ลูกเขยกับแม่ยายผู้หิวโหยในกามโลกีย์
ลูกเขยกับแม่ยายผู้หิวโหยในกามโลกีย์
ไอ้เปียกมันเป็นหนุ่มบ้านนอกคอกนาอายุ 25 ปี อาชีพของมันเองก็ไม่ได้แน่นอนอะไรเป็นอาชีพนับเหมางานพวกต่อเติมบ้านและซ่อมแซมโครงสร้างต่างทั้งภายในภายนอกบ้าน
เพราะว่ามันเรียนจบมาทางด้านออกแบบก่อสร้างอาคารแต่มันไม่อยากจะไปทำงานอะไรที่วุ่นวายเลยทำงานรับเหมาจ๊อปเล็กแต่ก็มีรายได้ดีไม่น้อยเลยทีเดียว
จนสามารถหาเงินเก็บได้ก้อนหนึ่งเอามาสู่ขอแล้วตกแต่งกับส่วนแฟนสาวของมันที่คบกันมาได้กว่า 2 ปีแล้ว ซึ่งแฟนมันตอนนี้ก็เป็นเมียมันแล้วเธอพึ่งอายุ 20 ปี
มันแอบคบและได้เสียกันตั้งแต่ตอนเรียนอยู่ชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายแต่ระหว่างที่คบกันไอ้เปียกมันก็แอบไปมีความสัมพันธ์สวาทกับสาวรุ่นพี่บ้างรุ่นน้า
และล่าสุดนี้ก็พึ่งมีอะไรกับสาวใหญ่เมียเจ้าของบ้านที่จ้างให้มันไปต่อเติมห้องที่บ้านพักในไร่
โดยเจ้าของบ้านที่เป็นผัวเขาต้องไปทำงานในตัวจังหวัดและบางทีก็นอนค้างอยู่ในตัวจังหวัดไม่ค่อยได้กลับบ้าน
เวลามันเข้าไปทำงานเก็บตกที่เหลือเพียงคนเดียวพวกคนอื่นก็ไปทำงานใหม่รอส่วนมันก็ต้องมาดูแลความเรียบร้อยเก็บตกส่วนที่เมียเจ้าของบ้านอยากให้ทำเพิ่มเติมอีกหน่อย
วันนั้นมันเลยขับรถเข้ามาในไร่แล้วก็เจอเมียเจ้าของบ้านเธอนั่งรออยู่เพื่อจะบอกตรงส่วนที่จะให้ทำเพิ่มเติมอีกจากนั้น
มันก็แอบมองร่องอกอวบอั๋นขนาดใหญ่ที่ปลิ้นทะลักทลายล้นคอเสื้อกว้างคว้านลึกลงมาจนอวดโชว์ร่องอกให้มันเห็นจนลำบ้องแข็งโป๊กขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัดเจน
เพราะว่าขนาดของมันก็กว่า7นิ้ว จะไม่ให้เห็นลำนูนตึงเป้ากางเกงได้อย่างไรกันเลย
จนในที่สุดเมียเจ้าของบ้านกับมันก็อดใจไม่ไหวโผผวากอดเฟ้นฟัดกันจนแน่นมันเองก็เป็นพวกชอบอะไรที่ตื่นเต้นเร้าใจอย่างนี้อยู่
แล้วจึงเอากันอย่างเมามันกว่าสองชั่วโมงอย่างถึงใจเมียเจ้าของบ้านเธอถึงกับน้ำแตกเป็นสิบๆแต่มันแค่สองทีเพราะมันเป็นพวกท่อนใหญ่โตมโหราฬเอาทนทานนานจนผู้หญิงแตกแล้วแตกอีกอย่างถึงพริกถึงขิงเธอเองถึงกับเอ่ยปากชม
จากนั้นแล้วพอมันเข้าไปเก็บงานต่ออีกวันก็ได้จัดหนักเกือบทั้งวันแทบจะไม่แรงทำงานที่เหลืออีกเพียงเล็กน้อยเลย
จนสุดท้ายก็ต้องมาทำในวันอื่นจนเสร็จแล้วเมียเจ้าของบ้านก็เอาเงินมาจ่ายค่าแรงแล้วนั่งขย่มท่อนเอ็นของมันอย่างตายอดตายอยากแล้วมันก็อุ้มแตงเดินกระแทกบ้างยกล้อเกวียนบ้างเอาขนเธอสาสมใจเป็นการล่ำลาเพราะว่าเสร็จงานเก็บตกพอดี
ถ้าเป็นความต้องการจริงๆของมันนั้นไอ้เปียกมันเป็นผู้ชายที่ชอบเอาผู้หญิงสูงวัยนั่นเองแต่มันก็ไม่ได้แสดงความต้องการที่เป็นตัวจริงของมันให้เมียมันได้รับรู้เลยแล้วไอ้เปียกเองมันเป็ผู้ชายที่เหมือนเอาอกเอาใจเมียเทคแคร์ดูแลทั้งเมียและแม่ยายของมันจนตายใจ
แต่ความเป็นจริงแล้วมันชอบผู้หญิงที่อายุมากกว่าแต่ว่าบังเอิญมาจับพลัดจับผลูได้เสียกับเมียมันก็เลยสงสารไม่อยากทิ้งไปเอาคนอื่นเลยคบกันเรื่อยมาจนกระทั่งตกแต่งกับเป็นครอบครัวแล้วก็ย้ายเข้ามาอยู่บ้านเมีนมัน
เพราะว่าเมียมันอยู่กับแม่ที่เป็นหม้ายผัวตายแค่สองคนมันจึงต้องเป็นฝ่ายย้ายเข้ามาอยู่ด้วยเอง
ในขณะเดียวกันถึงมันกับเมียมันจะเอากันอย่างถึงพริกถึงขิงไม่เว้นแต่ล่ะคืนแต่มันก็รู้สึกกระสันอยากเอากับผู้หญิงที่อายุมากกว่ามาโดยตลอดเลยที
จากนั้นแล้วพอไอ้เปียกลูกเขยตัวดีมันได้ย้ายเข้ามาในบ้านเมียมันได้ไม่ถึงเดือนก็ต้องมีเหตุให้มันเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้นได้เนื่องจากว่าคนเซ็กซ์จัดอย่างไอ้เปียกมันมีอารมณ์ทางเพศสูงพุ่งพล่านรุนแรงขึ้นๆ
เพราะว่าประมาณสัปดาห์ก่อนพอดีแม่เมียมันแกก็มีศักดิ์เป็นยายมันซึ่งแม่ยายมันพึ่งอายุเพียง 45 ปี อกเป็นผู้หญิงตัวเล็กๆ
แต่สัดส่วนเว้าโค้งทรวดทรงองค์เอวของแกมันสะบรึ้มฮึ่ม!!เต้าเป็นเต้ามีขนาดใหญ่มหึมาเกินตัวและน่าจะนมใหญ่อั้นขนาดใหญ่กระเพื่อมยวบยาบใหญ่กว่าเมีนมันด้วยซ้ำไปหุ่น
ไอ้เปียกลูกเขยตัวดีมันแอบมองร่องอกอวบอั๋นขนาดใหญ่ขาวเนียนที่ปลิ้นล้นเสื้อในของแม่ยายที่เรือนร่างแกเอ็กซ์เซ็กซี่อย่างน่าจับข่มขืนเหลือเกิน
อีกอย่างเพราะว่าแม่ยายของมันแกเป็นผิวขาวเหลืองส่วนสูงก็ราวๆ 165 เซ็นติเมตร
และน้ำหนักก็ต่าจะประมาณ 48 กิโลกรัม กว่าๆ แล้วรูปร่างสัดส่วนและหน้าตาแกจัดว่าดูดีคับผิวพรรณยังดูเต่งตึงเหมือนสาวๆ
เพราะว่าแกมักชอบตื่นขึ้นมาแต่เช้าแล้วออกไปวิ่งที่สวนสาธารณะบ้างสวนหลังบ้านบ้างแกชอบกำลังกายหรือทำนู่นนี่ตลอดเวลา
แต่ผัวแกก็คือพ่อของเมียมันตายลงไปแกก็ครองโสดเป็นแม่หม้ายทรงเครื่องที่มีหนุ่มน้อยใหญ่แวะเวียนมาขอเป็นคนดูแลแต่แกก็ไม่ได้สนใจใครเป็นพิเศษอีกเลย
แต่แกก็คุยกับทุกคนได้อย่างมีจริตจะก้านว่านเสน่ห์ตามแบบฉบับของแม่หม้ายวัยทองอย่างน่าจับข่มขืน
ในขณะเดียวกันหลายๆครั้งที่มันมีโอกาศได้อยู่ใกล้ๆกับแม่ยายวัยทองของมันไอ้เปียกมันจะมีความรู้สึกคึกคะนองตื่นตัวตลอดเวลา
โดยเฉพาะช่วยล่างของที่อยู่พิไอ้กลิ่นตัวที่ประพรมด้วยน้ำหอมกลิ่นอ่อนๆที่มันสูดดมจากร่างกายของแม่ยายจอมยั่วยวนอารมณ์ทางเพศของมันแล้วอวัยวะเพศขนาดใหญ่ของมันเกิดการทำงานอย่างอัตโนมัติผองผงาดขึ้นตับเป้ากางเกงแทบจะแตกเลยทีเดียว
ตอนนั้นไอ้เปียกมันเหลือบตาไปเห็นคอเสื้อที่ปากกว้างเว้าลึกเกือบจะครึ่งเต้าที่ขาวอวบอั๋นดันนูนล้นหลามออกมายิ่งทำให้ไปคนหื่นกามอย่างไอ้เปียกมันยิ่งมีความกำหนัดสวาทอารมณ์ทางเพศพุ่งพล่านอยากจะหาที่ระบายอารมณ์อยู่เป็นประจำ
ในขณะเดียวกันสายตาวาววับเป็นประกายของมันก็ชำเลืองตามองเรือนร่างอันอวบอั๋นเต่งตึงของแม่ยามมันอยู่บ่อยๆดูเหมือนแกเองก็ชอบที่จะเดิบโฉบไปมาแถวๆที่มันนั่งอยู่ตามลำพังจนมันแอบกลืนน้ำลายอย่างเหนียวหนึบลงคอทุกครั้งเลยทีเดียว
ถ้าวันไหนอารมณ์ทางเพศมันพุ่งพล่านมากอย่างนี้มันจะต้องหาที่ระบายอารมณ์แต่ว่าล่วงนี้เมียสาวของมันเธอก็ไม่ค่อยกลับมานอนที่บ้านเพราะว่าเป็นช่วงเข้าเวรติดต่อกันในสถานการณ์โควิด-19
มันไอ้เปียกมันก็เลยพยายามไปหาที่ปลดปล่อยอารมณ์ทางเพศกับหญิงหม้ายสาวรุ่นพี่บ้างบางทีก็บ้านพักทีามันรับเหมาผู้หญิงที่ผัวแก่ปรนเปรอไม่อิ่มแล้วมาอ๋อยเหยื่อมันให้ยัดเยียดความเป็นผัวให้มันก็ช่วยสงเคราะห์อย่างดุเดือดเลือดพล่านทุกครั้งเสมอ
ไอ้เพื่อนหื่นมันล่อทั้งเมียและแม่ยายเพื่อนสนิทอย่างรุนแรงดุเดือดเลือดพล่าน
คนเราบางครั้งก็หวนนึกขึ้นมาได้ว่าตายแล้วไปไหน ซึ่งเป็นคำถามที่ไร้คำตอบเพราะไม่มีใครสามารถมาตอบได้ว่าตายไปแล้วไปไหน หากจะรอคำตอบจากคนที่ตายไปแล้วก็ไม่เห็นมีใครมาให้คำตอบที่กระจ่างชัด ชลดา หญิงสาวที่เลยวัยสาวมามากแล้วทำงานในโรงงานทอผ้าซึ่งตอนนี้เป็นเวลาพักเบรค ชลดาและเพื่อนๆก็มานั่งเมาท์มอยซอยเก้าที่โรงอาหารอันเป็นที่ประจำสำหรับพนักงานพักผ่อน เพื่อนของชลดาที่อยู่ๆก็พูดขึ้นมาว่า "นี่พวกแกเวลาคนเราตายแล้วไปไหน" เอ๋ "ถามอะไรงี่เง่าเอ๋ ใครจะไปตอบได้วะไม่เคยตายสักหน่อย" พร "แกล่ะดารู้หรือเปล่าตายแล้วไปไหน" เอ๋ยังถามต่อ "จะไปรู้ได้ยังไง ขนาดพ่อแม่ของฉันตายไปแล้วยังไม่รู้เลยว่าพวกท่านไปอยู่ที่ไหนกัน เพราะท่านก็ไม่เคยมาบอกฉันสักคำ" "อืม เข้าใจนะแก แต่ก็อยากรู้อ่ะว่าตายแล้วคนเราจะไปไหนได้บ้าง" "อืม เอาไว้ฉันตายเมื่อไหร่ จะมาบอกนะว่าไปไหน" ชลดาตอบเพื่อนไม่จริงจังนักติดไปทางพูดเล่นเสียมากกว่า "ว๊าย ยัยดาพูดอะไร ตายเตยอะไรไม่เป็นมงคล ยัยเอ๋แกก็เลิกถามได้แล้ว บ้าไปกันใหญ่" พรหนึ่งในกลุ่มเพื่อนโวยวายขึ้นมาทันที แต่ใครจะรู้ว่าหลังจากวันนั้นที่คุยกันที่โรงอาหารจะเป็นการคุยเล่นกันวันสุดท้ายของชลดา เพราะหลังจากเลิกงานกลับมาชลดาก็เสียชีวิตระหว่างเดินทางกลับหอพักด้วยสาเหตุวัยรุ่นยกพวกตีกันและมีการยิงกันเกิดขึ้นและชลดาคือผู้โชคร้ายที่ผ่านทางมาพอดี ท่ามกลางความเสียใจของเพื่อนๆ เอ๋ได้แต่หวังว่า ชลดาคงไม่มาบอกกับเธอจริงๆหรอกใช่ไหมว่าตายแล้วไปไหน
กลางวันอ่อนหวาน กลางคืนร้อนแรง นี่คือคำที่ลู่เยียนจือใช้เพื่อบรรยายถึงเธอ แต่หานเวยบอกว่าตัวเองมีชีวิตอยู่ไม่ถึงครึ่งปี ลู่เยียนจือกลับไม่ลังเลที่จะขอหย่ากับสือเนี่ยน “แค่ปลอบใจเธอไปก่อน ครึ่งปีข้างหน้าเราค่อยแต่งงานใหม่” เขาคิดว่าสือเนี่ยนจะรออยู่ที่เดิมตลอด แต่เธอได้ตาสว่างแล้ว น้ำตาแห้งสนิท หัวใจสือเนี่ยนก็แตกสลายไปแล้วด้วย การหย่าปลอมๆ สุดท้ายกลายเป็นจริง ทำแท้งลูก เริ่มต้นชีวิตใหม่ สือเนี่ยนจากไปโดยไม่หันกลับมาอีก แต่ลู่เยียนจือกลับเสียสติ ต่อมา ได้ยินว่าคุณชายลู่ผู้มีอิทธิพลนั้นก็อยู่นิ่งๆ ต่อไปไม่ได้ ขับรถเมอร์เซเดส-เบนซ์ไล่ตามเธออย่างบ้าคลั่ง เพียงเพื่อขอให้เธอเหลือบมองเขาอีกครั้ง...
เจ้าของร่างเดิมถูกท่านย่าตัวเอง ขายให้ชายพิการด้วยเงินเพียงห้าตำลึง จึงคิดสั้นไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทำให้วิญญาณของเซี่ยซือซือทะลุมิติมาเข้าร่างแทน ชีวิตในโลกนี้บิดามารดาล้วนตายไปแล้ว เหลือเพียงน้องสาวกับน้องชายร่างกายผอมแห้งหิวโซสองคน เธอต้องช่วยพวกเขาให้รอด ก่อนจะถูกคนชั่วพวกนี้ขายทิ้งไปแบบเธอ 1 : ทะลุมิติ แคว้นจ้าว หมู่บ้านตระกูลแซ่อวี่ ภายในบ้านสกุลเซี่ย “ท่านพี่รีบกินเร็วเข้า” เสียงเด็กเล็กดังก้องอยู่ข้างหูอย่างน่ารำคาญ ว่าแต่ฉันมีน้องชายตั้งแต่เมื่อไหร่กัน รู้สึกได้ถึงอะไรแข็ง ๆ มาแตะที่ริมฝีปาก ทว่ายังลืมตาไม่ขึ้น “ท่านพี่กินสิ ๆ” เซี่ยซือซือรู้สึกหนักอึ้งไปทั้งศีรษะ พยายามที่จะเปิดดวงตาขึ้นมอง เจ้าของเสียงเล็ก ๆ ด้านข้าง “ท่านพี่ ๆ ท่านพี่อย่าตายนะ ลืมตาสิท่านพี่” “นังตัวดีออกมาเดี๋ยวนี้นะ !” เสียงเอะอะโวยวายดังหนวกหูเซี่ยซือซือเป็นอย่างมาก ปัง ๆ เสียงเคาะประตูดังขึ้นเรื่อย ๆ เซี่ยซือซือลืมตาขึ้นจนได้ พลันสมองกลับมีเรื่องราวพรั่งพรูเข้ามาไม่ขาดสาย จนต้องกรีดร้องออกมาอย่างเจ็บปวด อ๊าก ! “พี่รอง !” เด็กน้อยเซี่ยซือหยางในวัยสามหนาวเรียกพี่สาวพร้อมเบะปากอยากร้องไห้ “ท่านพี่ !” เซี่ยซานซานทิ้งบานประตูที่ตัวเองดันไว้ หันกลับมาดูพี่สาวด้วยความตกใจ “ท่านพี่ ๆ ท่านเป็นอะไร อย่าทำให้พวกข้าตกใจสิท่านพี่ !” ผลัวะ ! มีคนถีบประตูบานเก่าผุพังเข้ามาภายในห้อง เด็กทั้งสองรีบเข้าไปขวางผู้บุกรุกไม่ให้ทำร้ายพี่สาว แม่เฒ่าเซี่ย เซี่ยจิ่วเม่ย หน้าตาแลดูดุร้าย ไม่ใช่หญิงชราใจดีแต่อย่างใด ด้านหลังของแม่เฒ่าเซี่ยยังมีลูกสะใภ้บ้านใหญ่ กับบ้านรองเดินตามมา ท่าทางดุดันเอาเรื่อง “ไอ้พวกบ้านสามตัวดี กล้าลักขโมยอาหารเอาไว้กินเอง ยังเห็นแม่เฒ่าอย่างข้าอยู่ในสายตาหรือไม่ ไอ้พวกหมาป่าตาขาว ดูซิวันนี้ข้าจะจัดการพวกเจ้าอย่างไร” “ท่านย่าพวกข้าไม่ได้ขโมยนะ นี่เป็นหมั่นโถวของท่านพี่ ท่านพี่ไม่สบายข้าแค่เก็บไว้ให้ท่านพี่เท่านั้นเอง” เซี่ยซานซานยังเป็นเด็กหญิงวัยสิบหนาว แต่นางข่มความกลัวตอบโต้ผู้ใหญ่ในบ้านออกไป “หึ กฎบ้านก็มีบอกอยู่แล้วถ้าพลาดมื้ออาหารไปก็คืออด แต่พวกเจ้ากลับแหกกฎ แอบยักยอกอาหารเก็บไว้กินเอง ยังมีหน้ามาเถียงท่านแม่อีก ท่านแม่ท่านต้องลงโทษคนบ้านสามนะเจ้าคะ ไม่เช่นนั้นข้าไม่ยอมจริง ๆ ด้วย ตอนนั้นยวี่เฟยของข้านางได้พลาดมื้อเย็นไป ท่านก็ไม่ให้นางกินนะเจ้าคะ” สะใภ้บ้านรองนามว่าจงอี้ซิน ย้อนรำลึกถึงเรื่องลูกสาววัยแปดปีของตัวเองขึ้นมา “ดูเจ้าเด็กพวกนี้สิท่านแม่ กางแขนปกป้องพี่สาวตัวเอง ช่างน่าสมเพชไม่รู้จักสำเหนียกกำลังตัวเอง ถุย !” หลินพ่านเอ๋อสะใภ้บ้านใหญ่มองดูเด็กทั้งสองพร้อมถ่มน้ำลายใส่ตรงหน้า แม่เฒ่าเซี่ยมองลูกสะใภ้ทั้งสองสลับกันไปมา เดินตรงไปกระชากหมั่นโถวเย็นชืดแถมแข็งปานหิน ออกจากมือของเซี่ยซือหยาง “แง ๆ ๆ” เด็กน้อยถูกแย่งของกินของพี่สาวไป ถึงกับแผดเสียงร้องลั่น “เจ้าคนชั่ว ! เอามานะ ของท่านพี่ข้า” กำปั้นน้อย ๆ ทุบไปยังต้นขาของแม่เฒ่เซี่ย “เจ้าเด็กเนรคุณกล้าตีข้ารึ นี่นะ !” แม่เฒ่าเซี่ยเตะทีเดียวเซี่ยซือหยางก็กระเด็นไปติดกับผนังห้อง “น้องเล็ก !” เซี่ยซานซานรีบวิ่งไปอุ้มน้องชายขึ้นมากอดไว้ด้วยความตกใจ “ท่านย่า น้องเล็กยังเด็กไม่รู้ความ เหตุใดท่านถึงได้ใจร้ายเช่นนี้” “แง ๆ ๆ” เสียงร้องไห้ของเด็กน้อยฟังแล้วน่าสงสารจับใจ ดวงตาที่ปิดไว้ก่อนหน้าของเซี่ยซือซือ ลืมขึ้นหลังจากค้นพบว่า ตัวเองได้ทะลุมิติมายังอดีตอันไกลโพ้นแล้วจริง ๆ หลังจากหลับตาลืมตาอยู่หลายหน เรียบเรียงความคิดที่ไหลเข้ามาไม่ยอมหยุด เมื่อค่อย ๆ จัดการกับมันได้ ความเจ็บปวดที่ศีรษะก่อนหน้าจึงบางเบาลง และมองเหตุการณ์ตรงหน้าอย่างเฉยชา ครบสูตรของการทะลุมิติจริง ๆ มีท่านย่าผู้ชั่วร้าย ขนาบข้างด้วยป้าสะใภ้เลวทั้งสอง ครั้นหันไปมองน้องสาวในวัยสิบขวบของตัวเองกับน้องชายตัวน้อย ทั้งตัวดำเมี่ยมเหมือนไม่ได้อาบน้ำมาเป็นเดือน ร่างกายผอมแห้งเหลือแต่กระดูก เสื้อผ้าเก่าขาดมีรอยปะชุนเต็มไปหมด เส้นผมแห้งกรังเหมือนไม่ผ่านน้ำมานาน ยกมือของตัวเองขึ้นมาดู ไม่ได้มีสภาพต่างกันแม้แต่น้อย ครั้นเงยหน้ามองป้าสะใภ้ใหญ่ร่างกายอวบอ้วนเต็มไปด้วยก้อนไขมัน ป้าสะใภ้รองแม้ไม่ได้อ้วนแต่ก็ไม่ได้ผอม ยิ่งแม่เฒ่าเซี่ยด้วยแล้ว ร่างกายบึกบึนเหมือนคนกินดูอยู่ดีมาตลอด “ท่านแม่ดูอาซือมองท่านสิเจ้าคะ” สะใภ้ใหญ่เห็นสายตาเย็นเยียบของคนที่นอนอยู่บนเตียงก็อดแปลกใจไม่ได้ ดูเยือกเย็นจนไม่น่าไว้ใจ “เจ้าอย่าคิดว่ากระโดดน้ำตายแล้วทุกอย่างจะจบนะอาซือ ข้ารับเงินคนบ้านถานมาแล้ว ถ้าเจ้าตายข้าจะให้อาซานไปแทนเจ้า” คำพูดของแม่เฒ่าเซี่ยทำให้ดวงตาของเซี่ยซือซือเบิกกว้าง ท่านย่าของนางขายนางให้คนบ้านถานในราคาแค่ห้าตำลึง เจ้าของร่างเดิมไม่อยากไปเป็นเมียคนพิการ เลยไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทว่าเธอที่มาจากยุคปัจจุบันกลับเข้ามาแทนที่เจ้าของร่างนี้ เจ้าของร่างเดิมว่ายน้ำไม่เป็น จึงได้ขาดอากาศตายใต้น้ำ แต่เธอที่เข้ามาสวมร่างกลับพาร่างนี้ขึ้นมาจากน้ำได้ โชคชะตาคงเล่นตลกให้เธอกับเจ้าของร่างเดิมมีชื่อเดียวกัน “ท่านย่าอาซานยังเด็กนัก ท่านอย่าได้ทำเช่นนั้นเลย” นานมากกว่าที่นางจะเอ่ยออกมา “มันอยู่ที่เจ้าอาซือ ข้าขอเตือนเอาไว้ อีกสองวันคนบ้านถานจะมารับตัวเจ้าแล้ว อย่าให้เกิดเรื่องขึ้น ไม่อย่างนั้นข้าจะส่งอาซานไปแทนเจ้า แล้วขายซือหยางทิ้งเสีย” แม่เฒ่าเซี่ยจ้องหน้าเซี่ยซือซือแบบอาฆาต เด็กนี่ก่อนหน้าดูอ่อนแอไร้ทางสู้ ทำไมวันนี้ถึงได้ดูแปลกตาไปนัก “ท่านแม่เจ้าคะ ท่านจะลงโทษคนบ้านสามเรื่องหมั่นโถวนี่อย่างไรเจ้าคะ” สะใภ้ใหญ่ยังไม่ยอมปล่อยสามพี่น้องไปง่าย ๆ “พรุ่งนี้งดอาหารบ้านสาม” แม่เฒ่าเซี่ยเอ่ยแล้วหันหลังเดินออกจากห้องของเด็กน้อยทั้งสามไป โดยมีสะใภ้ใหญ่เดินตามไปด้วย “พวกเจ้าได้ยินแล้วใช่ไหม จำใส่หัวเอาไว้ดี ๆ ด้วยล่ะ” สะใภ้รองหมุนตัวตามหลังไปติด ๆ “ท่านพี่ต่อไปท่านอย่าทำเช่นนี้อีกนะเจ้าคะ ข้ากับน้องเล็กจะทำอย่างไร ถ้าท่านไม่อยู่” เซี่ยซานซานปล่อยเสียงร้องไห้ในทันที
หลังจากที่แต่งงานเข้ามาในตระกูลมู่ หลินซีได้ทำหน้าที่เป็นคุณนายมู่ที่ยอมอดทนกับทุกอย่างโดยไม่ปริปากเป็นเวลาสามปี เธอรักมู่จิ่วเซียว จึงยอมอดทนดูแลเขาอย่างเต็มใจ แม้ว่าเขาจะมีคนอื่นอยู่ข้างนอกก็ตามแต่เขากลับไม่เคยเห็นค่าของเธอ เหยียบย่ำความรักของเธอให้แหลกสลาย และถึงขั้นปล่อยให้น้องสาวของเขามอมเหล้าเธอแล้วส่งไปยังเตียงของลูกค้า หลินซีนั้นถึงเพิ่งจะตาสว่างเมื่อรู้ว่าความรักที่มีมานานนั้นช่างน่าขันและน่าเศร้าในใจของเขา เธอไม่ต่างอะไรกับผู้หญิงคนอื่นๆ ที่เข้ามาเกาะเขา เธอจึงทิ้งข้อตกลงการหย่าไว้แล้วจากไปโดยไม่ลังเล มู่จิ่วเซียวมองดูเธอประสบความสำเร็จ กลายเป็นดวงดาวที่ส่องแสงในสายตาของผู้คนเมื่อได้เจอกันอีกครั้ง เธอเต็มไปด้วยความมั่นใจและสงบเสงี่ยม โดยมีผู้ชายที่มีฐานะสูงส่งอยู่เคียงข้าง มู่จิ่วเซียวมองดูใบหน้าของคู่แข่งหัวใจที่ดูคล้ายกับของเขามาก จากนั้นเขาก็ตระหนักได้ว่าในสายตาเธอ เขาเป็นเพียงตัวแทนของคนอื่นในมุมแห่งหนึ่ง เขาขวางทางเธอไว้ “หลินซี คุณเล่นตลกกับผมใช่ไหม”
เมื่อผู้หญิงที่เพื่อนๆ ตั้งสมญานามว่าแม่ชีอย่างเธอจับพลัดจับผลูต้องมาเจอกับผู้ชายหน้านิ่งที่เอะอะกอด เอะอะจูบอย่างเขา อา…แล้วพ่อคุณก็ดันเป็นโรคนอนไม่หลับ จะต้องนอนกอดเธอเท่านั้นด้วย แบบนี้เธอจะเอาตัวรอดได้ยังไงล่ะ “ชอบอาหารเหนือไหม” “ชอบมากเลยคุณ ให้กินทุกวันยังได้เลย” “มากพอจะอยู่ที่นี่ไหม” “แค่กๆๆ” …………… …………………………………………………………………………………………………………………………. “คุณ! เอากระบอกไฟฉายออกไปวางที่อื่นก่อนได้ไหม มันดันหลังฉัน ฉันนอนไม่หลับ” คนที่ใกล้จะหลับบอกเสียงอู้อี้ “เอ้อ! ไม่มีนี่” เขาบอกเสียงอึกอัก “มันจะไม่มีได้ไง ก็มันดันหลังฉันอยู่เนี่ย” เธอมั่นใจว่ามีแน่ๆ ก็หลักฐานมันทนโท่ขนาดนี้ “อืม! นอนเถอะ ไม่มีหรอก” “จะไม่มีได้ไง ก็นี่ไง” คุณเธอยืนยันด้วยการคว้าหมับเข้าให้ พร้อมหันกลับมา หวังงัดหลักฐานที่อยู่ในมือมาพิสูจน์ให้ได้เห็นกันจะๆ คาตา แต่… ตึก ตึก ตึก อา…! ดูเหมือนจะไม่ใช่แค่คาตา แต่ยังคามือเธอด้วย เธออ้าปากตาค้างราวกับกำลังตกตะลึงสุดขีด ก่อนจะก้มมองไอ้ที่คิดว่าเป็นกระบอกไฟฉายในมือสลับกับเงยหน้ามองเขา จากนั้นก็… “กรี๊ด…!” เธอร้องลั่นพร้อมกับยื่นเท้าถีบออกไปสุดแรง ตุบ! คนไม่ทันตั้งตัวร่วงตุ้บลงไปบนพื้น ครั้นพอจะลุกขึ้น คุณเธอก็ตะโกนเสียงดังลั่นขึ้นมาอีก “หยุดอยู่ตรงนั้นเลยนะไอ้คนลามก คนเลว คุณมันทุเรศที่สุด คุณให้ฉันจับไอ้นั่นของคุณ มัน…อี๋…! เธอพูดพลางทำท่าขยะแขยง แล้วมาส่องกระบอกไฟฉายพ่อเลี้ยงพร้อมกันนะคะ
ซ่งจิ่งถังรักฮั่วอวิ๋นเซินอย่างลึกซึ้งนานถึงสิบห้าปี แต่ในวันที่เธอคลอดลูกกลับตกอยู่ในอาการโคม่า ขณะที่ฮั่วอวิ๋นเซินกระซิบข้างหูเธออย่างอ่อนโยนว่า "ถังถัง อย่าฟื้นขึ้นมาอีกเลย สำหรับฉัน เธอไม่มีค่าอะไรอีกแล้ว" ซ่งจิ่งถังเคยคิดว่าสามีของเธอเป็นคนอ่อนโยนและรักใคร่ตัวเอง แต่จริงๆ แล้วเขามีแต่ความเกลียดชังและใช้ประโยชน์จากเธอเท่านั้น และลูกๆ ที่เธอเสี่ยงชีวิตให้กำเนิด กลับเรียกหญิงสาวคนอื่นว่า 'แม่' ด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนต่อหน้าที่เตียงคนไข้ของเธอ เมื่อซ่งจิ่งถังฟื้นขึ้นมา สิ่งแรกที่เธอทำคือการตัดสินใจหย่าขาดอย่างเด็ดขาด! แต่หลังจากหย่าแล้ว ฮั่วอวิ๋นเซินจึงเริ่มตระหนักว่า ชีวิตที่ผ่านมาของเขาเต็มไปด้วยเงาของซ่งจิ่งถัง หญิงคนนี้กลายเป็นความเคยชินของเขา เมื่อพบกันอีกครั้ง ซ่งจิ่งถังปรากฏตัวในที่ประชุมในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ เธอเปล่งประกายจนทุกคนต้องหันมามอง หญิงคนนี้ที่เคยมีแต่เขาในใจ บัดนี้กลับไม่แม้แต่จะมองเขาอีก ฮั่วอวิ๋นเซินคิดว่าเธอแค่ยังโกรธอยู่ ถ้าเขาเอ่ยปากพูดนิดหน่อย ซ่งจิ่งถังจะต้องกลับไปหาเขาแน่นอน เพราะเธอรักเขาหมดหัวใจ แต่ต่อมา ในงานหมั้นของผู้นำคนใหม่ของตระกูลเพ่ย เขาเห็นซ่งจิ่งถังสวมชุดแต่งงานหรูหรา ยิ้มอย่างเปี่ยมสุขและกอดแน่นเพ่ยตู้พร้อมสายตาที่เต็มไปด้วยความรักใคร่ ฮั่วอวิ๋นเซินอิจฉาจนแทบคลั่ง เขาตาแดงก่ำและบีบแก้วจนแตก เลือดไหลไม่หยุด...
© 2018-now MeghaBook
บนสุด
GOOGLE PLAY