงานกับเจ้าบ่าวพิการข้างบ้านที่ถูกรังเกียจ ถังเลี่ยนคิดว่าอวิ๋นเซินเป็นชายหนุ่มที่น่าสงสาร และเธอสาบานว่าจะให้ความรักใคร่แก่เขาและตามใจเขาหลังแต่งงาน ใครจะรู้ว่าเขาแกล้งเป็นแบบนั้น... ก่อนแต่งงาน อวิ๋นเซินว่า "เธอต้องสนใจเงินของผมถึงยอมแต่งงานกับผม ผมจะหย่ากับเธอหลังจากที่ผมใช้ประโยชน์เธอเสร็จ" หลังแต่งงาน อวิ๋นเซินว่า "ภรรยาของผมต้องการหย่าทุกวัน แต่ผมไม่อยากหย่า ทำอย่างไรดีล่ะ"
ชูจี้ถูกเก็บไปอุปการะตั้งแต่ยังเด็ก ซึ่งถือเป็นความฝันของเด็กกำพร้าทั่วไปอย่างชูจี้ แต่ชีวิตหลังจากนั้นมันไม่ได้มีความสุขดั่งที่ชูจี้คิดฝันไว้เลย เธอต้องอดทนถูกเย้ยหยันและการทำทารุณจากแม่บุญธรรมของเธอ แต่ก็ยังโชคดีที่เธอได้รับความเมตตาจากคนใช้สูงวัยคนหนึ่งในบ้านหลังนั้น ชึ่งเป็นคนคอยดูแลและเอาใส่เธอเหมือนแม่แท้ ๆ ของเธอ จนกระทั่งคนใช้จากไปด้วยอาการป่วย ชูจี้ก็ถูกบังคับให้แต่งกับผู้ชายที่ไม่เอาการเอางานแทนลูกสาวแท้ ๆ ของพ่อแม่บุญธรรมของเธอเพื่อชดใช้ค่ารักษาพยาบาลของคนใช้ เรื่องราวจะเป็นเช่นเดียวกับซินเดอเรลล่าหรือไม่? อย่างไรก็ตาม ชายที่เธอจะแต่งงานด้วยนั้นไม่เหมือนเจ้าชายเลยสักนิดนอกจากรูปร่างหน้าตาของเขาที่สามารถเทียบเท่ากับเจ้าชายได้เท่านั้นเอง ลู่เหยี่ยนเป็นลูกชายนอกสมรสของครอบเศรษฐีครอบครัวหนึ่ง เขาใช้ชีวิตไปวันๆ (พอลอดไปด้วยค่ะ)มาโดยตลอด ที่เขาตกลงแต่งกับชูจี้ก็เพราะอยากจะทำให้ความปรารถนาสุดท้ายของแม่ของเขาสมหวังเท่านั้น แต่ในคืนวันแต่งงาน เขากลับพบว่าเจ้าสาวคนนี้มีพฤติกรรมที่ผิดกับที่เคยได้ยินได้ฟังมา โชคชะตาจะบันดาลให้พวกเขาเป็นอย่างไร และลู่เหยี่ยนจะเป็นดั่งที่เราคิดหรือไม่ สิ่งที่น่าประหลาดใจคือลู่เหยี่ยนมีหลายอย่างที่คล้ายๆ กับมหาเศรษฐีที่ใหญ่ที่สุดในเมืองนี้อย่างพิลึก สุดท้ายแล้ว ลู่เหยี่ยนจะสามารถรู้ได้หรือไม่ว่าชูจี้ คือเจ้าสาวจำเป็นที่ต้องได้แต่งงานแทนพี่สาวของเธอ การแต่งงานของพวกเขาจะเป็นจุดเริ่มต้นเรื่องราวสุดโรแมนติกหรือวิบากกรรมของชีวิต โปรด ติดตามและค้นหาชีวิตและเรื่องราวของทั้งสองคนด้วยกันเถอะ
หลังผ่าตัดนักพรตเฒ่าผู้หนึ่งนั้น นางวูบหมดสติและเสียชีวิตลงไป ลืมตาตื่นขึ้นมาอีกที ก็อยู่ในร่างของคุณหนูปัญญาอ่อนที่มีชื่อเดียวกันผู้นี้เสียแล้วทั้งยังจำอดีตชาติยามเป็นปรมาจารย์เต๋าได้อีกด้วย +++ 1 : ไล่ออกจากอารามไท่ผิงกวน แคว้นจิ้น ราชวงศ์เซวียน อารามไท่ผิงกวน “ไป ๆ อาจารย์ขับไล่พวกท่านออกจากอารามแล้ว อย่าได้มาเหยียบที่นี่อีก” “ศิษย์พี่รองรีบปิดประตูเร็วเข้า !” ตุบ ! ห่อผ้าสองห่อถูกโยนออกมาจากประตูอาราม ปัง ! ตามด้วยเสียงปิดประตูลงสลักอย่างหนาแน่น สตรีนางหนึ่งยืนตัวตรงเป็นสง่า เสื้อผ้ากับเส้นผมของนางปลิวไสวดั่งไผ่ลู่ลม หลินซือเยว่เงยหน้าขึ้นมองป้ายชื่ออารามไท่ผิงกวนด้วยสายตาเลื่อนลอย อาศัยอยู่ที่นี่มานานเท่าใดแล้วนะ บางครั้งนางเองก็ลืมเลือนวันเวลาไปเหมือนกัน “คุณหนูเจ้าคะ ศิษย์น้องทั้งสองของท่านทำเกินไปแล้วนะเจ้าคะ เหตุใดถึงไล่พวกเราสองคนออกจากอารามได้เล่า” เผิงฉือกระทืบเท้าเบา ๆ ตรงไปฉวยห่อผ้าทั้งสองบนพื้น ขึ้นมาคล้องแขนตัวเองไว้ “หากไม่ได้รับคำสั่งจากอาจารย์ ศิษย์น้องทั้งสองคงไม่กล้าขับไล่ข้าออกจากอารามหรอก” น้ำเสียงของนางสงบนิ่งฟังแล้วสบายหูยิ่งนัก หาได้มีความโกรธเกลียดแต่อย่างใด “นั่นรถม้า” นิ้วเรียวสวยชี้ไปยังรถม้าคันที่มีคนนั่งเฝ้าอยู่ “ป้าเผิงไปถามดูว่าใช่รถม้าของเราหรือไม่” เผิงฉือไม่รอช้ารีบตรงไปหาคนเฝ้ารถม้าที่อยู่ใต้ต้นไผ่ในทันที ไม่ช้านางก็กลับมาพร้อมกับรอยยิ้มนิด ๆ “เป็นรถม้าของเราจริง ๆ เจ้าคะคุณหนู คนขับบอกว่าเป็นคนของตระกูลหลินเจ้าค่ะ ได้รับคำสั่งจากท่านพ่อของคุณหนู ให้มารับคุณหนูกลับตระกูลหลินเพื่อไปแต่งงานเจ้าค่ะ” “กลับไปแต่งงานนี่เอง” นางเอ่ยเหมือนไม่ใช่เรื่องใหญ่ หันหลังกลับไปทางประตูอาราม ประสานมือค้อมตัวคำนับลาอาจารย์ เผิงฉือเห็นเช่นนั้นก็อดที่จะคำนับตามนางไม่ได้ ภายในอารามไท่ผิงกวน “อาจารย์เหตุใดถึงไม่บอกลากับศิษย์พี่ใหญ่ไปตรง ๆ ล่ะ ทำเช่นนี้นางไม่โกรธท่านไปจนวันตายเลยรึ” เหอกุ้ยแม้มีอายุยี่สิบแปดปีแล้ว ทว่าเขากราบเป็นศิษย์เจ้าอาวาสชุนหวังเหล่ยหลังสตรีผู้นั้น จึงได้เป็นเพียงแค่ศิษย์พี่รองเท่านั้น “นั่นสิอาจารย์ ศิษย์พี่ใหญ่นางไม่เคยออกจากอารามไปไหนไกล ท่านทำเช่นนี้ไม่ใช่ขับไล่นางไปสู่ความตายหรอกรึ” จางเจียเฟิ่งเห็นด้วยกับศิษย์พี่รองของเขา “ให้มันน้อย ๆ หน่อยเจ้าศิษย์โง่ทั้งสอง พวกเจ้าคิดว่าอารามไท่ผิงกวนแห่งนี้ สามารถอยู่รอดมาได้เพราะใครกัน หากไม่ใช่เพราะฝีมือของศิษย์พี่ใหญ่ของพวกเจ้า เห็นนางเงียบ ๆ แบบนั้น ความคิดนางกว้างไกลยิ่งนัก อาจารย์อย่างข้ายังเทียบนางไม่ติดด้วยซ้ำไป” เจ้าอาวาสชุนปีนี้อายุอานามปาเข้าไปหกสิบห้าปีแล้ว ทว่าร่างกายยังแข็งแรง อารามเต๋าแห่งนี้มีวิถีแบบไม่เคร่งครัด ใช้ชีวิตเยี่ยงฆราวาสผู้หนึ่ง สามารถแต่งงานมีครอบครัวได้ “อาจารย์นางอยู่ในอารามวาดยันต์กันภัยให้ชาวบ้านที่มากราบไหว้ ตั้งโต๊ะรักษาโรคภัยให้ผู้คนในตัวอำเภอฝู แต่หนนี้นางต้องกลับบ้านไปเพื่อแต่งงาน นางบริสุทธิ์ถึงเพียงนั้นมิถูกสามีจับกลืนกินจนไม่เหลือกระดูกหรอกรึ” เหอกุ้ยนึกภาพเทพเซียนผู้สูงส่งอย่างหลินซือเยว่ หากต้องร่วมเตียงกับบุรุษหยาบกระด้าง เพียงเท่านั้นเขาก็ทำใจไม่ได้จริง ๆ แทบอยากจะไปแย่งตัวศิษย์พี่ใหญ่ของตัวเองกลับคืนมา “เลิกคร่ำครวญได้แล้ว กลับไปกวาดลานอารามกับตรวจดูน้ำมันตะเกียงให้เรียบร้อย ศิษย์พี่ใหญ่ของพวกเจ้าไม่อยู่ เจ้าทั้งสองต้องรีบร่ำเรียนศึกษาหาความรู้ อารามไท่ผิงกวนจะได้เจริญรุ่งเรืองในภายภาคหน้าต่อไปได้” เจ้าอาวาสชุนทำเสียงดังใส่ลูกศิษย์ทั้งสอง “ไป ๆ ข้าจะสวดมนต์” โบกมือไล่ทั้งคู่ให้ออกจากห้องสวดมนต์ไป เจ้าอาวาสชุนรีบลุกไปปิดประตูลั่นกลอน ท่าทางลุกลี้ลุกลนจนผิดปกติ ย่องเบา ๆ ไปที่ใต้เตียงนอน ดึงหีบไม้เก่าเก็บออกมา ครั้นกดสลักเปิดออก ก็พบตั๋วเงินจำนวนสามพันตำลึงอยู่ในนั้น ตระกูลหลินที่ไม่ได้บริจาคน้ำมันตะเกียงมาหลายปี จู่ ๆ ก็ส่งตั๋วเงินมาให้ พร้อมกับขอรับคนกลับไปเพื่อแต่งงาน ช่วงนี้ชาวบ้านมาทำบุญที่อารามน้อยลง หลินซือเยว่ก็ไม่รู้ว่าเกิดอันใดขึ้นกับนาง ถึงไม่ยอมลงจากอารามไปรักษาผู้คน รายได้เลยหายหดแทบจ่ายอาหารการกิน(สุรานารี)ไม่พอ ตั๋วเงินสามพันตำลึงนี่มาได้ทันเวลาพอดี ! แครก ๆ ๆ ๆ เสียงกวาดลานหน้าอารามดังขึ้นพร้อมกับเสียงบ่นของเหอกุ้ย “ข้ารู้ว่านางเก่งเอาตัวรอดได้ ข้าเพียงไม่อยากให้นางไปก็เท่านั้น” “ศิษย์พี่รองท่านอย่าได้เสียใจไปเลย ไม่ใช่ว่ามีแต่นางที่ต้องแต่งงานมีครอบครัว ท่านเองก็เถอะที่บ้านส่งคนมารับทุกปีไม่ใช่รึ” จางเจียเฟิ่งรู้ดีว่าตนและเหอกุ้ย ถูกครอบครัวลงโทษด้วยการส่งมาอยู่ยังอารามแห่งนี้ ทว่าเพียงชั่วคราวเท่านั้น “ตัวข้านั้นไม่เป็นไรหรอก เจ้านั่นแหละศิษย์น้องสาม ข้าได้ยินว่าที่บ้านของเจ้า เพิ่งหาคู่หมั้นหมายคนใหม่ให้เจ้าอีกคนแล้วไม่ใช่รึ” สองศิษย์พี่น้องหยุดกวาดลานอาราม แล้วหันหน้าไปมองตากัน จากนั้นพวกเขาก็ถอนหายใจดัง ๆ พร้อมกัน ไม่มีศิษย์พี่ใหญ่อยู่ด้วย นับจากนี้ไปยามทำความผิดใครจะออกหน้าคอยช่วยเหลือ ยามเงินหมดใครจะให้หยิบยืม ยิ่งคิดพวกเขาก็ยิ่งไม่สบายใจเป็นอย่างมาก บนถนนมุ่งหน้าสู่เมืองหลวง รถม้าไม้ธรรมดาไม่เล็กไม่ใหญ่ ไร้ป้ายชื่อตระกูลบอกกล่าว คล้ายไม่อยากให้ผู้อื่นล่วงรู้ว่าคนที่นั่งอยู่ด้านในเป็นใคร เผิงฉือพยายามหลอกถามคนขับรถม้าอยู่หลายหน ถึงสถานการณ์ของตระกูลหลินในยามนี้ นางไม่เคยไปที่นั่นมาก่อนไม่รู้จักใครสักคน คนขับรถม้าตอบว่า เขามีหน้าที่มารับคุณหนูรองกลับบ้านเท่านั้น เรื่องอื่นนั้นเขาไม่รู้จริง ๆ “ได้ถามหรือไม่ ใช้เวลากี่วันในการเดินทาง” หลินซือเยว่เอ่ยเสียงเนิบ ๆ “ถามแล้วเจ้าค่ะ เขาบอกว่าราว ๆ สิบวันก็ถึงเมืองหลวงแล้ว” “สิบวันเชียวรึ” หลินซือเยว่มองห่อผ้าที่วางอยู่ด้านข้าง มีเพียงของใช้จำเป็นของนางไม่กี่ชิ้น พร้อมกับก้อนเงินจำนวนห้าสิบตำลึง “คงต้องแวะซื้อของในอำเภอฝูเสียก่อน” เผิงฉือรีบเปิดม่านบอกกับคนขับรถม้า แต่เขากลับทำเสียงฮึดฮัดคล้ายไม่พอใจ “เสียเวลาเดินทางเปล่า ๆ” น้ำเสียงเขากระด้างกระเดื่อง
ข้าคือวิญญาณที่มาเกิดใหม่ในร่างของอันจิ่งเถียนที่ถูกคู่หมั้นถอนหมั้นอย่างไม่ไยดี ข้ารังเกียจบุรุษผู้นี้นักแต่เขากลับมีปราณมังกรที่ข้าต้องการ ดังนั้นข้าจึงต้องพยายามยั่วยวนให้เขาตกหลุมรักให้จงได้ เรื่องย่อ ข้าเป็นวิญญาณที่มาเกิดใหม่ในร่างของอันจิ่งเถียน สตรีที่น่าสงสารที่ถูกคู่หมั้นถอนหมั้น ข้ารังเกียจบุรุษผู้นั้นนักแต่เขากลับมีสิ่งที่ข้าต้องการนั่นก็คือปราณมังกรที่จะช่วยประคองวิญญาณของข้าให้อยู่รอดปลอดภัย ดังนั้นข้าจึงต้องทุ่มเทความสามารถหาทางใกล้ชิดเขาเพื่อเอาเขามาเป็นสามี แต่ปราณมังกรผู้นี้ร้ายกาจ แสดงออกอย่างชัดเจนว่ารังเกียจข้า และไม่ยินยอมแต่งกับข้าแต่โดยดี หึ หึ ไก่อ่อนเช่นเจ้าคิดจะต่อต้านเสน่ห์อันร้ายกาจของข้าหรือ หวงเจี่ยวหลงเจ้ารู้จัก เจ้ามารยาตัวแม่อย่างข้าน้อยไปเสียแล้ว! แนะนำตัวละคร อันจิ่งเถียน เดิมทีนางเป็นเพียงวิญญาณเร่ร่อนความจำเสื่อมที่ไม่สามารถไปผุดไปเกิดได้เพราะมีห่วงผูกเอาไว้ ซึ่งนางก็ไม่รู้ว่าคือสิ่งใด กระทั่งวันหนึ่งนางได้รับรางวัลจากท่านพญายมจึงได้เกิดใหม่ในร่างของอันจิ่งเถียน สตรีที่อาภัพตายก่อนอายุไขแต่นางเป็นคนดีจึงได้ลอยขึ้นสวรรค์ไปแล้ว อันจิ่งเถียนคนใหม่ต้องตามหาว่าตนเองแท้จริงคือผู้ใด โดยต้องอาศัยปราณมังกรจากบุรุษเพื่อล่อเลี้ยงวิญญาณให้คงสภาพอยู่ในร่างนี้ให้นานที่สุด กระทั่งนางได้พบกับหวงเจี่ยวหลงอดีตคู่หมั้นของอันจิ่งเถียนที่ขอถอนหมั้นไปแล้ว อันจิ่งเถียนคนใหม่จึงพยายามยั่วยวนและใช้เล่ห์กลเพื่อให้เขาตกหลุมรักและยอมแต่งงานกับนาง แม้ว่าเขาจะปากร้ายและไม่เต็มใจก็ตาม หวงเจี่ยวหลง อดีตคู่หมั้นของอันจิ่งเถียนที่ขอถอนหมั้นกับนางเพราะชอบสตรีอื่น และเขาก็ต้องมึนงงเมื่ออันจิ่งเถียนที่เขาพบผิดแผกไปจากที่เขาได้ยินมาอย่างสิ้นเชิง นางมิใช่สตรีอ่อนหวานและเป็นคุณหนูในห้องหอ ตรงกันข้ามนางกับมารยาสาไถยยังเรียนรู้อาคมมาอย่างผิด ๆ พยายามจับเขาและใช้วิธีการอันน่ารังเกียจสารพัดเพื่อให้เขาแต่งกับนาง เขาไม่ได้ชอบนางบัดนี้ยังรังเกียจ เขาจึงไม่ยอมแต่งกับนางผู้ชั่วช้าคนนั้นเด็ดขาด ไป๋ซี วิญญาณความจำเสื่อมที่ฝากตัวรับใช้อันจิ่งเถียนเพราะนางสามารถมองเห็นเขา อีกทั้งอันจิ่งเถียนยังสัญญาว่าจะช่วยเหลือเขาเพื่อตามหาว่าตัวเขาเป็นเช่นไร ไป๋ซีจึงซื่อสัตย์และภักดีกับอันจิ่งเถียนยิ่งนัก เหรินชุน คนที่อยู่ในใจของหวงเจี่ยวหลง และยังเคยมีใจให้หวงเจี่ยวหลงอยู่ช่วงหนึ่ง เป็นบุตรสาวของผู้นำสำนักผู้บำเพ็ญเพียรที่ร่ำรวยที่สุด เป็นสำนักที่หวงเจี่ยวหลงไปร่ำเรียนและบำเพ็ํญเพียรมาตั้งแต่เด็ก นางถูกเลี้ยงดูมาอย่างตามใจและฟุ้งเฟ้อ มองไม่เห็นหัวคนอื่น แต่จริง ๆ แล้วเป็นคนจิตใจดี อ่านก่อนค่ะ นิยายเรื่องนี้เป็นแนวตลกขบขันสุขนิยม พล็อตเรื่องไม่หวือหวา เบาสบาย เนื้อหาจะเป็นแนวแฟนตาซี โลกของภูติผี เทพเซียน และเวทย์มนต์คาถา ทั้งหมดไม่ได้เกิดขึ้นจริงนะคะ ขอให้อ่านอย่างสนุกสนานคลายเครียดจ้า
อวิ๋นซือเป็นบุตรสาวของขุนนางใหญ่กับภริยาเอก นางเพียบพร้อมคู่ควรกับฐานะฮูหยินใหญ่ วัยสิบห้าหญิงสาวขึ้นเกี้ยวสีเเดงหลังใหญ่ ใช้แปดคนหามเข้าสู่ตระกูลสามี วัยสิบเจ็ดนางถือหนังสือหย่าออกจากจวนอย่างทระนง เป็นฮูหยินใหญ่เเล้วอย่างไร เมื่อในใจสามียังสู้อนุคนหนึ่งไม่ได้ด้วยซ้ำ
© 2018-now MeghaBook
บนสุด