ดาวน์โหลดแอป ฮิต
หน้าแรก / โรแมนติก / ซีรีส์คู่รักข้างรั้ว
ซีรีส์คู่รักข้างรั้ว

ซีรีส์คู่รักข้างรั้ว

5.0

"มะนาว" ครูสอนโยคะสายสุขภาพที่รักความสงบ ย้ายมาอยู่บ้านใหม่หวังจะมีชีวิตเรียบง่าย…แต่ดันต้องเจอเพื่อนบ้านข้างรั้วอย่าง "ภูผา" วิศวกรหนุ่มเสียงดังที่ชอบทำอะไรปั่น ๆ จนเธอหงุดหงิดไม่เว้นแต่ละวัน เสียงเพลง เสียงเลื่อย เสียงหัวเราะของเขา คือสิ่งที่เธออยากปิดประตูหนี แต่แปลก…เมื่อไรที่มันหายไป หัวใจกลับโหวงเหวงราวกับขาดอะไรบางอย่าง รั้วที่กั้นอาณาเขต อาจกั้นบ้านได้…แต่กั้นหัวใจไม่ได้เลย

สารบัญ

บทที่ 1 1

เสียงใบไม้เสียดสีกันในยามเช้าเหมือนคนกระซิบปลอบใจ มะนาววางเสื่อโยคะสีเขียวบนชานไม้หน้าบ้านใหม่ สูดลมหายใจยาว ๆ ให้ปอดรับกลิ่นดินชื้นหลังฝนเมื่อคืน ทั้งซอยเงียบสงบ มีเพียงเสียงนกเขาไกล ๆ จนกระทั่ง

เสียงกีตาร์ที่ดังขึ้นทำให้ความสุขสงบจางหายไปในทันที

มะนาวนิ่งค้างในท่าภูเขา ค่อย ๆ หันไปทางรั้วไม้สีน้ำตาลด้านข้างที่สูงท่วมหัว เพลงดังจนรู้สึกถึงจังหวะบนพื้นเสื่อ

โอเค... เพื่อนบ้านคนใหม่ของเธอคงตื่นเช้าเพื่อซ้อมคอนเสิร์ตกลางสนามหญ้า

“สูดลมเข้า เอาความหัวร้อนออก” เธอกระซิบกับตัวเอง พยายามผ่อนลมหายใจยาว ๆ อีกครั้ง

เสียงกีตาร์ลากยาวพลิ้วลงสู่ท่อนฮุค เสียงร้องชายสดใสและดังพุ่งตามมา

“โอ๊ย!” มะนาวถึงกับสะบัดมือ หลุดจากท่าต้นไม้ เกือบเสียหลักเหยียบกระถางโรสแมรี

โทรศัพท์ดังขัดอารมณ์ เธอจิ้มรับสาย

“ว่าไงแหวนแก้ว”

เสียงหัวเราะของเพื่อนสนิทดังมาตามสาย

“ย้ายบ้านใหม่เป็นไงบ้างคะ แม่ครูโยคะสายสงบ”

“สงบมาก ถ้าตัดเสียงคอนเสิร์ตลานเบียร์ข้างรั้วทิ้งไปได้” มะนาวตอบหน้าตาย กรอกตาไปมา พลางถอนหายใจยาวเหยียด

“อ้าว” แหวนแก้วลากเสียงยาว

“ไหน ๆ เปิดลำโพงให้ฟังหน่อย”

มะนาวยกโทรศัพท์ขึ้นเหนือหัว เสียงดนตรีทะลุผ่านลำโพงโทรศัพท์จนปลายสาวหัวเราะคิก

“ได้ยินยัง”

“อืม....” แหวนแก้วครางรับ

“อย่าเพิ่งหงุดหงิด ใจร่ม ๆ เข้าไว้ ต่อไปอาจจะเป็นเพื่อนบ้านที่ดี ได้คุยกันทุกวัน”

“ใครจะคุยกับหมอนั่นกัน” มะนาวกลอกตาไปมา

“ฉันวางก่อนนะ ขอไปสงบสติอารมณ์ก่อน”

“โอเคจ้ะ” แหวนแก้วตอบรับเสียงหวาน

มะนาวกดวางสาย พยายามดึงสติกลับมาที่ลมหายใจ แต่ท่อนโซโล่กีตาร์ก็ไต่โน้ตลื่นปรื๋อจนความสงบไต่ตามไม่ทัน ในที่สุดมะนาวตัดใจม้วนเสื่อโยคะ พับความหวังเรื่องเช้าอันเงียบสงบเอาไว้ แล้วเดินลงบันไดไปยังหน้าบ้าน

ประตูไม้บานเล็กที่รั้วฝั่งข้าง ๆ เปิดออกพอดี ผู้ชายรูปร่างสูงในเสื้อยืดสีเทาเปื้อนคราบน้ำมันยืนกอดกองสายไฟไว้เต็มสองแขน แถมยังมีหูฟังพาดคออยู่

เขาชะงักเมื่อเห็นมะนาว

“สวัสดีครับ” เขาเอ่ยทักทาย เธอสะบัดหน้าหนี

“เพลงดังไปหน่อย ขอโทษทีครับ”

“หน่อย” มะนาวยิ้มสุภาพแบบกัดฟัน

“มันไม่หน่อยเลยค่ะ”

ชายหนุ่มเกาท้ายทอย

“ผมกำลังเทสต์ลำโพงที่ซ่อมอยู่ ดันลืมปรับโวลุ่ม ถ้าอย่างนั้นต้องขอโทษอีกครั้งครับ รอบหน้าจะพยายามเบาลงนะครับ”

“ขอบคุณค่ะ” มะนาวตั้งใจว่าจะจบแค่นี้ แต่สายตากลับไปจับที่ป้ายชื่อบ้านฝั่งโน้น

“บ้านภูผา” ตัวอักษรไม้แกะสลักติดอยู่บนกำแพง เธอพึมพำ

“ภูผา”

“ครับ” เขาเงยหน้าขึ้นมายิ้ม ดวงตาเป็นประกายซน ๆ

“ชื่อบ้านเพราะดีค่ะ” เธอเผลอชม

“ฉันมะนาว เพิ่งย้ายมาอยู่บ้านหลังนี้ ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะ”

“ผมภูผาครับ ยินดีต้อนรับเพื่อนบ้านใหม่ครับ ถ้ามีอะไรให้ช่วยบอกได้เลยนะครับ หรือถ้าเสียงรบกวนก็ตะโกนบอกได้นะครับ”

“ตะโกนยังไงก็ไม่น่าจะชนะลำโพงพี่หรอกค่ะ” เธอยิ้มบาง แต่ปลายเสียงสะบัดนิด ๆ ทำเอาภูผาต้องหัวเราะออกมา

“โอเค ผมจะปรับปรุงครับ” ว่าแล้วเขาก็ยกกองสายไฟกลับเข้าบ้าน เพลงเงียบลงอย่างน่าอัศจรรย์ ซอยกลับมาสงบเฉียบจนได้ยินเสียงลมหายใจของตัวเอง

มะนาวถอนใจอย่างโล่งอกและเขินนิด ๆ กับความปากกล้าของตัวเอง เธอกลับขึ้นชานบ้าน คลี่เสื่ออีกครั้ง ตั้งใจจะเริ่มท่าใหม่อย่างใจเย็น คราวนี้มีความนิ่งสมใจ ท้องฟ้าสดใสขึ้นเรื่อย ๆ จนแดดอุ่น ๆ ลูบไล้ผิวแก้มเบา ๆ

สายหน่อย มะนาวขับรถคันเล็กออกไปซื้อของเข้าบ้าน ร้านชำหัวมุมซอยมีป้ายผ้าสีซีดปลิวไหว เธอผลักประตูไม้เข้าไปอย่างเบามือ

“อ้าว หน้าคุ้น ๆ บ้านใหม่ท้ายซอยนั่นใช่ไหมหนู” ชายวัยห้าสิบกว่าในเสื้อเชิ้ตลายสก็อตเอ่ยทักทาย

“ยินดีต้อนรับจ้ะ”

“สวัสดีค่ะลุง หนูชื่อมะนาวค่ะ เพิ่งย้ายมาเมื่อวาน” เธอยิ้ม

“ขอซื้อนม ขนมปัง ไข่ แล้วก็ปลั๊กพ่วงค่ะ”

“ได้ ๆ” ลุงชัยขยับตัวอย่างคล่องแคล่ว หยิบของทีละอย่าง

“บ้านใหม่ใกล้ ๆ ภูผาใช่ไหม”

มะนาวชะงัก

“ลุงรู้ได้ไงคะ”

“รู้สิ” ลุงหัวเราะอย่างภูมิใจ

“ไอ้ภูมันเสียงดัง ใครอยู่ข้าง ๆ ต้องมีบ่น”

ลุงชัยวางปลั๊กพ่วงลงบนเคาน์เตอร์

“เสียงดังจริงค่ะ” เธอเห็นด้วย ก่อนหัวเราะแห้ง ๆ จ่ายเงินแล้วรีบหิ้วถุงกลับ

บ่ายวันเดียวกัน เธอขนกล่องหนังสือขึ้นชั้นบน พอวางกล่องสุดท้ายก็ปวดช่วงหลังจนต้องยืดตัว พลันได้ยินเสียงเครื่องยนต์หน้าบ้าน เธอโผล่หน้าไปจากหน้าต่าง เห็นภูผากำลังยืนเปิดฝากระโปรงรถตัวเอง มือหนึ่งคีมคีบสายไฟ อีกมือจับไฟฉาย เขาเงยหน้ามาพอดี

“ทำอะไรอยู่ครับ ให้ช่วยไหม” เพราะได้ยินเสียง เขาคิดว่าเธอน่าจะกำลังขนของอยู่

“ไม่เป็นไรค่ะ ฉันอุ๊ย!” กล่องอีกใบลื่นจากมือ ตุ้บ! หนังสือโยคะกับสมุดวาดรูปปลิวกระจาย

“ให้ช่วยไหมครับ” ไม่ทันขาดคำ ภูผาก็โผล่มาที่บันไดหน้าบ้าน

“ระวังหลังนะครับ เดี๋ยวช่วยยก” เขาหยิบกล่องขึ้นด้วยท่าทางสบาย ๆ

“ขอบคุณค่ะ” มะนาวยืนกอดสมุดแนบอก

“เมื่อตอนเช้าบ่นพี่ไปเยอะเลย ขอโทษนะคะ”

“ไม่เป็นไรเลยครับ ผมผิดเอง เปิดเพลงดังจริง” เขายิ้ม

“ขอโทษแทนลำโพงด้วย”

มะนาวเผลอยิ้มตาม

“รับทราบค่ะ” ทั้งสองช่วยกันยกของขึ้นชั้นบนสี่ห้าเที่ยว คุยกันเรื่องต้นไม้ในสวนและเส้นทางวิ่งออกกำลังในหมู่บ้าน ภูผาเอ่ยถึงหมาจรหน้าปากซอยชื่อข้าวปั้นที่เขาแอบซื้อไส้กรอกให้ประจำ ทำให้เขาดูอ่อนโยนขี้เล่นในเวลาเดียวกัน เมื่อจัดของเรียบร้อย ภูผาก็เช็ดเหงื่อเบา ๆ

อ่านต่อ
img ไปดูความคิดเห็นเพิ่มเติมที่แอป
ออกใหม่ล่าสุด: บทที่ 22 22   เมื่อวาน12:25
img
img
ดาวน์โหลดแอป
icon APP STORE
icon GOOGLE PLAY