ดาวน์โหลดแอป ฮิต

อัญญาณี

หนังสือที่ตีพิมพ์ 53 เล่ม

หนังสือและนิยายทั้งหมดของอัญญาณี

ดอกไม้ในมือมาร

ดอกไม้ในมือมาร

5.0

เพียงแค่ได้เห็นใบหน้าสวย สรีระหน้าฟัดของ พลอยพัตรา ทำให้ เฟอเดอริค มอโร อยากจะคว้าตัวเธอมาเป็นดอกไม้บนเตียงของเขาทันที คนเจ้าเล่ห์และเจ้าบุญทุ่มอย่างเขาจึงทำทุกอย่างที่จะได้ดอกไม้ดอกนี้มาเชยชม

อ่านเลย
รุ้งเคียงตะวัน

รุ้งเคียงตะวัน

5.0

"ฮือๆ .. ทำไมทำอย่างนี้กับรุ้ง ทำไมต้องเป็นเดียร์ ทำไม?" ความรู้สึกเสียงใจของหทัยชนกจะน้อยกว่านี้ หากคนที่เป็นภรรยาน้อยของสามีไม่ใช่เกวลิน...เพื่อนรักของเธอ

อ่านเลย
สวาทรัก อสูรร้าย

สวาทรัก อสูรร้าย

5.0

"คนอย่างเธอความเจ็บปวดแค่นี้มันยังน้อยเกินไป เธอต้องเจ็บเหมือนกับที่มินามิเจ็บ และต้องเจ็บยิ่งกว่าหลายร้อยเท่า ฉันจะทำให้เธอตายอย่างช้าๆ แต่ทุกข์ทรมานแสนสาหัส เธอจะไม่ได้ยินหรือสัมผัสกับความอ่อนโยนเมตตาจากฉัน สิ่งที่ฉันจะมอบให้เธอมีเพียงความเกลียดชังเท่านั้น จำใส่กะโหลกไว้" เรียวเหวี่ยงร่างงามไปที่เตียงนอนอย่างแรง มือหนาจับที่ข้อเท้าของเธอไว้แน่นเมื่อรู้ว่าเธอกำลังกระเถิบตัวหนี "หนีสิ หนีเลย ถ้าเธอหนี คนที่ตายเป็นคนแรกคือแม่ของเธอ ฉันจะให้แม่เธอตายเหมือนหมูเหมือนหมาข้างถนน เหมือนกับที่เธอฆ่าแม่ของฉัน" ดวงตาเขาเปล่งแสงแรงกล้าของความอาฆาต เมื่อนึกถึงข้อนี้อยากจะฆ่าหญิงสาวตรงหน้าให้ตายตามมารดาและคนที่เขารัก แต่ความตายอาจจะไม่ทำให้เขาสะใจ นอกจากกระกระทำต่อไปนี้ที่สะใจเขามากที่สุด ทรรศิกาหยุดดิ้นรนขัดขืน เขาจึงปล่อยข้อเท้าของเธอให้เป็นอิสระ จัดการปลดเปลื้องเสื้อผ้าต่อหน้าเธอ ความกลัวเริ่มเกาะกินจิตใจของเธอมากขึ้นเรื่อยๆ อยากจะวิ่งหนีออกไปจากที่นี่ แต่เมื่อนึกถึงมารดา ทำให้เธอก้มหน้ารับชะตากรรมที่กำลังจะเกิดขึ้น เรื่องที่คุณน่าจะสน

อ่านเลย
ชิงรัก

ชิงรัก

5.0

ความอิจฉาน้องสาวต่างมารดาคือจุดเริ่มต้นของแผนการ “ชิงไอศูรย์” มาเป็นของตน เธอจึงใช้เล่ห์เหลี่ยมง่ายๆ คือวางยานอนหลับเขา พอตื่นขึ้นมาก็จะติ๋งต่างว่า เขากับเธอมีอะไรกัน ทว่าแผนเกิดผิดพลาด ยาที่ผสมในไวน์กลับเป็นยาปลุกเซ็กซ์ ผลที่ออกมาคือ ไอศูรย์มีความสัมพันธ์ทางกายกับเธอจริงๆ ในที่สุด ชเนตตีได้แต่งงานกับเขาตามตั้งใจ ทว่าผลที่ออกมา ไม่ได้เป็นไปตามที่คิดไว้ “เนยใส่อะไรในแก้วไวน์ของพี่ใช่ไหม ไม่อย่างนั้นพี่จะไม่มีวันอยู่ในสภาพแบบนี้” เขาถามอีกครั้งเมื่อเห็นอีกฝ่ายเงียบ เสียงที่ถามเข้มห้วน ใบหน้ายังคงเรียบตึง สายตาถมึงทึงใส่ร่างอวบที่ย่นคอหนีน้ำเสียงแผดกร้าว “ตอบพี่มา” “ใส่อะไร เนยไม่รู้เรื่อง…ฮือ…พี่เจย์ทำผิดแล้วอย่ามาโทษว่าเนยวางยาพี่นะ…ฮือ” เธอยังคงปากแข็งต่อไป หลบสายตาแข็งกร้าวพัลวัน

อ่านเลย
ลิขิตรักพญามาร

ลิขิตรักพญามาร

5.0

“ว้าย!!..” เธอร้องได้เพียงเท่านั้น ก่อนที่ปากของหยาดน้ำค้างจะถูกมือใหญ่ของใครบางคนปิดเอาไว้ ลำแขนอีกข้างรัดร่างน้อยไว้แน่น ก่อนจะลากไปที่พุ่มไม้รกข้างทาง “อย่าดิ้น อย่าร้อง ไม่งั้นจะจับปล้ำมันตรงนี้แหละ” เสียงที่พูดชิดเรียวหูสะอาด ทำให้เธอรู้ว่าเจ้าของเสียงนั้นคือใคร..เหมันต์ วิเศษเดโช เขาดันร่างเล็กให้แผ่นหลังแนบชิดกับต้นไม้ใหญ่ขนาดสี่คนโอบ ใช้ลำแขนกักร่างบางเอาไว้ “ปล่อยนะ” หญิงสาวพูดเสียงเบาทว่าหนักแน่น เธอไม่กล้าพูดเสียงดังมาก เพราะกลัวว่าคนที่เดินผ่านไปผ่านมาจะได้ยิน “ไปกล่อมพ่อหรือกล่อมลูกมาล่ะ ถึงได้อ้อยอิ่งเป็นชั่วโมงแบบนี้” น้ำเสียงของเหมันต์เขียวเหมือนกับใบหน้าที่เขียวคล้ำด้วยความโกรธ “มันเรื่องของฉัน..คุณไม่เกี่ยว..เราไม่มีอะไรต่อกันแล้ว คุณก็ได้ในสิ่งที่คุณต้องการแล้วนี่ จะมาเอาอะไรกับฉันอีก ปล่อยนะ ฉันจะกลับที่พัก” หยาดน้ำค้างพยายามดิ้นรนหนีพันธนาการที่รัดร่างอยู่ แต่ทว่าลำแขนของเขานั้นหาได้คลายออกไม่ ยิ่งรัดแน่นมากกว่าเก่า เมื่อได้ยินวลีของเธอ “ทำไมผมจะไม่เกี่ยว ในเมื่อน้ำค้างเป็นเมียของผม..เป็นเมีย หรือว่าจำไม่ได้ว่าเราสองคนมีความสุขกันมากแค่ไหน” เขาเท้าความหนหลังให้เธอได้ฟัง ฝ่ายหญิงนิ่งเงียบกับคำพูดของเขา เธอไม่เถียงว่ามีความสุขมากแค่ไหนเวลาได้อยู่ใกล้ชิดกับเรือนกายที่แสนแข็งแรงและอบอุ่น หากแต่ความทุกข์และความเสียใจที่เธอได้รับนั้นมันก็มากมายเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นความสุขหรือว่าความทุกข์ เธอก็ไม่มีวันลืมเช่นกัน และไม่มีทางจะกลับไปจมกับความทุกข์อีกแล้ว “ฉันไม่ใช่เมียคุณ..ถ้าคุณคิดว่าการที่เรามีอะไรกันแล้วฉันจะเป็นเมียคุณ พี่ว่านก็ต้องเป็นสามีของฉันเหมือนกัน” หยาดน้ำค้างคิดว่าวิธีนี้เป็นวิธีที่ดีที่สุด วิธีที่เขาไม่มีทางมายุ่งเกี่ยวกับเธออีก อ้อมแขนที่รัดร่างนิ่มคลายออกโดยอัตโนมัติ หัวใจของคนที่ฟังเต้นเร็ว ดวงตาคมเข้มสีดำเรืองแสงในความมืดที่โรยตัวไปทั่วบริเวณ บ่งบอกอะไรหลายอย่างในแววตา เสียใจ ไม่คาดฝัน ไม่แน่ใจ

อ่านเลย
สะใภ้สุดขั้ว แม่ผัวสุดขอบ

สะใภ้สุดขั้ว แม่ผัวสุดขอบ

5.0

จะกี่หมัดก็ไม่หวั่น กี่ยกก็ไม่กลัว เธอจะ Knock Out ด้วยหัวใจติดปลายนวม ภัทรียายินดีสานต่อค่ายมวยและรับผิดชอบหนี้สินรุงรังต่อจากพ่อซึ่งเสียชีวิต แต่ ณ วันนี้หนี้สินสามปีที่ผัดผ่อนมาตลอดทำให้เธอมืดแปดด้าน ไม่ว่าความหวังแสนริบหรี่แค่ไหน เธอก็คว้าไว้อย่างไม่รอช้า ไม่เว้นแม้แต่การเป็นภรรยาหลอกๆ ต่อให้ต้องโดนแม่สามีดูถูกทุกขณะ น้องสาวสามีจ้องเหยียดชาติกำเนิดทุกครั้งที่เจอหน้า ภัทรียาก็ไม่หวั่นเกรงแม้แต่น้อย เพราะเธอคือ... ‘มะปราง ลูกจ่าดาบ ศิษย์จอมทอง’ นักมวยสาวหุ่นกระชากใจหนุ่มๆ หากไม่เพราะกำลังจะถูกแม่จับคลุมถุงชน ธัชธรรมจึงต้องเลือกใช้วิธีสิ้นคิด จ้างนักมวยสาวหมัดหนักที่กำลังร้อนเงินมาเป็นภรรยากำมะลอ จดทะเบียนจริง อยู่ด้วยกันจริง...และทำท่าว่าจะต้องอยู่ด้วยกันอีกนาน รออีกอย่างเดียวเท่านั้น... รอให้สะใภ้กำมะลอยอมเป็นภรรยาตัวจริงของเศรษฐีหนุ่มหล่อ

อ่านเลย
พิศวาสทาสเสน่หา

พิศวาสทาสเสน่หา

5.0

“บ้าอำนาจชะมัด” หญิงสาวแอบบ่น กระแทกตัวลงนั่งริมสุดของขอบโซฟา ทิ้งระยะห่างจากเขาให้มากที่สุด “นี่แม่คุณ มานั่งใกล้หน่อยสิ นั่งไกลอย่างนั้นแล้วจะบริการฉันได้ยังไง ไม่เห็นเหรออาหารหมดถ้วยแล้ว” ถ้ารู้มาก่อนว่าคนที่จองห้องวีไอพีคือเขาคนนี้ เธอไม่ยอมเป็นพนักงานเสิร์ฟจำเป็นแน่นอน หญิงสาวเขยิบร่างกายเข้ามาอีกนิด ตักอาหารใส่ถ้วย ก่อนจะวางไว้ตรงหน้าเขาเหมือนเดิม “ป้อนด้วยสิ” เขาพูดอย่างอารมณ์ดี “ดิฉันมีหน้าที่คอยให้บริการอำนวยความสะดวกให้กับคุณ ตามที่เห็นสมควรนะคะ การป้อนอาหารเป็นนอกหน้าที่ของดิฉัน” สร้อยระย้าพูดด้วยน้ำเสียงค่อนข้างเข้ม จ้องมองอีกฝ่ายอย่างไม่พอใจ ชายหนุ่มกระตุกยิ้มกับท่าทีแสนพยศของเธอ ขยับร่างกายเข้ามาประชิดร่างบางอย่างรวดเร็ว โดยที่หญิงสาวไม่ทันตั้งตัว “ว้าย!!..ปล่อยนะ” หญิงสาวร้องเสียงหลง ผลักร่างหนาให้ออกห่าง แกะมือใหญ่ที่รัดเอวของเธอไว้แน่น แต่ยิ่งพยายามเอวของเธอก็ต้องถูกรัดแน่นมากยิ่งขึ้น ไม่เพียงเท่านั้นร่างงามลอยขึ้นเหนือเบาะ เนื่องจากเขาอุ้มร่างของเธอมานั่งบนตัก “พยศนักนะ” ไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนกล้าปฏิเสธเขามาก่อน เห็นจะมีเพียงผู้หญิงกลิ่นกายเย้ายวนใจคนนี้ ยิ่งชิดใกล้เลือดในกายของเขาเดือดพล่าน ความต้องการปะทุขึ้นมาทันที เรียวปากใหญ่ปิดสนิทปากนุ่มที่กำลังจะอ้าปากต่อว่า ทำให้เขาสอดแทรกลิ้นร้อนชื้นเข้าไปภายในโพรงปากอย่างง่ายดาย เรียวลิ้นหนาตวัดพัดโบกกับลิ้นนุ่มที่ตื่นกลัวทำอะไรไม่ถูก เนื่องจากจูบนี้เป็นจูบแรกของชีวิตสาว สมองของเธอนั้นเริ่มมีกลุ่มหมอกควันสีขาวเข้ามาปกคลุม ความว่างเปล่ากำลังเข้ามาแทนที่ ไม่มีสตินึกคิด ความหวานนุ่มชวนหอมหวานที่เขาได้สัมผัส กระตุ้นความเป็นชายของเขาให้ตื่นจากการหลับใหล เสียงครางที่ดังทักท้วงในลำคอสาว เสมือนยากระตุ้นให้ความดันโลหิตของเขาเสียดทานกับความต้องการทางเพศ ร้อนรุ่มไปทั้งกาย มือใหญ่ลูบแผ่นหลังบางไปมา ก่อนจะวกมากอบกุมทรวงอกขนาดพอเหมาะกับฝ่ามือของเขา ไม่ใหญ่มากเกินไปจนล้นมือและไม่เล็กจนเสียอารมณ์

อ่านเลย
รักร้อนเพลิงพิศวาส

รักร้อนเพลิงพิศวาส

5.0

“ไม่นะ อย่านะ ฉันไม่ได้ตั้งใจ ไม่ได้ตั้งใจจริงๆ คุณได้พระคืนไปแล้วนี่ ปล่อยฉันไปเถอะ ฮือ...อย่าทำอะไรฉันเลย อย่าทำฉันเลย” หมอนวดสาวยังคงอ้อนวอนไม่หยุด มีหรือที่รัฐภูมิจะใจอ่อน เมตตาสาวตรงหน้าง่ายๆ เขาปล่อยเธอแน่ แต่ไม่ใช่ตอนนี้และเวลานี้ สิบแปดมงกุฎอย่างจันยาวีร์ต้องเจอคนอย่างเขา ร้ายมาร้ายกลับและเพิ่มความร้ายมากเป็นร้อยเท่า เท้าเล็กพยายามถีบ กระแทกไปที่ร่างหนาดูเหมือนว่าจะถีบลมมากกว่า มันไม่ช่วยอะไรเลยจริงๆ เพราะตอนนี้เขาขึ้นมานั่งคร่อมร่างเธออีกครั้งหนึ่งแล้ว “ยานี้จะทำให้ร้อนรุ่มอย่างมากมาย เลือดในกายเธอจะสูบฉีดจนเธอกระสับกระส่าย กระหายไปด้วยความใคร่แบบสุดๆ เธออยากจนแทบจะถ่างขารอให้ผู้ชายมากระทุ้ง ขอให้มีความสุขกับความร่านที่กำลังจะเกิดขึ้นกับเธอนะ ยาออกฤทธิ์เต็มที่เมื่อไหร่ ฉันจะมาสนองตอบความอยากให้เธอเอง รับรองถึงอกถึงใจไปสามโลก หมอนวดอย่างเธอคงผ่านศึกมาไม่ใช่น้อย คงมีวิธีบังคับความร่านของตัวเองนะ ฉันขอตัวไปอาบน้ำก่อน แล้วเจอกันนะแป้ง” จันยาวีร์เม้มปากเป็นเส้นตรงแน่น เพื่อไม่ให้เขานำยานั้นใส่เข้าไปในปากของเธอ ทว่ามันไม่ใช่เรื่องยากสำหรับเขาเลยที่จะทำให้ปากของเธอเปิดอ้าออก เพียงแค่รัฐภูมิใช้ฝ่ามือบีบไปบนแก้มของเธอทั้งซ้ายขวาอย่างแรง หญิงสาวระบมปวดแก้มไปหมด แรงบีบที่มากมายทำให้ปากที่เม้มค่อยๆ คลายตัวออก จนในที่สุดปากของเธอก็อ้าออก ชายหนุ่มหน้าดุรีบใส่ยาปลุกเซ็กส์เข้าไปในช่องปากสาวบังคับให้เธอกลืนมันลงไปด้วยการนำฝ่ามือใหญ่มาปิดทับที่ริมฝีปาก ยาที่อยู่ในปากไม่ได้ถูกกลืนลงไปในลำคอ แต่มันละลายเมื่อสัมผัสโดนความชื้นของน้ำลายที่อยู่ภายใน ความขมของเม็ดยาที่เริ่มละลายในปาก ทำให้สาวเจ้าร้องไห้ออกมาทันที คิดในใจว่าเธอจะต่อต้านยาประเภทนี้ได้อย่างไร รัฐภูมิกระตุกยิ้มอย่างพอใจ ขยับร่างกายลงมายืนอยู่ริมเตียง มองดูร่างสาวที่ร้องไห้ตัวโยนด้วยความสะใจ เจอแค่นี้มันยังน้อยไป ริอาจเข้ามากระตุกหนวดเสือถึงที่ ไม่ถูกเสือขย้ำกินก็คงเป็นไม่ได้ เสืออย่างเขาฆ่าได้หยามไม่ได้อยู่แล้ว เขาหมุนตัวก่อนจะขยับร่างกายเดินไปยังห้องน้ำ อาบน้ำอย่างสบายใจ ผิวปากอย่างอารมณ์ดี ยาเซ็กส์ชนิดนี้เขาซื้อมาจากตลาดมืดแห่งหนึ่งในประเทศฝรั่งเศส เป็นยาปลุกเซ็กส์ชนิดใหม่ล่าสุดที่กำลังเป็นที่นิยมในขณะนี้ สาเหตุที่เขาซื้อยาชนิดนี้มาไม่ใช่ว่าเขาจะใช้เอง พันกรเพื่อนสนิทของเขาเป็นคนฝากซื้อ เพื่อจะนำไปให้พี่เขยที่มีอาการนกเขาไม่ขัน ต้องพึ่งยาปลุกเซ็กส์ขณะที่ดำเนินกิจกรรมทางเพศ ห้านาทีต่อมาหลังจากที่ยาปลุกเซ็กส์เริ่มละลายในปากและตัวยาไหลเข้าไปในลำคอสาว อาการแปลกๆ ก็เกิดขึ้นกับจันยาวีร์ คลื่นความร้อนบางอย่างแผ่กระจายไปทั่วร่างกายของเธอ แทรกลึกไหลซึมเข้าไปตามเซลล์ต่างๆ เม็ดเลือด ลุกลามลึกเข้าไปถึงกระแสเลือดที่เร่งสูบฉีดด้วยอัตราที่เร็วกว่าปกติ จันยาวีร์รู้สึกครั่นเนื้อครั่นตัว ความร้อนที่ได้รับทำให้เธอต้องการที่จะถอดเสื้อผ้าออก ความปรารถนาทางอารมณ์ที่เธอไม่เคยรู้จักมาก่อนกำลังกระจายอาบไปทั่วร่าง ความเป็นอิสตรีเพศกระตุกและเต้นเร่าอยู่ตลอดเวลา เธอมีความรู้สึกว่าต้องการร่วมเพศกับผู้ชายสักคน เพื่อมาบำบัดอาการที่เป็นอยู่นี้ให้ดีขึ้น ต้องการให้เขานำปาก ลิ้นประโลมจูบไปทั่วร่างสาว และต้องการฝ่ามือของเขาลูบไล้นวดเฟ้นไปตามผิวกายของเธอ และความปรารถนามากที่สุดก็คือ ต้องการให้เขาฝังกายลึกเข้าไปในกลีบสาว ขยับเขยื้อนกายด้วยความรุนแรง กระแทกกระทั้นให้ถึงอกถึงใจ

อ่านเลย
อุ้งมือพิศวาสซาตาน

อุ้งมือพิศวาสซาตาน

5.0

“ฉันเอง จะตกใจอะไรหนักหนา ไม่มีใครเข้ามาในห้องนี้ได้นอกจากฉันอยู่แล้ว” เขาพูดเสียงไม่สบอารมณ์ มองใบหน้านวลที่ส่องกระทบกับแสงสีส้มจากหลอดนีออนแล้วพาใจสั่น ดวงหน้าหวานยามต้องแสงสีนี้ผสมผสานกับความเห่อร้อนจากความอาย ทำให้เธอเกิดความงดงามราวกับภาพวาดจากจิตรกรชั้นเอก เขาเผลอไผลหลงมองนิ่งงัน ลืมความไม่พอใจเรื่องที่เธอผลักร่างของตนจนสิ้น “ตาขอโทษค่ะ” เธอก้มหน้างุด ข่มความอายเมื่อเขามองเธอไม่วางตา เอ่ยคำขอโทษต่อเจ้าหนี้รายใหญ่ของบิดา เขาจะว่าเธอก็ไม่ถูกเพราะทีแรกเธอนอนคนเดียวในห้องนี้ แล้วตื่นมาเจอใครอีกคนอยู่ด้วยก็ต้องตกใจเป็นธรรมดา “ทำหน้าที่เธอให้ดี แล้วฉันจะให้อภัย” สิ่งที่เขาต้องการมีเพียงแค่นี้คือหาความสุขจากร่างสาวอวบอิ่ม ที่ทำให้เขาคิดถึงมาตลอดทั้งวันอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

อ่านเลย
เพลิงรักเพลิงแค้น

เพลิงรักเพลิงแค้น

5.0

“คุณคมน์ฟังหนูนาก่อนค่ะ ได้โปรดฟังหนูนาก่อน” เธอยังคงพูดประโยคนี้ซ้ำไปซ้ำมา หวังจะให้เขายอมฟังเสียงนกเสียงกาอย่างเธอบ้าง หากปล่อยเอาไว้อย่างนี้มีหวังเธอกับประสงค์ต้องตายแน่นอน คมน์เวลานี้ไม่เหมือนคมน์ที่เธอเคยรู้จักเลย เขาคือปิศาจร้ายชัดๆ “จะตอแหลอะไรล่ะ จะตอแหลอะไร ฉันไม่เชื่องูพิษอย่างเธอหรอก อุตส่าห์เลี้ยงอย่างดี ทะนุถนอม ยังริอ่านไปนอกใจฉันไปมีอะไรกับไอ้หน้าอ่อนนั่นอีก วันนี้เธอกับชายชู้ได้ตายคามือคาเท้าฉันแน่...ว้าย..โอ๊ย” สิ้นคำพูดของคมน์ ร่างอรชรถูกเหวี่ยงลงบนพื้นห้องอย่างแรง เสียงแสดงความตกใจจึงหลุดออกมาจากลำคอสาว ตามด้วยเสียงร้องแสดงความเจ็บปวดเมื่อศีรษะของเธอกระแทกโดนมุมโต๊ะตัวเล็กที่วางหนังสือพอดี “สมน้ำหน้า แต่เธอไม่ได้ตายตรงนี้หรอก” เขาไม่รู้สึกสงสารหรือว่าเมตตารุจิเรศแม้แต่นิดเดียว ตรงกันข้ามสะใจเสียมากกว่า ร่างบอบบางลุกขึ้นยืนเดินถอยหลังหนีไปสามสี่ก้าว ก่อนจะยกมือนุ่มมาจับบริเวณที่ศีรษะกระแทก มันแค่ปูดขึ้นมาเล็กน้อยเท่านั้น “คุณคมน์ไม่มีเหตุผล ทำไมคุณคมน์ไม่ฟังหนูนาก่อนล่ะคะ” น้ำเสียงของเธอตัดพ้อและน้อยใจ “ไม่ฟัง เพราะสิ่งที่ฉันได้ยินมันบอกฉันหมดทุกอย่างแล้ว ร่าน...คำๆ นี้คงไม่เหมาะสมกับเธอเท่าไหร่ น่าจะเหมาะกับคำว่า เสี้ยน หรือไม่ก็คันมากกว่า ถึงได้แวะกลางทางให้ไอ้หน้าอ่อนมันช่วยเกาให้ ทำไม มันหนุ่มกว่าฉัน หรือว่ามันเก่งเรื่องบนเตียงกว่าฉัน ถึงได้หายไปครึ่งค่อนวันแบบนี้ เสี้ยนไม่รู้จักพอเหมือนแม่ของเธอไม่มีผิด”

อ่านเลย
รักร้อนเพลิงพยาบาท 25+

รักร้อนเพลิงพยาบาท 25+

5.0

ความพยาบาทของเธอ ทำให้ทุกคนต่างสะพรึงกลัว ยกเว้นเขา...รัฐรวินทร์ ที่จะใช้ความรักทั้งหมดสลายความพยาบาทในใจเกวลิน เขาคือทายาทตระกูลอัครธนากุล ตระกูลมหาเศรษฐีของเมืองไทย เธอคือหญิงสาวชาวบ้านธรรมดาที่ไร้พิษสง แต่ก็ไม่ใช่ว่า เป็นลูกไก่ในกำมือ “เพี้ยะ!” ฝ่ามือเล็กฝาดลงไปบนแก้มรัฐรวินทร์เต็มแรง จนเกิดรอยฝ่ามือบนผิวแก้มเขา “เธอกล้าตบหน้าฉันเหรอ” เขาถามเสียงเข้ม แววตาลุกโชนด้วยความโกรธ “ก็ใช่น่ะสิ ก็คุณอยากปากหมาทำไม แค่นี้มันยังน้อยไปด้วยซ้ำ” เกวลินตอบด้วยทีท่าไม่เกรงกลัว ทว่าความเป็นจริงนั้นไม่ใช่ ในใจเต้นรัวจากความกลัวชายตรงหน้าที่อาจบีบคอเธอตายได้ “สองครั้งแล้วนะ สองครั้งแล้วที่เธอตบหน้าฉัน เธอจำไม่ได้หรือว่า เธอตบหน้าฉันครั้งแรก เธอต้องเจอกับอะไรบ้าง เธอคงอยากจะกระอักเป็นครั้งที่สองใช่ไหม” เขาถามเสียงเหี้ยม แววตาไร้ซึ่งความปราณี “แค่นี้ฉันก็กระอักเลือดมากพอแล้ว จะโดนอีกสักหน่อยคงไม่เป็นไร อีกอย่างคนอย่างคุณ มันก็หน้าตัวเมียอยู่แล้ว รังแกคนไม่มีทางสู้ เอาสิ เอาเลย ตบฉันเลย แตะฉันก็ได้ หรือว่าจะถีบฉัน ฉันก็ยินดี ฉันจะไม่ร้องขอชีวิตจากคุณ แต่ฉันจะจำทุกอย่างที่คุณทำกับฉัน แล้ววันหนึ่งฉันจะเอาคืนคุณอย่างสาสม” ตาต่อตา ฟันต่อฟัน เกวลินพูดโดยปราศจากความเกรงกลังรัฐรวินทร์ ชายหนุ่มที่กุมชีวิตตนกับครอบครัวไว้ในอุ้งมือ อุ้งมือของคนที่ไม่เคยให้คำว่า เมตตาปราณีกับตน

อ่านเลย
วิวาห์ไร้เสน่หา

วิวาห์ไร้เสน่หา

5.0

งานแต่งงานที่ไร้ซึ่งความรัก ทำให้หัวใจสองดวงต้องเจ็บปวด หนึ่งรักมั่นคงกับอดีตคนรัก อีกหนึ่งหลงรักสามีไร้หัวใจ .......... “วันนี้ฉันไปงานวันเกิดเพื่อนที่โรงแรม ฉันเห็นเธอเดินกับผู้ชายที่นั่นด้วย คนนี้ใช่ไหมที่เธอบอกว่าเป็นเพื่อนและไปเที่ยวคลับด้วยกัน” น้ำเสียงติดเข้มห้วน ใบหน้าเรียบตึง มองพราวพรรณตาขวาง “ใช่ค่ะ คนนั้นคือพี่ไอซ์ เขาเป็นรุ่นพี่และเพื่อนสนิทของพราวเอง” พราวพรรณตอบตามตรง ไม่มีอะไรต้องปิดบัง “เพื่อนแน่เหรอ” พุฒิวัตรถาม เขาไม่อยากเชื่อว่าสิ่งที่เธอพูดมาเป็นความจริง เพราะภาพที่เขาเห็นมันมีอะไรมากกว่านั้น “แน่สิค่ะ” พราวพรรณย้ำ ไม่เข้าใจว่าทำไมพุฒิวัตรถึงถามเรื่องปวีณวิชมากมายขนาดนี้ “เพื่อนที่ไหนเขาไปกันเที่ยวกันกลางค่ำกลางคืนสองต่อสอง เธอบอกความจริงฉันมาดีกว่าว่า หมอนั่นเป็นใคร” กระแสเสียงเข้มขึ้นกว่าเดิม นัยน์ตาคุกรุ่นไม่พอใจ “พี่ไอซ์เป็นเพื่อนพราวจริงๆ ค่ะ แล้วพราวไปกันหลายคน คุณเห็นแค่อยู่ในโรงแรม แต่ถ้าคุณเห็นตอนพราวอยู่ในคลับ คุณจะรู้ว่า พราวไม่ได้ไปกับพี่ไอซ์แค่สองคน” พราวพรรณอดทนอธิบายย้ำให้พุฒิวัตรฟัง “พราวไปงานเลี้ยงพร้อมเพื่อนอีกสองคนค่ะ คุณพุฒิไม่รู้จักเพื่อนพราวเลยเข้าใจผิดคิดว่าพราวไปกับพี่ไอซ์ จริงๆ แล้วพราวบังเอิญเจอพี่ไอซ์ด้วยซ้ำไป ไม่คิดว่าพี่ไอซ์จะมางานแต่งนี้ด้วย” “ก็ฉันไม่ได้อยากรู้จักเพื่อนของเธอ ฉันแค่อยากบอกกับเธอว่า ฉันไม่อยากถูกสวมเขา” พราวพรรณถึงกับหน้าชากับประโยคนี้ “ฉันไม่รู้หรอกนะว่า ความจริงผู้ชายคนนั้นมีความสัมพันธ์แบบไหนกับเธอ จะพี่ชาย เพื่อนหรือแฟน ฉันแค่อยากเตือนสติเธอ ตอนนี้เธอเป็นเมียฉันอยู่ ถึงแม้คนจะรู้ไม่กี่คนก็ตาม ฉันไม่อยากถูกสวมเขา คิดจะทำอะไรนึกถึงทะเบียนสมรสของเราด้วย ระงับความอยากไว้รอวันที่เราหย่ากันดีกว่า ซึ่งฉันคิดว่าคงไม่เกินปีหน้า เธอเข้าใจที่ฉันพูดใช่ไหม” เพี้ยะ... พุฒิวัตรพูดจบ เสียงฝ่ามือฟาดลงบนแก้มเขาเต็มแรงจนเกิดรอยนูนฝ่ามือ ใบหน้าคมคายหันไปตามแรงตบ ก่อนหันมองหน้าพราวพรรณด้วยสายตาวาวโรจน์ เพราะครั้งนี้เป็นครั้งแรกในชีวิตกับการถูกผู้หญิงตบหน้า “คุณเฉยชา ไม่เห็นฉันในสายตา ฉันทนได้ แต่มากล่าวหาว่าฉันมีชู้ ฉันไม่ขอทน” พราวพรรณระเบิดอารมณ์ใส่ เธอไม่คาดคิดว่าเขาจะคิดชั่วๆ แบบนี้ได้ “ฉันไม่เคยทำแบบนั้น แล้วฉันก็อธิบายให้คุณฟังไปแล้ว คุณจะเชื่อไม่เชื่อก็เรื่องของคุณ แต่อย่ามากล่าวหากัน มันมากเกินไป” “จะให้ฉันเชื่อได้ยังไงก็ภาพที่ฉันเห็นมันฟ้อง ว่าเธอกำลังมีชู้ เมื่อคืนก็ไปกับมัน คืนนี้ก็ไปกับมันอีก ไม่ใช่ว่าไปเที่ยวทะเลไปกับมันอีกนะ ติดใจอะไรมันหนักหนา มันทำเก่งกว่าฉันหรือไง เธอถึงได้อยากวิ่งเข้าหาชู้จนตัวสั่น” พุฒิวัตรไม่อั้นอารมณ์ เวลานี้มีทั้งความโกรธและความหึงหวงที่วิ่งเข้ามาในจิตใจโดยไม่รู้ตัว พุฒิวัตรกำลังเถียงกับตัวเองว่าความรู้สึกเขาตอนนี้คือ กลัวเธอสวมเขา ก็เท่านั้น

อ่านเลย
คลั่งรักเมียบำเรอ

คลั่งรักเมียบำเรอ

5.0

เขมนัทต์แทบจะตกเก้าอี้เมื่อรู้ว่า หญิงสาวคนต่อไปที่จะมาเป็นเมียบำเรอเขาคือใคร เธอคือเอมิกา สาวน้อยกะโปโลที่ไม่เคยอยู่ในสายตาเขาเลย เจอหน้ากันทีไร เมินใส่เสมอ กลืนน้ำลายตัวเองแทบไม่ทัน... เขาพบกับคำนี้ เมื่อได้พบกับเอมิกาในลุคใหม่... จากเดินหนีเป็นพุ่งใส่....ใส่แบบไม่ยั้งด้วย ........ “มานี่สิ” เสียงเขมนัทต์ดังทำลายความเงียบ เอมิกาก้าวเดินมาหาคนสั่งด้วยขาค่อนข้างสั่น แต่หัวใจสั่นหนักกว่า ยิ่งเดินเข้าใกล้เขา อัตราการเต้นของหัวใจก็ยิ่งเพิ่มทวี เอมิกามาหยุดยืนริมเตียง เธอหลุบตามองลำแขนใหญ่ที่ยกขึ้นสูง และเคลื่อนตัวมาจับเอวตน ก่อนเขาจะออกแรงรั้งร่างสาวมานั่งบนตัก เก็บกักเอมิกาไว้ด้วยอ้อมแขน ทั้งสองจึงชิดใกล้กันมากขึ้น มีเพียงผ้าขนหนูที่พันรอบอกเอมิกาเท่านั้นที่กั้นกลาง ว้าว... กลิ่นกายเอมิกาหอมมาก หอมกระตุ้นความกำหนัดเขาได้เป็นอย่างดี เขาไม่รู้สึกเช่นนี้มาก่อน ความรู้สึกที่ว่า เพียงแค่ได้สัมผัสกลิ่นกายเธอ อารมณ์ตนจะพลุ่งพล่าน ความกำหนัดถูกปลุกขึ้นมาทันใด เขมนัทต์กอดเอมิกาแน่นขึ้น กดจมูกลงบนหัวไหล่เธอ วินาทีนี้ร่างเธอสั่นสะท้าน หัวใจเต้นกระหน่ำ ความตื่นเต้นปกคลุมจิตใจ “หอมจัง” เขมนัทต์พูดหลังจากได้สูดดมความหอมที่คละเคล้ากันระหว่าง กลิ่นโลชั่นกับกลิ่นแป้ง “ไม่รู้ว่า ตรงอื่นจะหอมอย่างนี้ไหม ไม่แน่อาจหอมกว่าด้วยซ้ำไป” โอ้ว... ประโยคนี้ชวนใจสั่นตัวสั่นเหลือเกิน เอมิกาไม่ใช่เด็กน้อยถึงไม่รู้ว่า ความนัยในคำพูดเขมนัทต์คืออะไร แรงสั่นทำให้เจ้าของอ้อมแขนลอบยิ้ม

อ่านเลย
ภรรยาแสนร้ายของพายัพ

ภรรยาแสนร้ายของพายัพ

5.0

เมียใครที่ว่าร้าย ที่ว่าแน่ คงแพ้เมียพายัพแน่นอน เพราะหล่อนไม่ร้าย แต่หมัดและเท้าหนักมาก แต่ถึงกระนั้น ก็แพ้พายัพอยู่ดี จริงเหรอ... ............... "ฉันสัญญาค่ะว่า จะไม่ยุ่งทำแบบนั้นอีกแล้ว และขอโทษคุณด้วยค่ะ" หล่อนทำตาม "ยกมือไหว้ด้วย แล้วขอโทษใหม่" อังศุมาลีเริ่มหน้าตึง รู้ทันทีว่า เขาแกล้งตน แต่ถึงกระนั้นหล่อนไม่มีทางเลือก ทำตามคำสั่ง "ไหว้สวยๆ ด้วยนะ ถ้าไม่สวย ไม่ถูกใจ ไม่ให้ภาพนี้แน่ๆ" อังศุมาลียิ้มหวานมาก หวานเสียจนคนมองเห็นใจสั่นอย่างห้ามตัวเองไม่ได้ ส่งให้ดวงหน้าหล่อนมีความงดงาม ชวนมองมาก พายัพรีบยับยั้งความรู้สึกไหลลื่นให้อยู่กับที่ มองดูอังศุมาลียกมือไหว้ กล่าวคำขอโทษ "คราวนี้คืนรูปแม่ฉันได้หรือยังคะ" "ก็เดินมาเอาสิ" พายัพสะบัดรูปไปมา อังศุมาลีก้าวเดินไปหาร่างหนา แขนหล่อนยื่นออกไป หมายจับรูปในมือเขา ทว่าพายัพกลับชักมือหนี นำมือไขว้หลัง "นี่คุณจะผิดสัญญาเหรอ" อังศุมาลีถามเสียงขุ่น "ผิดสัญญาตรงไหนมิทราบ ฉันก็บอกอยู่นี่ว่า เดินมาเอาสิ แต่ไม่ได้บอกว่าจะให้ดีๆ นี่นา" พายัพเอาคืนอังศุมาลี ที่ทำกับตนไว้เจ็บแสบ ให้แค่ไหว้กับขอโทษมันดูน้อยไป ให้ร้อนหัวใจเล่นๆ ร่วมด้วย คงสนุกพิลึก "ถ้าอยากได้ก็ต้องพยายามหยิบเอง" ด้วยความโมโห อังศุมาลีก้าวเท้าไปหาร่างหนาใกล้กว่าเดิม ทุบอกเขาเต็มแรง จนคนถูกทำร้ายถึงกับเจ็บ ตกใจไม่คิดว่าหล่อนทำเช่นนี้ ยิ่งตกใจมากขึ้นกับการกระทำต่อมา ที่พายัพไม่ทันตั้งตัวเช่นกัน "โอ๊ย!" อังศุมาลีเหนี่ยวคอแข็งแรง ขยับตัวเข้าใกล้เขาอีกหน่อย เข่าสาวกระแทกเหมาะเหม็งตรงกล่องดวงใจพายัพ ที่ร้องโอดครวญจากความจุกเจ็บ ตัวงอ หน้าแดง รูปภาพในมือล่วงหล่นสู่พื้น อังศุมาลีรีบไปหยิบรูปภาพแสนรักทันที "ฉันไม่ลืมสัญญาที่ให้ไว้กับคุณเมื่อกี้นะ ที่ว่าจะไม่ยุ่งเรื่องคุณน่ะ แต่ไม่ได้บอกว่าจะทำไปจนกว่าเราหย่ากัน ฉันหมายถึงแค่วันนี้วันเดียว ให้คุณพักหายใจหายคอ พรุ่งนี้ค่อยว่ากันใหม่ อ้อ...ขอบคุณนะสำหรับรูปแม่ของฉัน" อังศุมาลีบอกคนจุกแน่นไปทั้งตัว หัวใจเดือดดาลมาก แต่ทำอะไรหล่อนไม่ได้มากไปกว่า เก็บความแค้นไว้ ถูกทำร้ายตรงจุดนี้ เรี่ยวแรงพายัพไม่หลงเหลือ แค่ขยับตัวยังยาก เข่าอังศุมาลีหนักมาก พุ่งใส่เต็มแรง เกิดมาไม่เคยถูกผู้หญิงคนไหนเล่นงานเขาเช่นหล่อนมาก่อน คอยดูเถอะ พายัพเอาคืนเป็นสองเท่าแน่ "ฝากไว้ก่อนเถอะ ยัยตัวแสบ อูยย์"

อ่านเลย
คุณอาขา (อัญญาณี)

คุณอาขา (อัญญาณี)

5.0

“คุณอาขา” เจ้าของเสียงหวานหยดย้อยดังกังวาน “ที่นี่ตอนดึกๆ อากาศหนาวจังเลยนะคะ ดูสิคะขนบนแขนของกุ๊กลุกพรึบเลยค่ะ” สาวน้อยวัยดรุณีถลกแขนเสื้อโค้ทขึ้นสูง แล้วยื่นลำแขนให้ชายหนุ่มข้างกายดูขนเส้นเล็กบนลำแขนที่ลุกชันตามอากาศหนาวเหน็บ ด้วยความหนาวเย็นนี้เองทำให้สาวร่างเล็กเบียดชิดผู้ปกครองวัยกำหนัดเพื่อหาไออุ่นอย่างเสียมิได้ ทั้งที่เธอสวมชุดกันหนาวแบบเต็มยศแล้วก็ตาม “ชะ...ใช่ค่ะอากาศมันเริ่มหนาวแล้ว หนาวมากๆ ด้วยค่ะ” เสียงใหญ่พูดขึ้น พยายามข่มอารมณ์บางอย่างที่แล่นพล่านในร่างกาย เธอหนาว...แต่เขากลับรู้สึกร้อน ร้อนรุ่มไปหมดทั้งตัว จนอยากจะถอดเสื้อผ้าออกจากกายแล้วใช้ความเย็นของอากาศดับไฟในร่าง ยิ่งเธอเบียดชิดร่างกายหาไออุ่น อุณหภูมิความร้อนยิ่งเพิ่มมากขึ้น ธาตุไฟในร่างแตกซ่านจะไม่ให้เขาเกิดอาการเช่นนี้ได้อย่างไร ก็เธอเล่นเบียดกระแซะกายหาไออุ่นอย่างเด็กขาดความอบอุ่น ดอกอุบลที่อยู่ภายใต้เสื้อโค้ทสัมผัสกับท่อนแขนกำยำของเขาโดยไม่ได้ตั้งใจ ‘จะทนได้สักกี่น้ำวะเนี่ย’ คนปากแข็งพล่ามในใจ ปรายตามองณัฏฐลักษณ์ สาวน้อยวัยยี่สิบเอ็ดปี เด็กในปกครองตามันระยับที่โจนาธานปรารถนาจะพุ่งเข้าใส่วันละหลายๆ รอบ

อ่านเลย
รสรักเสน่หา

รสรักเสน่หา

4.3

“ตูม” ร่างของอักษราที่ยังไม่ได้สติ แล้วยังจะถูกมัดมือมัดเท้าและปิดปาก ถูกโยนลงมาจากเรือด้วยมือของเจ้าของเกาะ ลูกน้องทั้งสามมองตากันไปมา อยากจะไปช่วยสาวน้อยผู้น่าสงสารใจจะขาด แต่ถ้าช่วยมีหวังพวกเขาต้องโดนบาทาของเจ้านายแน่นอน อักษรารู้สึกตัวเมื่อร่างกายกระแทกกับผืนน้ำ น้ำเค็มๆ ซึมผ่านเนื้อผ้าเข้ามาในปากและจมูกจนเธอเกิดอาการสำลัก เปลือกตาสาวเปิดขึ้นในเวลาต่อมาแต่ก็ต้องหลับลงอีกครั้ง เพราะน้ำทะเลเข้าไปในดวงตาของเธอจนเกิดความแสบ อักษรารีบทะลึ่งตัวขึ้นเหนือน้ำ โดยไม่รู้ว่าเวลานี้ตนเองตกอยู่ในสภาพอย่างไร “อื้อๆ อื้อๆ” ทันทีที่ขาทั้งสองข้างยืนอยู่บนทรายใต้น้ำ และรู้ว่าตัวเองถูกพันธนาการไว้ด้วยเชือกทั้งข้อมือและเท้า ปากก็เช่นกันหาได้มีอิสระถูกปิดทับด้วยผ้าผืนใหญ่ “อ๊าย!” ความที่ข้อเท้าเล็กถูกมัดด้วยเชือก ส่งผลให้เธอยืนได้ไม่ถนัดนัก เสียการทรงตัวจนร่างคะมำลงไปในผืนน้ำ แต่เธอก็พยายามยืนขึ้นอีกแต่สุดท้ายก็เป็นเหมือนเดิม อักษราจึงเลือกที่จะนั่งลงบนผืนทรายใต้น้ำที่มีความลึกประมาณครึ่งเมตร อักษรานั่งมองร่างสูงใหญ่ ผิวคล้ำน่าเกรงขาม ใบหน้าของเขามีหนวดเคราขึ้นเล็กน้อย ดวงตาคมกริบมองมายังเธอด้วยสายตาไม่เป็นมิตร เขากระโดดลงมาจากเรือเร็วก่อนจะเดินลุยน้ำทะเลมาหาเธอ “ไง ตื่นแล้วเหรอ นึกว่าจะตายเพราะยาสลบซะแล้ว” เสียงห้าวใหญ่พูดขึ้น ในขณะที่มาหยุดยืนเท้าเอวตรงหน้าเธอ อักษราเงยหน้ามองชายหน้าตาน่ากลัวที่จ้องหน้าเธอราวกับจะกินเลือดกินเนื้ออย่างหวาดกลัว ไม่เข้าใจว่าเขาทำเช่นนี้กับเธอทำไม จะถามก็ไม่ได้เพราะปากถูกปิดด้วยผ้าผืนใหญ่

อ่านเลย
จอมใจภาวินทร์

จอมใจภาวินทร์

5.0

ความแค้นที่สะสมเป็นเวลาหลายปีกำลังถูกสะสาง “หล่อน” ที่ไม่เคยสำนึกผิดกับการกระทำของตัวเองกำลังถูก “เขา” ลงทัณฑ์ วิธีการลงโทษขอเขาไม่ธรรมดา นอกจากจะทำให้ครอบครัวเธอหมดเนื้อหมดตัว เขายังทำให้หล่อนมาอยู่ในฐานะนางบำเรอ ที่ยิ่งนับวันความเร่าร้อนของจำเลย จะยิ่งทำให้โจทก์หวั่นไหว และโขกสับหล่อนยิ่งกว่าทาส ทาสสวาทที่ไม่ธรรมดา...เพราะฤทธิ์เดชยิ่งกว่าพริกร้อยเม็ด! “ถ้าเธอไม่หยุดทำให้ฉันปวดหัว ฉันจะจูบเธอต่อหน้าคนงาน” ภาวินทร์ขู่เสียงเขียว จ้องมองสาวตรงหน้าที่ยืนเท้าเอว ไม่มีทีท่าเกรงกลัวเขาแม้แต่น้อย “ถ้าคุณจูบฉันต่อหน้าคนงาน ฉันก็จะจูบพี่ชาตรีต่อหน้าคุณเหมือนกัน” เจอย้อนแบบนี้เข้าไป ภาวินทร์ถึงกับอ้าปากค้าง ไม่คิดว่าเธอจะยอกย้อนเช่นนี้ ก่อนจะหันไปมองชาตรี ลูกน้องคนสนิทที่สะดุ้งสุดตัวเมื่อรู้ว่าตนเข้าไปอยู่สงครามประสาท “เธอกล้าเหรอ” ภาวินทร์เสียงเข้มกว่าเก่า “คุณก็ลองทำดูสิ แล้วคุณจะรู้ว่าฉันทำจริงหรือไม่จริง” เอมิกาท้ากลับ เชิดหน้าใส่ “ฉันทำให้คุณดูตอนนี้เลยก็ได้นะ มามะ พี่ชาตรีจ๋า มาให้เอมจูบหน่อย” ผู้พูดเดินตรงไปหาชาตรีที่ก้าวถอยหนีด้วยความกลัว เขาไม่ได้กลัวว่าเอมิกาจะจูบตนจริงๆ แต่กลัวแววตา ท่าทางของเจ้านายตัวดีต่างหาก กลัวว่าเท้าหนักๆ ของเจ้านายจะประเคนใส่หน้าตน ภาวินทร์ถึงกับทนไม่ไหว ตะเบ็งเสียงเรียกสาวแสบดังลั่น “เอมิกา!” ไม่พูดเปล่า เขาก้าวฉับๆ ไปหาร่างแน่งน้อย ก่อนจะจับหล่อนพาดบ่า เดินลิ่วๆ ไปบ้านพัก เดินไปตีก้นหล่อนไปด้วย ไม่สนใจเสียงร้อง และกำปั้นน้อยๆ ที่ทุบหลังเขาไม่หยุด “ร้ายนักนะ ร้ายอย่างนี้เดี๋ยวจะทำให้คลานลงจากเตียงเลยคอยดู” มาดูกันสิว่า คดีนี้ใครจะชนะระหว่าง โจทก์หนุ่มสุดหล่อกับจำเลยสุดสวย ใครคือผู้ชนะ

อ่านเลย
เมียบำเรอในหัวใจ

เมียบำเรอในหัวใจ

5.0

ความรักกับความแค้น เหมือนมีเส้นบางๆ กั้นอยู่ เขาตั้งมั่นตั้งใจ ชำระแค้นหล่อนเต็มที่ พอถึงเวลานั้นจริง ตะวันฉายพ่ายแพ้ว่าจันทร์ ชนิดที่ว่า ย่อยยับ แล้วยังมีเด็กหญิงหน้าตาน่ารัก เจ้าของเสียงหวานใส ที่มาพร้อมกับความอ้อนแบบเกินล้าน ตะวันฉายแทบลืมความแค้น มีเพียงความรู้สึกเดียวที่ตระหนักในใจ รักหล่อนสุดหัวใจ... ... "ผู้หญิงแพศยา...เพล้ง" เจ้าของเสียงปาแก้วไวน์ในมือ กระทบกับฝาผนังห้องเต็มแรง ตามอารมณ์คุกรุ่นในหัวใจ กำปั้นทุบลงบนมินิบาร์หลายครั้ง ใบหน้าแดงก่ำจากพิษรักฝังอุรา สี่ปีแล้ว สี่ปีที่ตะวันฉายไม่เคยลืมว่าจันทร์ สตรีคนแรกที่เขารักหมดใจ รักแบบไม่เผื่อความเจ็บปวด เสียใจหรือผิดหวัง เพราะคิดว่า หล่อนไม่มีวันทรยศตน ผิดไปจากที่คิด... ว่าจันทร์มีชายอื่น หล่อนตีปีกจากไป ใช้ชีวิตคู่กับชายคนนั้น มิเพียงแค่นั้น ยังมีโซ่ทองคล้องใจ เป็นเด็กหญิงวัยสามปีกว่า ว่าจันทร์มีความสุข ในขณะที่ตะวันฉายทุกข์ทรมานใจ ผ่านมาหลายปี ความรู้สึกนี้เหมือนเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวาน ใหม่สดยกไปจากจิตใจไม่ได้ และไม่มีวันบรรเทา หากไม่ได้ชำระแค้นหญิงชั่ว ชายเลวให้สาสมใจ ใครทำให้ตะวันฉายเจ็บ คนนั้นต้องเจ็บมากกว่าเขาร้อยเท่าพันทวี แก้แค้นสี่ปี ก็ยังมิสาย...

อ่านเลย
พยาบาทรักลวงใจ

พยาบาทรักลวงใจ

5.0

“จำใส่หัวของเธอเอาไว้ ฉันไม่เคยรักเธอเลย แม้แต่คิดก็ยังไม่เคย สิ่งที่ฉันทำ ลงไปทั้งหมดมันเป็นแผนการของฉันเอง แผนที่จะทำให้เธอรักเธอหลงฉันจนโงหัวไม่ขึ้น แล้วต่อจากนั้นฉันก็จะเขี่ยเธอออกไปจากชีวิตของฉัน เหมือนกับที่เธอเคยทำกับผู้ชาย หลายคนยังไงล่ะ ให้เธอเจ็บเจียนตาย ให้สาสมกับสิ่งที่เธอทำเอาไว้” คำพูดประโยคไร้ซึ่งความใยดีของเขา มันมีอานุภาพความเจ็บที่รุนแรงโหมซัด มันทิ่มแทงทะลุผิวเนื้อชั้นนอกแทรกซอนเข้าไปถึงเนื้อใน บริเวณหัวใจคือจุดที่เธอเจ็บช้ำ จากเข็มเหล่านี้มากที่สุด เจ็บลึกลงไปถึงขั้วหัวใจ ลมหายใจของเธอนั้นก็ไม่ต่างกันเลย วชิราภรณ์กำลังสูดความปวดร้าวความเสียใจเข้าไปในร่างกาย หล่อรวมกับเจ็บช้ำที่อัด แน่นในหัวใจ ไม่ต้องบอกเลยว่าตอนนี้เธอมีความรู้สึกอย่างไร ตรอมตรมเกินกว่าที่จะ หยั่งได้ว่ามากน้อยแค่ไหน

อ่านเลย
ตรวนเสน่หาคล้องใจ

ตรวนเสน่หาคล้องใจ

5.0

“พี่ถามตรงๆ นะว่า น้องไหมเป็นลูกของพี่ใช่ไหม” ช่วงเวลาสั้นๆ ไม่กี่นาที เดือนแรมไม่ได้ตั้งตัว ไม่ได้เตรียมใจในหลายเรื่อง คำถามนี้ก็เช่นกัน เธอไม่คาดฝันว่าได้เจอณนนท์ ยิ่งเขาได้เจอไหมขวัญด้วยแล้ว เป็นเรื่องที่ไกลความคิดมาก การถูกตามแบบขวานผ่าซาก เธอจึงไม่ตระเตรียมคำตอบไว้ “พี่ถาม แรมต้องตอบ” “ไม่ใช่ น้องไหมไม่ใช่ลูกของคุณ” เดือนแรมตอบกลับ พยายามปั้นสีหน้าจริงจัง ดวงตาแน่วแน่ไม่สั่นไหว ทว่าการปั้นหน้านั้นทำง่าย นัยน์ตานี่สิ ยากเหลือเกิน “คุณเอาความมั่นใจมาจากไหน ถึงคิดว่าน้องไหมเป็นลูกของคุณ อย่าลืมสิว่า เราเลิกกันหลายปีแล้วนะ ฉันอาจมีสามีใหม่ที่พร้อมใช้ชีวิตคู่กับฉันจริงๆ ก็ไม่แปลกที่ฉันจะมีน้องไหม” เดือนแรมย้ำคำว่า พร้อมใช้ชีวิตคู่กับฉันจริงๆ พูดด้วยนัยน์ตาสั่นระริก ณนนท์ไม่ได้สนใจกับคำพูดเน้นหนัก เพราะตอนนี้ใขเขามุ่งอยู่กับเรื่องไหมขวัญ “เท่าที่พี่จำได้ พี่ไม่ได้เลิกกับแรมนะ อยู่ๆ แรมก็หนีพี่ไป พี่อยากรู้เหมือนกันว่า แรมทำอย่างนั้นทำไม” ณนนท์คล้ายยิงคำถามใส่ จ้องมองนัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อนที่ยังคงสวยและมีเสน่ห์เช่นเดิม เพิ่มเติมคือมีความกลัว หวาดระแวงจนเขาจับสังเกตได้ “ส่วนเรื่องที่แรมบอกว่ามีผัวใหม่ ถ้ามีจริง ทำไมน้องไหมถึงบอกว่า ไม่มีพ่อจนต้องแคะกระปุกออมสินเพื่อเอาเงินไปเช่าพ่อ ไปงานวันพ่อน่ะ แรมตอบคำถามนี้ได้ไหมล่ะ” เดือนแรมทำท่าอึกอักขึ้นมาทันที คำถามณนนท์ เธอตอบได้ ทว่าเลือกไม่ตอบ เพราะไม่อยากให้เขาเข้ามาวุ่นวายในชีวิตตน เขาไม่ต้องการเธอก็เท่ากับว่าไม่ต้องการลูกด้วย “จะด้วยเหตุผลอะไรก็ช่าง ฉันไม่จำเป็นต้องตอบคุณ เรื่องระหว่างคุณกับฉันจบไปตั้งนานแล้ว จะรื้อฟื้นทำไม” เดือนแรมต้องทำใจแข็งเข้าไว้ “ส่วนเรื่องพ่อของน้องไหม เขาตายไปตั้งแต่ฉันท้องได้สี่เดือน นี่แหละคำตอบของฉัน” ณนนท์ไม่เชื่อคำตอบเดือนแรมเลยสักนิด เขาก้าวเดินไปหาร่างสาวช้าๆ เธอถอยก้าวหนีร่างหนาก้าวต่อก้าว จนแผ่นหลังชิดผนังห้อง “แรมอย่าลืมสิว่า แรมโกหกไม่เก่ง แล้วพี่ก็จับพิรุธคนโกหกเก่งมาก ที่แรมพูดมาทั้งหมดเป็นเรื่องโกหก พี่จะถามดีๆ อีกครั้ง ถ้าแรมยังโกหกพี่อีกล่ะก็ ได้เห็นดีกันแน่” “คะ...คุณจะทำอะไรฉัน อย่าเข้ามานะ” เธอห้ามเสียงหลง หัวใจเต้นแรงมาก มองเขาด้วยใจหวาดหวั่น “ตอบคำถามพี่มาก่อนสิ ตอบถูกใจจะไม่ทำอะไร แต่ถ้าไม่ โดนดีแน่” ไม่วายขู่ ยิ่งโดนขู่ ใจเดือนแรมยิ่งทำงานหนัก “น้องไหมไม่ใช่ลูกของคุณ” แม้กลัวแต่ก็ตอบออกไป “ไม่ใช่ลูกของคุณ” เดือนแรมย้ำตอบสองครั้ง หมายให้ณนนท์เข้าใจและตระหนักตามคำตอบนั้น แต่ดูเหมือนว่า ณนนท์ไม่เชื่อเธอเลยสักนิดเดียว เขาจ้องมองแววตาติดสั่น และพยายามหลบสายตา “ตรวจดีเอ็นเอ” พูดแค่นี้เดือนแรมก็รู้ความหมาย ณนนท์ไม่ลดละ แถมก้าวเดินมาหาเธออีกหนึ่งก้าว ระยะห่างตอนนี้ประมาณสองศอก ใกล้มาก ใกล้จนเธอทำตัวไม่ถูก ขยับเท้าไปทางด้านข้างหลายก้าวเพื่อหนีร่างหนา “ไม่ตรวจ” จบคำพูดประโยคนี้ ณนนท์ประชิดตัวเดือนแรม รั้งเอวสาวด้วยลำแขนใหญ่ เธอตกใจจนตัวสั่น อ้าปากค้างไม่คิดว่าเขาทำเช่นนี้ มือดันอกกว้าง “ปะ...ปล่อยนะ” “ทำไมไม่ตรวจ กลัวเหรอ” “ไม่ได้กลัว” ตอนนี้เดือนแรมยิ่งกว่ากลัวเสียอีก กลัวมากที่สุดคือ กลัวใจตัวเอง “ไม่กลัวก็ตรวจสิ จะได้รู้กันไปเลยว่า น้องไหมเป็นลูกสาวของพี่หรือเปล่า” ณนนท์ตื้อไม่หยุดเพราะมั่นใจว่า ไหมขวัญเป็นลูกตน

อ่านเลย
ทัณฑ์บำเรอมาเฟีย

ทัณฑ์บำเรอมาเฟีย

5.0

ทุกอย่างจบสิ้น ขาทั้งสองข้างปรินดาสั่น ร่างกายอ่อนเพลียมากเพราะนับตั้งแต่เครื่องบินขึ้นสู่รันเวย์ เธอตกเป็นนางบำเรอของฌอร์นนานหลายชั่วโมง และเวลานี้เธอก็ทนไม่ไหว ความเป็นหญิงร้อนฉ่าและเจ็บปวด ปรินดาหลับตาขับน้ำตาให้ไหลย้อนกลับไป ไม่อยากให้เขาเห็นความอ่อนแอของตน แต่เขาก็เห็นจนได้... “ถูกกระแทกแค่นี้ทำเป็นเจ็บ โดนฉันมาไม่รู้กี่ครั้งแล้วไม่ชินหรือไง” ไม่มีความอ่อนโยนในน้ำเสียงและแววตา เขามองปรินดาด้วยสายตาสมเพชมากกว่า “ลุกขึ้นแล้วตามฉันไปห้องน้ำ ฉันจะเอาเธอในห้องน้ำอีกรอบแล้วจะปล่อยให้เธอพัก” พูดจบก็ผละร่างอย่างไม่ใยดี เดินโทงๆ เข้าไปในห้องน้ำ ปรินดายันตัวลุกนั่ง เจ็บระบมไปทั้งกาย แต่ก็ต้องฝืนทำตามคำสั่ง ก้าวเดินแข้งขาสั่นไปยังสถานที่เดียวกับฌอร์น ทำหน้าที่บำเรอกามด้วยใจร้าวราน

อ่านเลย
สุดปรารถนา

สุดปรารถนา

5.0

“ฉันจะอ่อนโยนกับเธอให้เหมือนผีเสื้อมาบินมาเกาะเกสรดอกไม้” เขาเอ่ยชิดเรียวปากคู่สวย แล้วจูบซ้ำๆ ลงไปอีกหลายครั้ง สุดปรารถนาปรือตามองเขา อารมณ์เธอสั่นพร่า หวามไหวไปกับสัมผัสรัญจวน ที่เพียงแค่จุมพิต เธอรู้สึกเหมือนวิญญาณออกจากร่าง “เธอรู้ไหมว่า เวลาผีเสื้อบินมาดูดน้ำหวานจากเกสรดอกไม้ ผีเสื้อจะรู้สึกยังไง แล้วน้ำของเกสรดอกไม้จะหมดไปหรือเปล่า ว่าไงตอบฉันมาสิ ว่ารู้ไหม” “ไม่รู้ค่ะ” เธอตอบเสียงสั่น มองหน้าเขาในระยะห่างไม่ถึงคืบด้วยใจไหวหวั่นและขวยเขิน “แล้วอยากรู้ไหมว่า ผีเสื้อจะรู้สึกยังไงและน้ำหวานจะหมดไปหรือเปล่า” เขาถามต่อ แล้วดูเหมือนว่าอลงกตจะใจร้อนไม่เอาคำตอบ “ฉันจะทำให้เธอรู้ด้วยตัวเอง” สุดปรารถนาไม่เข้าใจคำพูดของอลงกต เธอจะรู้ได้อย่างไรในเมื่อไม่ใช่เกสรดอกไม้และไม่ใช่ผีเสื้อ ทว่าความสงสัยกลายเป็นความตกใจ เมื่อเขาลดตัวไปฝังหน้าอยู่กับความเป็นอิสตรีเพศโดยที่เธอไม่ทันตั้งตัว จะหนับขาก็ไม่ทัน จะดันหน้าเขาให้ถอยห่างก็ไม่ได้

อ่านเลย
อุ้มรักนางบำเรอนอกหัวใจ

อุ้มรักนางบำเรอนอกหัวใจ

5.0

ความทรงจำอันเลวร้ายในอดีต เธอจำฝังใจ และเมื่อเขากลับเข้ามาในชีวิต หญิงสาวที่เคยอ่อนแอ ยอมจำนนทุกอย่าง ลุกขึ้นสู้ชายใจร้าย ใจดำ ให้รู้ว่า เธอไม่ได้อ่อนแอ ไม่ได้เป็นเบี้ยล่างเขาอีกต่อไป เขาต่างหาก ที่ต้องสิโรราบ หมอบกราบแทบเท้าตน ...................... "ได้โปรด...อย่าทำเอย เอยกลัวแล้วค่ะคุณยักษ์" ณศรินทร์ ยกมือไหว้ขอความเมตตา กระเถิบตัวหนีร่างสูงใหญ่ที่กำลังถอดเสื้อผ้า นัยน์ตาเขาไม่เป็นมิตรเอาเสียเลย พร้อมฆ่าเธอได้ทุกเมื่อ "เธอร่านไม่ใช่เหรอ ฉันคงทำให้เธอไม่อิ่ม เธอถึงได้เที่ยวร่านไปแบให้ใครต่อใคร วันนี้ฉันจะทำให้เธอกระอักอิ่มไปหลายวัน" ............... "ต่อให้คุณกราบเท้าฉัน ขอร้องอ้อนวอนฉัน ทำดีกับฉันต่างๆ นานา เพื่อให้ฉันอภัยคุณ บอกไว้นะว่า ต่อให้คุณกราบเท้าฉันจนมือทะลุลงไปใต้ภิภพ ทำดีกับฉันจนตัวตาย ฉันก็ไม่มีวันยกโทษ คุณต้องได้รับโทษที่ทำไว้กับฉัน ฉันจะทำให้คุณรู้สึกเหมือนหมาข้างถนน ที่ไม่มีใครต้องการ" ณศรินทร์กล่าวไว้

อ่านเลย
โซ่เสน่หาชีคทมิฬ

โซ่เสน่หาชีคทมิฬ

5.0

“ปากเธอทั้งหวานทั้งหอมเลย” ฟาฎิลปล่อยปากสาวให้เป็นอิสระเพื่อให้อนัญญาได้หายใจ ทั้งที่ไม่อยากทำสักเท่าไหร่ “คอยดูนะ ถ้าฉันขึ้นไปจากสระได้เมื่อไหร่ ฉันจะชกหน้าคุณ จะชกเป็นร้อยทีเลย” อนัญญาอยากทำตามปากว่าตอนนี้เลย แต่ก็ทำไม่ได้เพราะหล่อนอยู่ในน้ำ กลัวจมน้ำก็กลัว อยากอัดหมัดใส่หน้าฟาฎิลก็อยากทำ และที่สำคัญหญิงสาวเขินอายที่ถูกชีคหนุ่มขโมยจูบแรกไปแบบไม่ทันตั้งตัว พวงแก้มขึ้นเลือดฝาดส่งผลให้ใบหน้าหล่อนชวนมองมากขึ้น “จูบหนึ่งครั้งถูกชกหนึ่งทีก็คุ้มนะ งั้นฉันต้องจูบเธอบ่อยๆ ซะแล้ว” ฟาฎิลพูดไปยิ้มไป “จะบ้าเหรอ ฉันไม่ให้คุณจูบหรอก ถ้าคุณจูบฉันอีกล่ะก็ฉันจะชกหน้าคุณให้ดั้งหักเลยคอยดู” หล่อนขู่ “แล้วก็จะกัดลิ้นคุณให้ขาดด้วย” “เธอไม่มีวันได้กัดลิ้นฉันหรอก” อนัญญาใจชื้นเพราะคิดว่าเขากลัวคำขู่ตน ทว่าคำพูดประโยคต่อมา ทำให้หล่อนถึงกับตกใจ “เพราะครั้งหน้าฉันจะจูบเธอแบบไม่สอดลิ้น”

อ่านเลย
ดั่งลมต้องรัก

ดั่งลมต้องรัก

5.0

ลมพัดความรักมาสู่ใจ และลมพัดความรักเก่าหวนคืน ...... พันลภตัวแข็งทื่อตรงหน้าประตูบ้าน เมื่อเห็นสตรีดวงหน้าสวยหวาน แต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางบางเบา แต่กลับทำให้เธอโดดเด่นสวยงามจับตา เป็นความงดงามไม่เคยเปลี่ยนแปลง แม้ว่าเวลาผันผ่านมานานหลายปีที่ไม่ได้เจอหน้ากัน อัญชิสานั่งบนโซฟา เธอส่งยิ้มให้เจ้าของบ้านที่ยังยืนอยู่จุดเดิม ราวกับถูกแช่แข็ง ร่างกายขยับเขยื้อนไม่ได้ ก่อนขยับสายตามองเด็กชายที่ไม่ทราบแน่ชัดว่าอายุเท่าใดข้างกายเธอ ใช่อัญชิสาจริงๆ ด้วย...พันลภครางในใจ นัยน์ตายังไม่ถอนจากใบหน้าเธอ “พี่พีท” เสียงหวานของอัญชิสาทำลายความเงียบ เธอส่งยิ้มให้พันลภกว้างขึ้น “ไอซ์” ชื่อเล่นนี้จำได้ขึ้นใจ “ไอซ์มาที่นี่ได้ยังไงครับ” อัญชิสายังไม่ตอบ เธอหันไปทางเด็กชาย ประโยคหนึ่งดังจากปากสาว เรียกความตกใจให้พันลภ ชนิดที่ว่า อ้าปากค้าง หัวใจแทบหยุดเต้น มองสองแม่ลูกสลับกันไปมา “น้องแชมป์ครับ ไหว้คุณพ่อพีทสิลูก” เด็กชายชณาทิปลุกขึ้นยืน เดินไปหาพันลภที่เอาแต่มองหน้าคนกำลังเดินมาหาตนนิ่ง “ลูกเหรอคะ เด็กคนนี้เป็นลูกชายพี่พีทหรือคะ” พันลภหันขวับมองต้นเสียง ที่ตกอยู่ในอาการตกใจไม่ต่างกับตน รวมถึงกลุ่มคนที่เดินมาสมทบ ทั้งหมดได้ยินคำถามประภาวรรณพอดี สายตาพุ่งตรงไปยังอัญชิสากับเด็กชายที่กล่าวอ้างว่า เป็นลูกชายพันลภ “ใช่ลูกพี่พีทจริงหรือคะ” “ใช่ค่ะ น้องแชมป์เป็นลูกพี่พีทกับไอซ์ค่ะ” อัญชิสาตอบแทน พันลภถึงกับทำอะไรไม่ถูก ปกติเขาไม่ใช่คนยอมรับเรื่องที่ไม่ใช่ ครั้งนี้เขาพูดไม่ออก ราวกับว่าลืมวิธีพูดก็ว่าได้ ยืนนิ่งมองหน้าอัญชิสาสลับกับมองหน้าประภาวรรณที่ตกอยู่อารามตกใจ พันลภสัมผัสได้ถึงความเสียใจในแววตาน้องสาวเพื่อนสนิท หัวใจเขาสั่นไหวขึ้นมาทันทีทันใด

อ่านเลย
เชลยสวาทชีคร้าย

เชลยสวาทชีคร้าย

5.0

กชนิภา...ตกเป็นของชีคใจร้ายด้วยความผิดที่ไม่ได้ก่อ ชีคอัสวาน...เห็นเธอเป็นเพียงเครื่องระบายความแค้น ความแค้นที่ลดลงในทุกๆ วัน และมีความรู้สึกอื่นเข้ามาแทนที่ โดยไม่รู้ตัว... ... “อย่าทำอะไรพี่ชายฉันเลย ฉันไหว้ล่ะ พี่ชายฉันไม่ได้ลงมือข่มขืนด้วย อย่าลงโทษถึงตายเลยนะคะ” กชนิภาอ้อนวอนอัสวาน ยกมือไหว้ชีคผู้เหี้ยมโหดตามปากพูด อัสวานมองหญิงสาวที่กล้าต่อปากต่อคำกับตนทั้งที่พี่ชายตัวเองผิดด้วยสายตาแข็งกร้าว ก่อนยกมือเป็นสัญญาณให้ลูกน้องหยุดลากตัวชายทั้งสองคน “แลกกับอะไรล่ะ” กชนิภาเงยหน้ามองคนพูด “เงินเหรอคะ คุณต้องการเท่าไหร่ ฉันจะหามาให้คุณค่ะ” อัสวานกระตุกยิ้ม นัยน์ตาประกายความเจ้าเล่ห์ “เงินฉันมีเยอะ เยอะจนฉันใช้ไม่ไหว แล้วฉันจะต้องการเงินจากเธอทำไม” “แล้วคุณต้องการอะไร บอกฉันสิคะ ฉันจะรีบหามาให้คุณ ขอแค่คุณอย่าทำอะไรพี่ชายฉัน ฉันยอมทุกอย่าง” “ฉันอยากได้ของที่ฉันไม่มีมากกว่า” “อะไรคะ คุณต้องการอะไร” เมื่อมีโอกาส กชนิภารีบคว้า “ตัวเธอไงล่ะ ถ้าอยากให้พี่ชายเธอรอด เธอต้องเป็นนางบำเรอของฉัน” กชนิภาตกใจอ้าปากค้าง ดวงตาสั่นไหวเสมือนหัวใจที่เต้นเร็วแรง เธอไม่คิดว่าจะได้ยินประโยคนี้ ประโยคที่ทำให้ ร่างกายทุกสัดส่วนแข็งทื่อ อาการตกใจไม่ได้เกิดแค่กชนิภาคนเดียว ยศวินก็ตกใจไม่คิดว่า อัสวานจะยื่นข้อเสนอนี้ “ฮะซีนจัดการ” ของแบบนี้ต้องมีแรงกระตุ้น ฮะซีนรู้คำสั่ง เขาลากตัวยศวินเข้าใกล้กรงจระเข้ ยศวินออกแรงทั้งหมดที่มีดิ้นรนหนี แต่ก็ไม่ได้ช่วยอะไรได้มาก ในที่สุดยศวินถูกลากไปถึงกรงสัตว์ร้าย ฮะซีนเปิดช่องตรงกรงกำลังทำแบบเดียวกับที่ฮาริมทำกับโอดิล “โรสช่วยพี่ด้วย พี่ยังไม่อยากตาย ช่วยพี่ด้วยโรส” ยศวินร้องตะโกนลั่น ความกลัวอาบทั่วจิตใจ ไม่สนใจว่าการที่ตนรอดตายจะแลกด้วยสิ่งใด “จัดการมันฮะซีน” อัสวานเปล่งเสียงคำสั่ง อาดีบเดินเข้ามาช่วยฮะซีนยกร่างยศวิน “ฉันยอมแล้ว ฉันยอมแล้ว” กชนิภาเสียงสั่น “ฉันยอมคุณแล้ว คุณก็ต้องรักษาสัญญาด้วย” อัสวานกระตุกยิ้ม พอใจกับคำตอบ ซึ่งเขามั่นใจเกินร้อยว่า เธอต้องยอม แล้วก็เป็นไปตามที่เขาคาดเดาไม่ผิดเพี้ยน “คนอย่างฉันพูดคำไหนคำนั้น” อัสวานบอกสาวปากกล้า ก่อนพยักหน้าให้ลูกน้องที่ปล่อยร่างยศวินกับอนันต์ คนเป็นพี่ชายรีบคลานมาหาน้องสาว กอดรัดร่างกชนิภาไว้แน่นแล้วเอ่ยขอบคุณเบาๆ โดยไม่นึกถึงใจคนเป็นน้องสักนิดว่า จะรู้สึกอย่างไร เสียใจมากแค่ไหนที่ต้องใช้ร่างกายแลกชีวิตพี่ชาย “งั้นคุณก็ปล่อยพี่ชายฉันสิ” “ปล่อยแน่ แต่ต้องหลังจากที่เธอทำตามข้อตกลงซะก่อน แล้วฉันถึงจะปล่อยตัวพี่ชายเธอ” “คุณกลัวฉันเบี้ยว แล้วคุณไม่คิดเหรอว่าฉันจะกลัวคุณผิดคำพูด” กชนิภาโต้กลับทันควัน “ฉันไม่เดือดร้อนนะ กับการไม่ไว้ใจฉันของเธอ เพราะคนที่ตายไม่ใช่ญาติพี่น้องของฉัน แต่เป็นพี่ชายเธอ” อัสวานยักไหล่พูด ไม่แยแสใครทั้งสิ้น “ฉันเป็นคนพูดคำไหนคำนั้น ไม่มีตุกติกหรือเล่นแง่” กชนิภามองชายหนุ่มที่เป็นต่อตนทุกทาง อัสวานเหมือนผู้คุมเกม ไม่มีทางที่เธอจะต่อกรกับเขาได้ “ตกลงค่ะ คุณว่ายังไงฉันว่าตามนั้น” อัสวานกระตุกยิ้ม “ฉันจะให้พี่ชายเธอกับเพื่อนอยู่ที่นี่จนกว่าหน้าที่ของเธอจะเสร็จ แล้วฉันจะปล่อยมันสองตัว” กชนิภามองชายหน้าตาหล่อเข้มทว่าจิตใจโหดเหี้ยมทั้งน้ำตา เธอไม่เคยรู้สึกอดสูและตัวเองไร้ค่าเท่าวันนี้เลย แต่ถึงกระนั้นกชนิภาก็ไม่อาจต่อรองกับบุรุษที่ถือถ้วยรางวัลแห่งชัยชนะได้เลย กชนิภาเดินตามร่างสูงใหญ่ของอัสวานออกไปจากห้องใต้ดิน เพื่อทำหน้าที่นางบำเรอตามข้อตกลง

อ่านเลย
มนตร์พิศวาสอสูร

มนตร์พิศวาสอสูร

5.0

บัณฑิตาหนีการคลุมถุงชนมาไกลถึงกรุงลอนดอน คิดว่าจะรอดพ้นจากการถูกบังคับ แต่โชคชะตากลับเล่นตลกกับหล่อน เมื่อมาเจอ “ผู้ชายในคืนนั้น” คืนที่เธอสูญเสียพรหมจรรย์ เขาพันธนาการหล่อนไว้ด้วยความสิเน่หาอันเร่าร้อน “คุณจำผมไม่ได้เหรอ” คำถามชายหนุ่มตรงหน้าเรียกความสงสัยให้บัณฑิตามากว่า ตนเคยเจอเขาด้วยหรือ หล่อนใช้ช่วงเวลาที่รู้สึกว่าไม่ปลอดภัยคิดทบทวนว่า เคยเจอเขาหรือไม่ “ไม่ ฉันไม่เคยเจอคุณ” “อ้อ...ผมลืมไป คุณจำผมไม่ได้ แต่ผมจำคุณได้ดี” คำพูดของเขายิ่งทำให้บัณฑิตางงหนักขึ้น “ผมคือผู้ชายคืนนั้นไง ผู้ชายที่ได้ความสาวของคุณ” เหยื่อติดกับแล้ว ราชสีห์หนุ่มไม่มีวันปล่อยหล่อนเด็ดขาด...

อ่านเลย
จอมมารสองใจ

จอมมารสองใจ

5.0

“มารความสุข...ปัง!” เดลฟีน โบวิเย่ห์ เดอมาแตงค์กระแทกเสียงใส่สิรินยา ภรรยาที่ถูกต้องตามกฏหมาย และเป็นผู้หญิงที่เขาเกลียดที่สุดในชีวิต ก่อนจะปิดประตูใส่หน้าหล่อนโดยไม่สนใจความรู้สึกของผู้เป็นภรรยา เขาสนใจแต่ความรู้สึกของตัวเองเท่านั้น เกลียดคือเกลียด สิรินยาช้ำชอกกับการกระทำของสามีไม่พอ คำพูดของเขาตอกย้ำความเสียใจมากขึ้นไปอีก น้ำตาหล่อนไม่เพียงแค่ไหลอาบแก้ม แต่มันไหลลงไปในหัวใจ ไหลนองอยู่ในนั้น ไม่รู้ว่าวันใดน้ำตาของตนจะเหือดหายไปจากดวงใจเจ็บช้ำเสียที หรืออาจะไม่มีวันนั้นก็เป็นได้ “ทำไมคุณถึงทำกับฉันแบบนี้” “ก็เพราะเธอไม่ใช่เมญ่ายังไงล่ะ แต่เป็นผู้หญิงที่ฉันจะเหยียบหัวใจให้จมดิน” หล่อนเคยถามเขาถึงเหตุผลที่ทำเช่นนี้ และนี่คือคำตอบจากปากของชายที่สิรินยารักสุดหัวใจ เดลฟีนทำตามที่พูดไม่ผิดสักคำ เขาเหยียบหัวใจสิรินยาจนจมดิน กระทืบซ้ำๆ จนแหลกคาเท้าก็ว่าได้

อ่านเลย
หนี้รักทาสเสน่หา

หนี้รักทาสเสน่หา

5.0

พิตตนันท์ถอยร่นจนแผ่นหลังชิดกับผนังปูน โดยมีร่างของชายหนุ่มที่ก้าวย่างเข้ามาใกล้ดั่งมัจจุราช แววตาของเขาทำให้เธอกลัวอย่างบอกไม่ถูก กลัวจนเธอไม่สามารถบรรยายออกมาได้ “อย่าทำอะไรต้นข้าวเลย..ต้นข้าวกลัวแล้ว” เธอพูดทั้งน้ำตา ตอนนี้กัณติพัฒน์หาได้มีความสงสารและเมตตาไม่ เพราะว่าเขาถูกความโกรธและแรงโทสะ รวมทั้งความหึงหวงครอบงำ “มานี่” มือแกร่งกระชากร่างบางของเธออย่างแรง ลากจูงไปที่ห้องนอนของเขาก่อนจะโยนร่างบางไปบนเตียงกว้าง โดยมีร่างของเขาทาบทับอยู่ “เธอจะได้รู้จักความสุขจนแทบกระอัก ได้รู้จักความเจ็บปวดและทรมานอย่างที่ไม่เคยเจอ และนี่คือการตอบแทนที่เธอทอดร่างกายให้คนอื่นเชยชม” เขากัดฟันพูด ดวงตาลุกโชนด้วยความโกรธ มือหนากระชากชุดคลุมของเธอออก แม้ว่ามันจะหนาแต่ก็ไม่ใช่อุปสรรคสำหรับเขา เพราะเพียงครู่เดียวเสื้อคลุมตัวสวยถูกฉีกขาดกระจุยลงไปอยู่ที่พื้น ตามด้วยชุดนอนตัวบางของเธอเป็นชิ้นต่อไป “ไม่..อย่า..คุณกันไม่ม่ม่ม่ม่ม่ม่” เธอกรีดร้องเสียงดังเมื่อความแข็งแกร่งของเขาคืบคลานเข้าไปในร่างกายเธออย่างรุนแรง กัณติพัฒน์ไม่สนใจเสียงที่แผดร้องและเสียงสะอื้นของพิตตนันท์ เพราะตอนนี้เขานึกเพียงสิ่งเดียวคือต้องการลงโทษเธอให้สาสม กับความเสียใจและผิดหวังของเขา แรงเคลื่อนไหวเริ่มทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น ตามอารมณ์ของเขา ร่างกายสาวแทบแหลกสลาย ไม่ว่าจะเป็นทรวงอกอวบที่ถูกเขาบีบเคล้นจนแหลกคามือ ปลายถันที่เขาดูดกลืนและกัดมันเจ็บจนเธอน้ำตาเล็ด รอยฝากรักตามร่างกายกระจายไปทั่ว พิตตนันท์ไม่รู้ว่าเวลาที่โหดร้ายผ่านไปนานเท่าไหร่ หญิงสาวเองไม่อยากสนใจไม่อยากรับรู้ ขอเพียงเขาหยุดการกระทำที่ป่าเถื่อนนี้เร็วๆ ก็พอ

อ่านเลย
เล่ห์รักไฟสวาท

เล่ห์รักไฟสวาท

5.0

“อ้าปากซิ” เขาพูดเสียงเบา ยื่นใบหน้าเข้ามาใกล้ ทำให้สาวเจ้าตกใจเล็กน้อย ผงะศีรษะออกห่างใบหน้าคม หากแต่มือใหญ่ที่จับที่ท้ายทอยรั้งให้กลับคืนมาตำแหน่งเดิม ความใกล้ชิดที่แนบสนิทเรียกความเขินอายให้กับเธอได้อย่างไม่ยาก “อ้าปากซิ” เขาสั่งอีกรอบ หญิงสาวทำตามที่เขาสั่งอย่างว่าง่าย ในใจมีแต่คำถามว่าให้เธออ้าปากทำไม คิมหันต์ยิ้มก่อนจะเฉลยคำถามที่ค้างคาใจของปิ่นปัก ดวงตาสวยงามเบิกกว้างด้วยความตกใจ เมื่อเขาเลื่อนใบหน้าเข้ามาชิดใกล้ ก่อนที่จะทาบทับกลีบปากแสนนุ่มของเธอ ความตกใจเปลี่ยนเป็นความพิศวงงงงวย เมื่อปลายลิ้นหนาที่แทรกซอนเข้ามาในโพรงปากอิ่ม กำลังพันเกี่ยวแลกรัดลิ้นนุ่มอย่างกระหาย หัวใจสาวเต้นระทึกหวามไหวในอก ความรู้สึกนี้เหมือนกับว่าเธอเคยได้รับมาก่อน อ้อมกอดนี้เหมือนกับว่าเธอเคยได้อิงซบไออุ่น มันก็คงใช่เมื่อคืนที่เขาอาจจะจูบเธอกอดเธอแบบนี้ หัวใจของคนที่จูบเต้นแรงไม่แพ้ผู้หญิงที่เขากอดรัด จูบแรกที่เขาสัมผัสเมื่อคืนว่าหวานแล้ว จูบเธอในวันนี้ยิ่งหอมกว่า หวานกว่า ละมุนลิ้นยิ่งกว่า ทุกความรู้สึกเพิ่มทบทวี เขานึกหวงริมฝีปากของคนที่เขาบอกว่าเกลียดขึ้นมา ไม่อยากให้ชายใดครอบครอง ได้สัมผัสลิ้มรสความหวานหอม จากเรียวปากบางนี้เหมือนเขา

อ่านเลย
บำเรอพิศวาสจอมมาร

บำเรอพิศวาสจอมมาร

5.0

“มานั่งตรงนี้สิ” เขาใช้ฝ่ามือตบบนเบาะข้างตัวเบาๆ หญิงสาวมองมือหนาแล้วปฏิเสธออกไปอย่างนุ่มนวล “ดิฉันไม่อาจเอื้อมค่ะ ดิฉันยืนอยู่ตรงนี้ดีแล้ว และมั่นใจว่าคนอื่นๆ ในทีมก็ยืนที่จุดนี้เหมือนกัน” เธอตอบอย่างชาญฉลาด “ดิฉันไม่อาจเอื้อมเหรอ” เขาพูดทวนประโยคด้วยโทนเสียงสูง มองร่างอรชรตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า นัยน์ตาสีฟ้าคู่นั้นโลมเลียอย่างเห็นได้ชัด ยกยิ้มขึ้นข้างหนึ่ง เอ่ยประโยคที่ทำให้คนฟังชาวาบไปทั้งกาย “แต่ฉันจำได้ว่า ผู้หญิงที่ไม่อาจเอื้อมตรงหน้านี้ เคยแก้ผ้ามาประเคนให้ฉันถึงเตียง อย่างนี้เรียกว่าอาจเอื้อมหรือเปล่า ตกลงเธอจะมาหรือไม่มา ถ้าไม่มาก็เชิญออกไปจากห้องของฉัน แล้วพาทีมเธอกลับไปด้วย เพราะฉันก็ไม่ต้องการทีมอารักขาชุดนี้อยู่แล้ว แค่คนของฉันก็พอ” น้ำเสียงทรงอำนาจพูดราบเรียบแต่ทว่าหนักแน่น เธอรู้ว่าดีกว่าใครว่า เขาพูดจริงทำจริงเสมอ และคำสั่งแกมข่มขู่ในครั้งนี้เป็นเรื่องที่เธอจะปฏิเสธไม่ได้ เพราะจะส่งผลต่องานที่ตระเตรียมกันมาเป็นเวลาหลายเดือนต้องพังลง ซึ่งณัฐกานต์คงยอมให้เป็นเช่นนั้นไม่ได้ งานจะมาพังเพราะเธอไม่ได้ เท้าเล็กก้าวเดินไปยังโซฟาตัวนั้นตามคำสั่งของแอรอน ณัฐกานต์เลือกที่จะนั่งชิดด้านริมแทนที่จะนั่งข้างร่างหนาตามที่เขาต้องการ แอรอนใช้ฝ่ามือตบเบาะแรงๆ อย่างขัดใจ หญิงสาวสะดุ้งแต่พยายามนั่งนิ่ง แม้ในใจหวาดกลัว “รังเกียจฉันมากหรือไง ถึงได้นั่งห่างกันเป็นวาขนาดนี้” แอรอนพูดเสียงดัง ด้วยความไม่พอใจ ดวงตาคมเปล่งประกายไปด้วยแรงโทสะ “เปล่าค่ะ...ดิฉันไม่ได้รังเกียจคุณแอรอน แต่คิดว่านั่งตรงนี้น่าจะเหมาะกว่า” เธอพูดเสียงนุ่มแลดูสั่น หัวใจเต้นรัวเป็นทวีคูณ เมื่อร่างสูงใหญ่เป็นฝ่ายขยับร่างเข้ามาใกล้และใกล้ จนกระทั่งชิดกับร่างของตน ลำแขนข้างหนึ่งตวัดร่างเล็กเข้ามาในอ้อมแขน มืออีกข้างจับแก้มเนียนสวยแล้วบีบบังคับให้ดวงหน้าสวยหันมาเผชิญหน้ากับตน ให้เธอได้มองเห็นดวงตากรุ่นโกรธ เหมือนลูกระเบิดที่พร้อมจะระเบิดออกมาได้ทุกเมื่อ หญิงสาวสะบัดตัวหนีด้วยความตกใจ ไม่ใช่รังเกียจ เธอจะรังเกียจอ้อมแขนของเขาได้อย่างไรเพราะอ้อมกอดนี้เป็นอ้อมกอดที่อบอุ่นที่สุด เป็นอ้อมกอดของคนที่เธอรักสุดหัวใจ “ทีหลังฉันสั่งให้นั่งตรงไหนก็ต้องนั่งจำไว้...และนี่คือโทษของเธอที่ขัดคำสั่งของฉัน” การลงโทษของเขาทำให้ณัฐกานต์เบิกตากว้าง ตกใจกับการกระทำของแอรอน ริมฝีปากหนาได้รูปฉกจูบเรียวปากบางสวยอย่างรวดเร็ว ไม่ทันให้หญิงสาวตั้งตัว บดเคล้าเร่าร้อนและรุนแรง รักแสนรัก แค้นแสนแค้น โหยหา คิดถึง หลากหลายความรู้สึกที่เขามีต่อเธอ ถูกถ่ายทอดลงไปบนเรียวปากสีชมพูที่เผยอรับลิ้นหนาแทรกผ่านเข้าไปในช่องปากหวานล้ำโดยไม่รู้ตัว เนื่องจากอารามตกใจทำให้ปากสาวตั้งใจจะเปิดปากร้องค้าน และนั่นเป็นโอกาสให้เขาได้ลิ้มรสหวานในโพรงปากของเธอ ลิ้นใหญ่สอดรัดเกี่ยวกระหวัดหาความหวานจากปากของเธออย่างดื่มด่ำ เพียรหารสชาติพิเศษให้สมกับเวลาสี่ปีที่เขาไม่ได้สัมผัส

อ่านเลย
อุ้มรักสามีไร้ใจ

อุ้มรักสามีไร้ใจ

4.4

"ยัยลูกหมา..." คือชื่อเรียกหล่อน จากปากสามีไร้ใจ ... เขาหมายตาน้องสาว แต่ดันได้พี่สาวมาเป็นแม่ของลูก ด้วยเล่ห์เหลี่ยมของลัดดา ทำให้เขากับครอบครัวไม่พอใจ แล้วนำความรู้สึกมาลงที่หล่อน หน้าที่หลักของหล่อนคือ อุ้มท้องลูกของเขา คลอดมาเมื่อไหร่ ถูกเฉดหัวออกจากบ้านเมื่อนั้น .... ธรรม์บดีมองรองเท้าที่วางเรียงหน้าประตู เขาสวมรองเท้าคู่ซ้ายมือสุด ก้าวเท้าเดินไปยังโรงจอดรถ เพื่อขับรถออกจากบ้าน อีกไม่กี่ก้าวจะถึงรถหรู สีหน้าเขาบึ้งตึงเมื่อเห็นกุลธิรัตน์ยืนอยู่ข้างรถ “คุณอิฐไม่ได้กินมื้อเช้า ลูกหมีกลัวว่าคุณอิฐจะหิว เลยทำแซนวิซให้ค่ะ” กุลธิรัตน์ส่งถุงใส่ของว่างให้สามีที่หลุบตามองแวบหนึ่ง มือใหญ่กระชากถุงจากมือหล่อนแรงมาก “สาระแนนัก ยัยลูกหมา” ธรรม์บดีหมุนตัวเปิดประตูรถ เขาโยนถุงในมือไปตรงเบาะด้านข้างคนขับ สอดตัวเข้าไปนั่งประจำที่ จากนั้นเขาขับรถออกจากบ้านทันที

อ่านเลย
ทัณฑ์รักอสูรร้าย (ภาคต่อสูรร้อนซ่อนรัก)

ทัณฑ์รักอสูรร้าย (ภาคต่อสูรร้อนซ่อนรัก)

5.0

ดวง ตาสีเขียวมองร่างเปลือยของสาวน้อยตรงหน้าด้วยสายตาแค้นเคือง ดุดัน เธอถอยร่นหนีเขาอย่างหวาดผวา ตื่นกลัว ตกใจ ดวงหน้างามสั่นไปมาจนเส้นผมสลวยปลิวไสว เมื่อเห็นเขาถอดเสื้อผ้าทีละชิ้นๆ อย่างใจเย็น ปรางค์รวีพยายามถอดโซ่ตรวนที่จองจำอยู่ที่ข้อเท้า เพื่อที่เธอจะหนีอสูรร้ายที่กำลังย่างกรายขึ้นมาบนเตียง ในสภาพที่ไร้ซึ่งอาภรณ์ “เธอ คิดเหรอว่าจะหนีฉันพ้น?..ไม่มีทาง..ผู้หญิงใจร้ายฆ่าได้แม้กระทั่งลูกของตัว เอง ไม่สมควรจะได้รับความปราณีจากฉัน..เธอจะต้องถูกจองจำจนกว่าเธอจะให้กำเนิด ลูกของฉัน เมื่อถึงตอนนั้นฉันจะส่งเธอไปลงนรกด้วยตัวของฉันเอง” เขา พูดเสียงเข้มกัดกรามทั้งสองข้างแน่น ใบหน้าคมแกร่งบึ้งตึง แววตาของเขาไร้ซึ่งแสงของคำว่าปราณี ปรางค์รวีอยากจะอธิบายให้เขาได้รับรู้เหลือเกินว่า สิ่งที่เขารับรู้ว่ามันผิดทั้งหมด เหตุการณ์ในครั้งนั้นเธอไม่ได้ตั้งใจให้มันเกิดขึ้น หากแต่คำพูดที่จะร้องค้านออกไป ถูกปิดสนิทด้วยริมฝีปากหนาที่ประทับลงมาอย่างป่าเถื่อน จาบจ้วงและดุดัน มือของเขาจับต้องร่างเปลือยของเธออย่างไม่ปราณี โหดร้าย ร่างกายสาวร้าวระบมไม่ต่างกับหัวใจที่ร้าวราน จะมีวันไหนบ้างที่เธอได้รับความรักจากเขา “จำใส่สมองของเธอไว้..ต่อไปนี้เธอคือทาสของฉัน ทาสของความใคร่ที่ไม่มีวันหนีพ้นหรือเป็นอิสระได้” เขา พูดกระซิบชิดเรียวปากนุ่มที่มีเลือดไหลซึมออกมา หญิงสาวเผยอปากที่จะปลดปล่อยคำอธิบายให้เขาฟัง หากแต่ผ้าผืนใหญ่ถูกนำมาปิดที่ริมฝีปาก มือทั้งสอง ข้างที่ว่างอยู่จึงเป็นสิ่งเดียวที่สามารถปกป้องตัวเองได้ เธอทุบร่างหนาไม่เลือกที่ มีแรงมากเท่าไหร่กระหน่ำไปที่ร่างหนามากเท่านั้น หากแต่...ข้อมือทั้งสองข้างของเธอกลับถูกมือหนารวบเอาไว้ ไม่เพียงเท่านั้นเธอยังถูกพันธนาการด้วยเชือกเส้นใหญ่ จับขึงกับซี่ของเตียงไม้หัวเตียง เธอหมดสิ้นอิสรภาพทันที น้ำตาไหลอาบเป็นทางเมื่อขาเรียวทั้งสองข้างของเธอแยกออกจากกัน และจากนั้นความทุกข์ทรมานอย่างแสนสาหัสได้เริ่มขึ้น

อ่านเลย
รอยจูบมัจจุราช

รอยจูบมัจจุราช

5.0

“เธอไม่รอดแน่ คราวนี้ฉันจะจูบเธอทั้งตัว” ... ลีออน สแตนฟอร์ด หนุ่มผู้ดีจากเมืองอังกฤษ เจ้าของฉายา ‘หมาล่าเนื้อ’ เพราะไม่มีเนื้อสมันรายใดหนีรอดเงื้อมมือเขาได้ เหยื่อรายใดที่ถูกจ้อง รายไหนรายนั้นก็มา ‘ทอดกายให้ลิ้มลอง’ มันง่านราวกับปอกกล้วยเข้าปาก แต่เธอ...สมันน้อยแสนงามที่ชายหนุ่มหมายใจตั้งแต่แรกเห็น ว่าน่ากินที่สุด กลับทำให้เขาต้องใช้เวลา ‘ล่า’ นานที่สุดเช่นกัน! ‘เพียงจูบเดียว’ ที่ทำให้เดือนดารา สาวชาวไทยตกเป็นเหยื่อหมาล่าเนื้อโดยไม่รู้ตัว เธอถูก ‘หลอกล่อ’ ให้ติดกับดักที่ลีออนเป็นผู้ชักนำ กว่าจะรู้ตัวทุกอย่างก็สายเกินไป หญิงสาวตกลงไปในบ่วงเสน่หาของเขา ซาตานร้ายจนถอนตัวไม่ขึ้น

อ่านเลย
รักร้อนเพลิงปรารถนา (ภาคต่อรักร้อนเพลิงริษยา)

รักร้อนเพลิงปรารถนา (ภาคต่อรักร้อนเพลิงริษยา)

5.0

ร่างของกัญติญาถูกโยนลงบนเตียงอย่างแรง มือที่ถูกไขว้ไว้ที่ด้านหลังแถมโดนมัดเสียแน่นหนา ทำให้เธอไม่สามารถทำอะไรได้ ส่วนแนวขาอ่อนทั้งสองข้างก็ถูกเขาทุบเบาะๆเพื่อตัดทอนกำลัง ส่งผลให้ขาทั้งสองข้างของเธอไร้เรี่ยวแรงต่อสู้ “เธอจะต้องได้รับโทษที่เธอทำไว้กับฉัน วันนี้เธอจะต้องจดจำไปชั่วชีวิตแน่นอน” กางเกงตัวสวยของเธอถูกถอดออกจากร่างกายตามด้วยอันเดอร์แวร์ โดยกัญติญาไม่ทีทางต่อสู้ได้เลย เธอไม่รู้ว่าอะไรกำลังจะเกิดขึ้นกับตน “เธอเตรียมตัวรอรับโทษจากฉันได้เลย” เขาพูดจบพร้อมกับลงโทษให้เธอรู้สำนึกว่าอย่าบังอาจมาทำร้ายคนอย่างเขา ถ้าเขาเจ็บเธอจะต้องเจ็บยิ่งกว่า และมันก็เป็นอย่างที่เขาตั้งใจไว้จริงๆ “อี๊ดดดดดดดดด..” เสียงกรีดร้องที่ไม่สามารถดังออกมาได้เพราะเธอถูกเสื้อที่เขากระชากติดมือมาอุดไว้ที่ปาก ความเจ็บปวดที่แสนทุกข์ทรมานที่เธอไม่เคยเจอมาก่อน น้ำตาของเธอรินไหลออกมาไม่ขาดสาย ร่างกำยำเริ่มเคลื่อนไหวหลังจากที่แทรกเข้ามาในกลีบกุหลาบของเธอ ในภาวะที่เธอยังไม่พร้อมทำให้ร่างกายของเธอเจ็บปวดอย่างที่สุด กลีบกุหลาบที่ไร้ซึ่งน้ำหวานมาชโลมให้ชุ่มฉ่ำ ร่างทั้งร่างเจ็บปวดจนไม่อาจทานทนได้ มีเพียงน้ำตาที่รินไหลออกมาบรรเทาความเจ็บปวดเท่านั้น กัญติญาร้องไห้แทบจะเป็นสายเลือดเพราะความเจ็บระบมกับสิ่งที่เกิดขึ้น บทลงโทษของเขาทำให้เธอจดจำไม่มีวันลืมจริงๆ เขายังคงเคลื่อนไหวร่างกายอย่างต่อเนื่อง แรงถาโถมที่เขาสาดใส่อย่างแรงอย่างไม่กลัวเธอเจ็บปวด เขาทำตามอารมณ์และจินตนาการที่อยู่ในใจของเขา เสียงสะอื้นและกรีดร้องผ่านเสื้อที่ปิดเรียวปากของเธอ ดังออกมาอย่างต่อเนื่อง แต่เขาหาสนใจไม่ยังคงเคลื่อนไหวบนร่างของเธออย่างไม่หยุดหย่อน จนกระทั่งได้ปลดปล่อยในร่างกายของเธอ รัฐศาสตร์นอนหอบหายใจแรงอยู่ข้างกายเปลือยเปล่าของเธอ หลังจากเสพสมครั้งสุดท้ายเสร็จสิ้น เขาตะแคงหันร่างมาหาเธอที่นอนร้องไห้อยู่ มือหนาไต่ไปตามแนวลำแขนของเธอที่เต็มไปด้วยเม็ดเหงื่อและรอยเขียวจ้ำกระจายอยู่เต็มไปทั่ว “ฉันจะไม่ฆ่าไอ้เคนจิมัน..แต่ฉันจะไล่มันลงเรือแทน และต่อไปนี้ห้ามติดต่อกับมันอีกไม่ว่าจะทางไหนก็ตาม ถ้าฉันรู้เธอเจอหนักกว่านี้แน่ แต่ถ้าเธอคิดหนี พ่อของไอ้เคนจิมันจะต้องหัวใจวายเพราะลูกชายมันแน่นอน” รัฐศาสตร์ลุกขึ้นจากเตียงก่อนจะเดินเข้าไปในห้องน้ำเพื่อชำระร่างกาย แต่ก่อนที่เขาจะก้าวลงจากเตียงเขาปลดเสื้อที่มัดข้อมือและเรียวปากของเธอให้เป็นอิสระ และดึงผ้าห่มมาปิดร่างกายให้ กัญติญานอนร้องไห้กับการกระทำของเขา ทำไมโชคชะตาถึงเล่นตลกกับเธอแบบนี้ เคนจิโร่ทำร้ายเธอทั้งคำพูดและร่างกายเป็นบางครั้ง แต่เธอสามารถทนได้เพราะรักเขาและนึกถึงทางาดะบิดาของเคนจิโร่ที่มีบุญคุณกับเธออย่างใหญ่หลวง แต่สำหรับรัฐศาสตร์เธอเองไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมต้องทนและทนไปเพื่ออะไร หญิงสาวนอนร้องไห้จนหลับไปด้วยความอ่อนเพลียและเจ็บปวด นอนเพื่อให้ร่างกายฟื้นตัวเพื่อต่อสู้กับเขาในวันพรุ่งนี้ รัฐศาสตร์เดินออกมาจากห้องน้ำด้วยชุดลำลอง เขาเดินมาหยุดนิ่งที่ข้างเตียง ยืนมองร่างที่หลับใหลของเธอ ใบหน้านวลยังคงมีหยาดน้ำตาแห้งกรังติดอยู่ เสียงสะอื้นดังออกมาเป็นระยะ เขาบอกตัวเองไม่ได้ว่าสิ่งที่เขากระทำลงไปกับเธอเพราะเหตุใด แต่ที่แน่ๆ คือเขาหวง ไม่อยากให้เธอเข้าใกล้ผู้ชายคนไหน ยิ่งเป็นเคนจิโร่ด้วยแล้ว ความหวงของเขามากเป็นเท่าทวีคูณ รัฐศาสตร์เดินออกไปจากห้องนอนทันที เพื่อจัดการบางอย่างให้เรียบร้อย

อ่านเลย
บำเรอรักนายหัวเถื่อน

บำเรอรักนายหัวเถื่อน

5.0

หล่อนไม่เสียใจที่ตกเป็นของผู้ชายที่เกลียดหล่อนเข้าไส้ แม้จะเป็นได้แค่เพียงดอกไม้ประดับเตียง แต่หล่อนก็ยอมพลีกายให้เขา หากมันจะลบล้างความผิดที่ตนทำไว้... .... “นี่แม่คุณ กอดฉันซะแน่นเดี๋ยวได้จมกันทั้งคู่” “ก็ฉันกลัวนี่” อริศราตอบตามตรง “พาขึ้นเรือได้แล้ว เดี๋ยวจม” “พาขึ้นแน่ แต่เธอต้องให้รางวัลที่ฉันลงมาช่วยเธอก่อน” เมืองแมนมีข้อต่อรอง “ถ้าไม่ให้รางวัลฉัน ฉันจะปล่อยให้เธอจมน้ำ” “คุณอยากได้อะไรล่ะ” ถามไปโดยไม่คิด ตอนนี้อริศราไม่คิดอะไรทั้งนั้น ขอเพียงได้ขึ้นไปจากน้ำเร็วๆ “จูบฉันสิ” เขาตอบ หญิงสาวตกใจกับรางวัลที่เขาต้องการ “ถ้าไม่จูบ ฉันปล่อยนะ” เพียงแค่เขาทำท่าจะคลายลำแขนออก อริศรากอดร่างแกร่งไว้แน่น ยื่นหน้าไปประกบปากหนาอย่างรวดเร็ว “จูบแล้ว” หล่อนบอก “จูบตอนไหน ฉันไม่เห็นรู้สึก” “ก็เมื่อกี้ไง” “เมื่อกี้เรียกจูบเหรอ ฉันรู้สึกแค่เธอเอาปากมาชนปากฉัน อย่างนี้ปล่อยให้จมน้ำดีไหมเนี่ย” “อย่านะ” หญิงสาวรีบบอก เมื่อเห็นเขาจะคลายแขนออกจริงๆ “ฉัน...ฉันจูบไม่เป็น” “งั้นฉันจะสอนให้ สอนแล้วต้องจำนะ เพราะถ้าเธอจูบไม่เป็นสับปะรด ฉันจะจับตัวพี่สาวเธอมาจูบแทน” ขู่ได้ขู่ดี ขู่เก่งยิ่งกว่าหมาเสียอีก... เหอะ...ขู่แบบนี้ ไม่ทำตามก็คงไม่ได้อีกตามเคย โรมานซ์แก้แค้น

อ่านเลย
เดิมพันรักจอมมาเฟีย

เดิมพันรักจอมมาเฟีย

4.7

“ตำแหน่งพี่เลี้ยงไม่ค่อยเหมาะกับเธอสักเท่าไหร่ ลองมาอยู่ในตำแหน่งเมียของฉันไหมล่ะ รับรองว่าจะติดใจจนไม่อยากลงจากเตียง ............. ฟรานเซสโก้ เดอมาร์ชี มาเฟียหนุ่มกลัดมันรักอิสระ ไม่ชอบการผูกมัด ไม่คิดมีใจให้หญิงใด เขาคิดเสมอว่า “ผู้หญิงคือเครื่องบรรณาการทางเพศ” มีไว้เชยชม แต่ไม่ได้มีไว้รักใคร่ เมื่อเสร็จกิจทุกอย่างก็จบ แต่แล้วจู่ๆ ความรักก็หล่นโครม ใส่แบบไม่ทันตั้งตัว เขาจึงคิดอยาก “ผูกมัด” แม่หมัดหนักที่อัดใจเขาซะน่วม ด้วยการ “ไล่จูบ” ทุกครั้งที่เจอหน้า โดยไม่หวั่นกำปั้นหนักๆ เพราะ “เดิมพัน” ที่หวังจะได้นั้นมันคุ้มแสนคุ้ม ............. ไลลา นักมวยหมัดหนักต้องมารับหน้าที่ดูแล “ลูกชายมาเฟีย” ที่ร้ายทั้งพ่อทั้งลูก ปวดหัวกับลูกชายไม่พอ ยังต้องมา “ใจเต้นระทึก” กับคนเป็นพ่อ ที่อยู่ใกล้ครั้งใดต้อง “เปลืองตัว”เสมอ และโดยไม่รู้ตัวเขาก็ “ปราบ” เธอจนไม่เหลือคราบเก่งกาจ แล้วไลลาจะหนีรอดเงื้อมมือมาเฟียหนุ่มได้อย่างไร ในเมื่อเขา “กัดไม่ปล่อย” และเห็นเธอเป็นกวางน้อยแสนเชื่อง ที่อยากขย้ำกินใจแทบขาด

อ่านเลย
อสูรสองหัวใจ

อสูรสองหัวใจ

5.0

“คนไม่มีค่า ไม่จำเป็นต้องถนอม เหมือนกับเธอยังไงล่ะแคท เธอมันก็แค่ก้อนกรวดเม็ดทรายไร้ค่า ไร้ราคา เป็นได้แค่ตุ๊กตามีชีวิตที่ดิ้นระริกอยู่ใต้ระหว่างขาของฉันเท่านั้น” ถ้อยคำของชายร่างใหญ่ที่คร่อมร่างเปลือยของเธอ ช่างเป็นคำพูดที่สร้างความเจ็บปวดให้กับนันท์นภัสมากเหลือเกิน หัวใจดวงน้อยเต้นเร่าด้วยความเสียใจ ร่างกายเย็นเฉียบประหนึ่งเธอฝังตัวอยู่ในหิมะขาวโพลน “คุณอูโก้...” เสียงเจ็บช้ำกล่าวออกไป “ใช่...ฉันคืออูโก้ จำชื่อเจ้าของเธอให้ขึ้นใจ แม่สัตว์เลี้ยงตัวน้อยๆ ของฉัน สร้อยที่ฉันให้เธอใส่มันก็เปรียบเสมือนปอกคอที่สวมให้สัตว์เลี้ยงตัวโปรด ให้คนอื่นเขารู้ว่า เธอมีเจ้าของแล้ว และฉันก็จะไม่ยอมให้ใครมาแย่งสัตว์เลี้ยงของฉันไปได้ นอกเสียจากว่า ฉันจะปล่อยมันไปเอง แล้วก็จำใส่กะโหลกกลวงๆ ของเธอเอาไว้ด้วยว่า ร่างกายของเธอทุกสัดส่วน อย่าให้ใครมาแตะต้อง ไม่อย่างนั้นเธอได้แหลกคามือฉันแน่ วันนี้ฉันจะลงโทษเธอเบาะๆ ที่ริอ่านให้ไอ้แจ็คมันจับมือ ไม่หนักไม่หนาอะไรหรอก...แค่คางเหลืองเดินลงจากเตียงไม่ได้เท่านั้นเอง”

อ่านเลย
อ้อมกอดมัจจุราช

อ้อมกอดมัจจุราช

5.0

“คุณทอร์ช คุณจะทำอะไรฉัน อย่านะ ลุกขึ้นจากตัวฉันเดี๋ยวนี้” มือที่ยังเป็นอิสระทุบไปยังอกกว้างของเขาจนดังอึกๆ เจ้าของอกแกร่งไม่มีอาการสะทกสะท้านแต่อย่างใด รู้สึกรำคาญมือน้อยๆ ของเธอจนเขาต้องจับมันรวบไว้ในมือแข็งแรง “จะทำอะไรน่ะเหรอ ถามโง่ๆ ก็จะปล้ำเธอน่ะสิ เธอยั่วยวนคนงานของฉันจนหัวปั่นเกือบทุกคน ฉันก็เลยอยากจะรู้ว่าเธอมีอะไรดี พวกมันถึงได้หลงเธอหนักหนา ถึงขนาดตามก้นเธอไปไร่ของไอ้ท๊อป สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็น พิสูจน์ด้วยตัวของฉันเองนี่แหละดีแล้ว ร่านดีนักก็จะสนองให้หายอยาก จะได้ไม่ไปยั่วคนอื่นให้เขาฉิบหายเหมือนฉัน” เสียงของเขานั้นช่างเหี้ยมเกรียมจนเธอใจหล่นไปกองยังปลายเท้า และยิ่งสีหน้าของเขาด้วยแล้ว เพลงมีนาอยากจะตายเสียให้ได้ “อย่าคุณทอร์ช...อย่า ฉันไม่ใช่น้องหนู แควกๆๆๆ กรี๊ดดดดด...แควก” คำร้องห้ามของสาวใต้ร่างดูเหมือนจะไร้ผล เพราะตอนนี้อาการหน้ามืดด้วยไอแห่งแรงโทสะมันปกคลุมสมองและจิตใจของเขาจนสิ้น เสื้อผ้าของเธอจึงถูกกระชากติดมือมา แล้วเขาก็ใช้เศษผ้าที่มีความยาวมากที่สุด มัดข้อมือเล็กทั้งสองข้างเอาไว้ ล้วงหยิบผ้าเช็ดหน้าผืนใหญ่ของตนออกจากกระเป๋ากางเกง นำผ้าผืนนั้นมาปิดปากสาวที่แผดเสียงกรีดร้องไม่หยุด มัดปมผ้าไว้ด้านหลังศีรษะสาว “อื้อ อื้อๆๆ” เธอทั้งดิ้นทั้งส่งเสียงร้อง แต่เสียงนั้นไม่อาจหลุดออกมาได้ เพราะมีผ้าผืนใหญ่ปิดปากของเธออยู่ อีกทั้งร่างกายยังถูกร่างหนาคร่อมทับ ทำให้เธอหมดสิ้นอิสรภาพอย่างสิ้นเชิง ดวงหน้าสาวตอนนี้เปื้อนสีเลือด เนื่องจากร่างกายส่วนบนของตนเองเหลือเพียงบราตัวสวยที่ห่อหุ้มดอกบัวงดงามไว้เท่านั้น และเวลานี้เขาก็ก้มมองความอวบใหญ่ตาเป็นมัน “เธอได้อิ่มแน่ เพลง...ฉันจะทำให้เธอคลานลงเตียงเลย” ปากหนาพูด มือใหญ่ค่อยๆ บรรจงถอดบราสีชมพูหวานออกจากร่างสาว ไม่กี่วินาทีบงกชคู่สล้างก็เปิดเผยต่อสายตาร้อนแรงของกวินภพ

อ่านเลย
จอมใจอสูร

จอมใจอสูร

5.0

“จะร้องไห้โศกาอะไรนักหนา?..จะเป็นจะตายอะไรขนาดนั้น..แค่ฉันมีผู้หญิงคนใหม่ที่ดีกว่าเธอ สดกว่าเธอ” อัคราพูดเมื่อรวิษาปิดบานประตูเสื้อผ้า หลังจากที่จัดเสื้อผ้าเข้าตู้เรียบร้อยแล้ว “...........” คำตอบที่เขาได้รับคือความเงียบ รวิษาไม่ตอบคำถามเขาพร้อมกับเบี่ยงตัวหนี เพื่อออกไปจากห้องนี้ให้เร็วที่สุด หากแต่มือหนาจับที่ข้อมือบางไว้แน่น ก่อนที่เธอจะเดินผ่านร่างสูงของเขาไป รวิษาพยายามบิดข้อมือเพื่อให้หลุดพ้นจากแรงบีบกระชับ จนเธอเจ็บระบมที่ข้อมือ “ทำเป็นสะดีดสะดิ้งไปได้..ทำอย่างกับว่าฉันไม่เคยจับต้องตัวเธอ..ลืมไปแล้วหรือว่าฉันทำมากกว่าจับข้อมือของเธออีก” อัคราพูดด้วยสีหน้าและน้ำเสียงเยาะเย้ย มุมปากของเขายิ้มน้อยๆ เหมือนผู้มีชัย “ปล่อยเถอะค่ะ..คุณไม่กลัวคุณแจนเห็นหรือไง?” “ทำไมต้องกลัว..เพราะตอนนี้มานะกำลังพาแจน ไปเอาของที่เค้าลืมไว้ที่บ้าน..กว่าจะกลับมาก็คงดึก” เขาพูดพร้อมกับกระชากร่างของเธอเข้ามาอยู่ในอ้อมกอด รวิษาพยายามดิ้นรนหนีจากอ้อมแขนที่รัดร่างเธอเหมือนกับงูที่ยิ่งดิ้นรนหนี ก็ยิ่งเพิ่มแรงรัดมากยิ่งขึ้น “ปล่อย..ปล่อย” “ยังมีเวลาอีกหลายชั่วโมงกว่าแจนจะมา ฉันว่า..เรามาหาอะไรเล่นสนุกๆ ฆ่าเวลากันดีกว่า” อัคราเหวี่ยงร่างบางลงไปที่เตียงนอนกว้างอย่างแรง ตามด้วยร่างกายหนาที่ทาบทับร่างบาง พร้อมกับ ริมฝีปากที่ฉกจูบเธออย่างจาบจ้วงรุนแรง บังคับให้เธอเผยอปากรับเรียวลิ้นหนาสะอาดอย่างไม่ยากเย็น ปลายลิ้นหนาสอดรัดเรียวลิ้นบางพัวดันดูดดึง และเกี่ยวรัดอย่างเอาแต่ใจ ครั้นเมื่อเธอส่ายหน้าสะบัดหนีริมฝีปากที่รุกราน มือหนากลับจับมั่นที่ท้ายทอยบังคับให้เธอตอบรับจูบที่ดุดันของเขา

อ่านเลย